คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 3

โธทกล่าวถึงกุญแจที่จะไขไปสู่ "ปัญญา" ที่จะนำมาซึ่ง "พลัง" และพลังจะทำให้เกิดปัญญาว่าอยู่ที่ความถ่อมตัว เพราะ ผู้ที่ยะโสหลงตัวเองคือคนโง่ที่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้

คนเราพึงปฏิบัติตามคำสั่งของ "คุรุ" หรือสิ่งที่อยู่ในตัวเรา หรือ "อาตมัน" ทรัพย์สมบัติเป็นเพียงวิธีการ ไม่ใช่เป้าหมาย เมื่อความต้องการทางวัตถุได้รับการตอบสนองแล้ว ควรหันมาสนใจยกระดับจิตวิญญาณ "อาตมัน" หรือ "ใจที่แท้" ตั้งอยู่ในบริเวณกึ่งกลางของหัวใจ ที่เชื่อมโยงกับต่อมไพนีลในสมองได้

"ใจที่แท้" นี้ไม่แค่สนใจแสวงหาเรื่องความมั่งคั่งเลย มันสนใจแต่เรื่อง "ความเป็นพระเจ้า" หรือ "ความบริสุทธิ์ของจิตเท่านั้น"

"ความรัก" เป็นจุดเริ่มต้นของ "ทาง" และเป็นจุดสิ้นสุดของ "ทาง"

โธทเน้นความเป็นเอกภาพของทุกๆสิ่งในจักรวาล ที่ถูกหล่อเลี้ยงด้วย "ความรักอันยิ่งใหญ่" ความสงบเงียบ คือกุญแจสำคัญไปสู่ความรุดหน้า จงใช้ความสงบเงียบรักษาพลังภายในตัวเราไว้ อย่าหลงตัวเอง ว่าเรายิ่งใหญ่กว่าใครอื่น เพราะทุกคนต่างก็เป็นเพชร ต่างกันที่บางคนเป็นเพชรที่ยังไม่เจียระไนเท่านั้น

ร่างกายเป็นธาตุดินที่หยาบ จิตเป็นธาตุไฟที่ละเอียด ก่อนที่จิตวิญญาณจะเข้ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับ "พระอาทิตย์ดวงแม่" (พระอาทิตย์ในโลกทิพย์) จิตวิญญาณจะต้องละจากร่างกายที่เป็นวัตถุหยาบเสียก่อน

พลังสร้างสรรค์เกิดจากการเปิดตาที่สามหรือต่อมไพนีล คนธรรมดาตาที่สามจะเปิดอยู่เล็กน้อย ต้องฝึกฝนให้ตาที่สามเปิดกว้างเต็มที่ เพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกับปรมาตมันได้ มีแต่ความเพียรกับประสบการณ์เท่านั้น ที่จะทำให้จิตใจหลุดพ้นจากความมืดมิดได้ วัตถุเป็นเพียงรูปการที่แสดงออกมาของจิตเท่านั้น ขั้นสุดท้ายวัตถุกับจิตจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

สรรพสิ่งล้วนอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มนุษย์เพียงใส่ "จิต" เข้าไปในกฎของธรรมชาติเท่านั้น "ปัญญา" จะมาหาแก่ผู้แสวงหามัน สิ่งสำคัญคือ "โลกทางวัตถุคือมายาที่เกิดจากใจของผู้ที่มีอวิชชา แต่โลกวัตถุนี้ก็เป็นการสำแดงตนของพระเจ้าผู้สร้างโลกด้วยเช่นกัน (กฎของจักรวาล) ไม่ว่าจะเป็นยุคใดก็ตาม "ผู้ที่ตื่นแล้ว" จะได้รับแสงสว่าง ปัญญา และความเร้นลับเสมอ

จากเนื้อความข้างต้น

หากท่านได้อ่าน หัวข้อ ฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ กับศาสนาตะวันออก คงพอเห็นถึงความ "เหมือน" ของสิ่งที่ศาสนาตะวันออก ได้ "สำแดง" ออกมา

คัมภีร์มรกต แผ่นที่ 4

โธทได้กล่าวถึงประสบการณ์ทางจิตในการท่องจักรวาล จนเขาได้พบกับ "จิตสำนึกแห่งจักรวาล" และได้เรียนรู้ว่ามนุษย์เป็นส่วนหนึงของจิตสำนึกแห่งจักรวาลนี้ ดุจความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับเซลล์สมอง โธทได้แนะวิธีถอดกายทิพย์ออกจากกายหยาบว่า วิธีที่ดีที่สุดคือการขยาย "โซล่าเพลกซีส" (จักรสะดือ) หรือ "ดอกไม้แห่งชีวิต" ในกายคนให้ใหญ่ขึ้น จนพลังชีวิตไหลเข้ามากระตุ้นกายหยาบให้ทำงานอย่างมีชีวิตชีวา เพื่อเป็นการเตรียมให้จิตออกจากร่างได้ราบรื่น ต่อไป ทำการอดอาหารในช่วงสั้นๆ ราวๆหนึ่งวัน เพื่อตัดความรู้สึกภายนอกและไม่พูดจาใดๆ อยู่ในความสงบ เมื่อความสงบบรรลุถึงภาวะสมบูรณ์ โดยผ่านการโน้มนำแห่งจิตแล้ว ให้เพ่งจิตไปที่ต่อมไพนีล ที่เป็นที่ตั้งของจิตวิญาณ ก่อนที่จะนึกถึงสถานที่ที่กายทิพย์ต้องการจะไป โดยจะต้องทำการสั่นขึ้นที่ต่อมไพนีล จากนั้นให้จิตหมุนภายในสมอง แล้วให้จิตเคลื่อนที่ออกนอกศีรษะไปตามเส้นโค้งที่เกิดจากการหมุนข้างในนั้น (เป็นหลักการที่เหมือนกันอย่างน่าทึ่ง ของ "สมาธิหมุน" (สมาธิหมุน หรือมังกรจักรวาลภาค 1 เขียนโดย ดร.สุวินัย) กับสิ่งที่โธทกล่าว)

การสั่น (Vibration) เป็นความเร้นลับอันยิ่งใหญ่ สรรพสิ่งล้วนเป็นความสั่นของคลื่นทั้งสิ้น การสั่นของคลื่น เป็นกุญแจของการสร้างจิตที่หลุดพ้น หากอยากเข้าถึงปัญญา ก็ต้องหมั่น "ภาวนา" เพราะการภาวนาเป็นการปรับการสั่นของคลื่น ให้สอดคล้องกับพระผู้เป็นเจ้า

(การสั่น = การปรับคลื่น จูนคลื่น เพื่อเข้าสู่ความถี่ความถี่หนึ่ง ที่ยังเข้าไม่ถึง และไม่สามารถมองเห็น) 

homepage สารบัญ next back