:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม
ต่อ
      ริมแม่น้ำก็ยังเป็นแบบเดิม คือ ภูเขาทั้งนั้น กลางแม่น้ำ
ก็ยังเป็นแก่งหิน เรือต้องคอยหักหลบตลอด คนขับเขารู้จักเส้นทางดี
ก็เลยรู้สึกปลอดภัย โนริโอะเดินเล่นบนเรือ ผมก็นั่งชมวิวเรื่อยเปื่อย
ดูไร่ชาวลาวบนภูเขา ดูคันเบ็ด และตาข่ายจับปลา ที่เสียบอยู่ตามหิน

   เห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อยู่ประปราย เรือช้าแล่นไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ
แม้ว่าจะมีเรือเร็วหลายลำวิ่งผ่านผมก็ไม่ได้อิจฉา เพราะท่าทางผู้โดยสาร
จะทรมานเหลือเกิน เพราะเร็วมาก และกระแทก... ผมเผ้าไม่ต้องพูดถึงเลย
หน้าตาก็ประทะแรงลมที่ความเร็วขณะนั้น.....หวาดเสียว !!!

     เรือช้าก็มีจอดรับส่งผู้โดยสารบ้าง แต่ก็นาน ๆ ที
ชาวลาวที่กระโดดขึ้นเรือแถว ๆ นี้ดูเหมือนชาวเขา และพูด
ภาษาที่ผมฟังไม่ออก ... ตอนนี้ผมพยายามให้ร่างกายโดนแดด
ให้มากที่สุด แม้ว่าจะบ่ายแต่ก็ยังหนาว พอแดดส่องด้านไหนก็ย้ายไปนั่งด้านนั้น

  โนริโอะเล่นกับเด็กน้อยชาวลาวบนเรือ
เด็กไม่กี่ขวบพูดยังไม่เป็นคำเลย แต่ดื้อเหลือเกิน
พอไม่มีอะไรจะทำผมก็กลับมานอนที่เดิมอีก คราวนี้ก็นอนหลับยาว
ตื่นอีกทีก็เย็น เรือก็ใกล้จะถึง ปากแบง แล้ว...
ถามคนเรือบอกว่าจะถึง 5 โมง.... อากาศหนาวอีกแล้ว
ดวงอาทิตย์กะลังลับขอบฟ้าที่หลังเขาด้านหน้า

       แสงส้ม ๆ แยงตา... สวยมาก สวยจริง ๆ
บรรบากาศธรรมชาติล้วน ๆ ผมหยิบกล้วยขึ้นมากินให้หมด
จากนั้นก็เก็บขยะรวมกันใส่ถุงไว้...เรือกะลังจะเข้าจอดเทียบท่า
ท่าเรือปากแบง มีเรือเยอะมาก.....ที่จอดก็ไม่ค่อยดี จอดเสร็จ
ผู้โดยสารก็ทะยอยขึ้นบก และปีนขึ้นไปอีกเพราะ ทางชันมากและมีแต่ทราย

            เด็ก ๆ ชาวปากแบงเฮโล กันลงมาในลำเรือ
เสนอตัวแบกข้าวแบกของ วุ่นวายไปหมด จนเจ้าของเรือต้องไล่ให้ออกไป
เราค่อย ๆ ปีนขึ้นไปและยืนรอ ใครสักคนเพื่อที่จะถามว่า
เรือออกกี่โมงพรุ่งนี้ ก็ผมลืมถามก่อนขึ้นบกไง

   2 พ่อลูกชาวลาวที่เราเล่นด้วย บอกเราว่าเรือออก 1 โมง
ลำเดิม... เราเดินเข้าตัวหมู่บ้าน ปากแบง มีร้านอาหารเยอะมากและ
ก็มีเกส เฮ้าส์มาเสนอราคาเยอะด้วย เราแวะกันที่เกส เฮ้าส์แรก เพราะราคา
100 บาท เข้าไปดูห้องก็เห็นว่าพอทน ก็เลยตอบตกลง
   
    2 เตียงห้องน้ำนอก เตียงก็แบบ โส ๆ นะ 
ห้องน้ำก็ไม่ดีเลย แต่ก็เอาล่ะวะ...คืนเดียวเอง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไป
เก็บข้าวของ แล้วเราก็ออกหาของกิน เลี้ยวแหมะเข้าร้านที่ไม่มีคนนั่ง
เพราะคิดว่าจะได้กินเร็วที่สุด สั่งเฝ๋อ ไป 2 ชาม ราคาที่ 6,000 ต่อชาม

  ร้านนี้จุดเทียนทั้งร้านเลย
เราสั่งแล้วก็นั่งรอ รอ.......รอ และรอ....
รอ..นานทากกก....สังเกตว่าเขายังไม่ทันได้เตรียมอะไรสักอย่างเลย
นั่งฟังเขาคุยกัน ร้านนี้ถือได้ว่ามารยาททรามกันจริง ๆ ใช้คำด่ากัน
ตะโกนโหวกเหวก ผมเริ่มทนไม่ไหว.. บอกโนริโอะว่าหากเขายังไม่ทำอะไรล่ะก็
ไปดีกว่า 

       สาเหตุที่เขาไม่ทำอะไรคือ คนทำไม่อยู่และไอ้เด้กเวรทั้งหลายที่
เฝ้าร้านอยู่มันทำไม่เป็น จึงทิ้งลุกค้าไว่เฉย ๆ โดยไม่บอกว่าคนทำไม่อยู่
เรารออีกต่อไป กว่าจะได้กินเกือบ ชั่วโมง
เป็นการรอคอยที่นานที่สุดเท่าที่ผมเคนรอ สำหรับก่ซยเตี๋ยว 1 ชาม

  อิ่มแล้วเราก็จ่ายเงิน เดินปัดตูดหนีออกจากร้านนี้อย่างเร็วไว
โนริโอะ ซื้อเบียร์ลาวขวดนึง เอาเข้ามาดื่มในห้อง... เออ ดื่มเก่งว่ะ
ผมบอกโนริโอะว่าต้องรีบอาบน้ำนะเพราะว่า 3-4 ทุ่มไฟก็จะไม่มีแล้ว
และก็จริงดังคาดเอาไว้ 

    คืนนี้เราเข้านอนกันหัววันจริง ๆ .....
โนริโอะเมาเบียร์หรือยังไง ไฟดับแล้วแต่ยังเพ้อไม่หยุด
เฮ้อ.......... ที่ใดมีรักที่นั่นมีคนเพ้อ.. ผมบอกให้หยุดได้แล้ว
และก็รีบ ๆ นอน อย่าลืมว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
     
กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 10 เดินทางไกล