ความสำคัญของการชั่งตวง
            การปรุงอาหารของคนไทย แต่ตั้งเดิมในสมัยโบราณ นิยมใช้การคะเนสัดส่วนของเครื่องปรุงแต่ละชนิด ตามความเคยชินโดยอาศัยความสังเกตและประสบการณ์  ที่บอกเล่าต่อๆมาหรือใช้ภาชนะที่มีอยู่กะคะเน เช่น ใช้ทะนาน(กะลามะพร้าว)  กระป๋องนม
หรือใช้กำมือ เรียกว่า หนึ่งกำมือ สองกำมือ ถ้าส่วนผสมที่มีจำนวนน้อย ก็จะใช้ปลายนิ้วเรียกว่า หนึ่งหยิบมือ สองหยิบมือ ฯลฯ นอกจากนั้นยังใช้ เทียบกับขนาดสิ่งของที่เรารู้จักทั่วไป เช่น ขนาดเท่าไข่ไก่ ขนาดเท่าหัวแม่มือ เป็นต้น ฉะนั้นการปรุงอาหารของคนไทยจึงเป็นเรื่องยาก ผู้ที่ได้ชื่อว่า ปรุงอาหารรสอร่อย ต้องมีการฝึกฝนอย่างแท้จริง และมีประสบการณ์การปรุงอาหารอย่างมาก แต่ในปัจจุบันนี้นิยมการชั่งตวง สัดส่วนแน่นอนและมีมาตรฐาน โดยใช้เครื่องมือที่เป็นมาตรฐาน ดังนี้

 ถ้วยตวง ที่ใช้กันอยู่มี 2 ชนิด

ถ้วยตวงสำหรับของเหลว ได้แก่ น้ำนม น้ำมัน  กะทิ ฯลฯ
          การตวงของเหลว ต้องใช้ถ้วยตวงที่ทำด้วยแก้ว ถ้วยตวงแก้วจะมีส่วนสูงเกิน 
ขีดสูงสุดเล็กน้อยเพื่อกันหก และมองดูระดับสายตาได้ เวลาตวงต้องวางถ้วยตวงบนพื้นที่เรียบ   เทของที่ต้องการจะตวงลงไปจนถึงขีดที่ต้องการ   ตาจะต้องอยู่ในระดับขีดที่ต้องการในขณะอ่าน

ถ้วยตวงสำหรับตวงของแห้ง ได้แก่ แป้งชนิดต่างๆ น้ำตาลทราย นมผง ฯลฯ
ในชุดหนึ่ง มี 4 ขนาด คือ
1 ถ้วยตวง   (one cup)
½ ถ้วยตวง  ( one half cup)
1/3  ถ้วยตวง ( one third cup )
¼ ถ้วยตวง ( one fourth cup )
        การตวงแป้งแห้งที่เป็นผง เช่นแป้งสาลีชนิดต่างๆ ต้องร่อนเสียก่อนแล้วจึงตวง โดยใช้ช้อนตักใส่ถ้วยตวงเบาๆจนพูนถ้วย ใช้สันมีดปาดให้เรียบเสมอปากถ้วย ไม่ควร
เขย่าหรือกระแทกถ้วย เพราะจะทำให้เพิ่มปริมาณแป้งมากขึ้น การตวงด้วยช้อนก็ใช้วิธีเดียวกัน
 

ช้อ  ช้อนตวง   ที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป ชุดหนึ่งมี 4 ขนาด คือ
1 ช้อนโต๊ะ   ( 1 table spoon )     
1 ช้อนชา    ( 1 tea spoon )     
½ ช้อนชา   ( ½  tea spoon )
¼ ช้อนชา   ( ¼  tea spoon )

   อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ