สารจากนายกสมาคม

                    งานประเมินค่าทรัพย์สินซึ่งพวกเรายึดถือเป็นวิชาชีพอยู่นี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในส่วนรวมคือภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งนี้เพราะมูลค่าของ ทรัพย์สินเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ถูกนำไปใช้ในการวางแผนดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจ ถดถอยเช่นปัจจุบันนี้ มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกต้องตามหลักวิชาได้มาตรฐานและมีคุณภาพย่อมเป็นที่ ต้องการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงเป็นภาระของพวกเราที่จะต้องช่วยกันทำให้วิชาชีพนี้เป็นที่รู้จ้ก และยอมรับกันโดยทั่วไป ไม่จำกัดอยู่เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

                    ในโอกาสที่ผมได้เข้ามารับหน้าที่นายกสมาคม ขอเรียนว่าผมมีความมุ่งหวังที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ ประการแรก มุ่งหวังให้งานประเมินค่าทรัพย์สินในประเทศไทย มีคุณภาพและได้มาตรฐานเป็นสากลเทียบเทียม อารยประเทศ ประการที่สอง มุ่งหวังให้งานประเมินค่าทรัพย์สินมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนา เศรษฐกิจของประเทศ และประการที่สามคือมุ่งหวังให้นักประเมินค่าทรัพย์สินได้รับการยอมรับจากสังคมว่าเป็น ผู้ประกอบวิชาชีพที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี

                     การจะไปสู่จุดหมายดังกล่าวนั้นต้องใช้วิธีการหลายอย่างและใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่เรื่องสำคัญ ที่ต้องรีบดำเนินการก็คือ การพัฒนาคุณภาพของนักประเมินค่าทรัพย์สิน การพัฒนามาตรฐานของงาน และการควบคุม จรรยาบรรณในวิชาชีพซึ่งผมและกรรมการบริหารของสมาคมมีความเห็นตรงกันว่าจะต้องจัดให้มีการฝึกอบรมด้าน วิชาการแก่เพื่อนสมาชิกให้บ่อยครั้งยิ่งขึ้นในลักษณะของการฝึกอบรมระยะสั้น เพื่อการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน ของงาน รวมทั้งพิจารณาแก้ไขปรับปรุงข้อกำหนดของสมาคมในเรื่องคุณสมบัติของสมาชิกให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และในส่วนของการควบคุมจรรยาบรรณในวิชาชีพนั้น คงเป็นเรื่องที่ท่านสมาชิกจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบว่านักประเมินผู้ใดมีพฤติกรรมไม่ถูกต้องหรือผิดไปจากจรรยาบรรณตามข้อกำหนดของสมาคม ก็ขอให้โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อพิจารณาดำเนินการให้เกิดความชัดเจนต่อสาธารณชน

                   นอกจากนี้ ผมใคร่ขอความร่วมมือร่วมใจจากท่านสมาชิกไม่ว่าจะอยู่ในสายงานใดหรือหน่วยงานใด ให้ช่วยกันสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมในแต่ละกิจกรรม ซึ่งมีคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิช่วยกันกำกับดูแล อยู่ ให้ได้ผลดีอย่างเต็มที่ และแสดงความเป็นเอกภาพด้วยการสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายใต้ สมาคมในฐานะ องค์กรรวม ของนักประเมินค่าทรัพย์สินในประเทศไทย อย่าได้มีการแบ่งแยกในเรื่องส่วนตัวหรือผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อให้วิชาชีพประเมินค่าทรัพย์สินมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าซึ่งจะเป็นผลดีทั้งต่อสมาคมและสมาชิกทุกท่าน

นายวิเชียร รัตนะพีระพงศ์
นายกสมาคม