ตั้งอยู่ติดกำแพง
ด้านตะวันออก เป็นศาลาจตุรมุขโถง ชั้นเดียว โดยมุขด้านทิศเหนือและใต้ขยายยาวพื้นหินอ่อนตลอดถึงบันได
ผนังก่ออิฐถือปูนสร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์ของพระโอรสธิดา เจ้าจอมและพระญาติในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมและพระญาติในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รวมทั้งสิ้น ๑๕ ราย มี พระนางเจ้าสุขุมมาลมารศรี พระราชเทวี,
สมเด็จพระลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครสวรรค์วรพินิต, พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าอดิสัยสุริยาภา,
เจ้าจอมมารดาอ่อน เป็นต้น
เพราะเหตุที่สร้างด้วยทุนทรัพย์
๑๕ ส่วน จึงพระราชทานนามว่า ศาลาบัณณรสภาค สร้างในปี พ.ศ.
๒๔๔๓ สำเร็จแล้วทรงประกาศพระบรมราชูทิศถวาย เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน
๒๔๔ เพื่อใช้เป็นหอฉัน สิ้นค่าก่อสร้าง ๑๓,๑๖๔ บาท
เดิมศาลาหลังนี้ได้ใช้เป็นหอฉันของภิกษุสามเณรตามพระราชประสงค์
ทั้งเป็นพระราชทานเลี้ยงพระบรมวงศานุวงศ์ข้าราชการ ในวาระเสด็จพระราชดำเนิน
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในโอกาสต่าง ๆ ในวัดเบญจมบพิตร และเป็นที่ตั้งพระศพหม่อมเจ้าชายเกียรติกำจร
และหม่อมเจ้าชายเกียรติกำจร และหม่อมเจ้าชายมาโนชมานพ ในพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์
( พ.ศ. ๒๔๔๕ ) ด้วย นอกจากนี้ยังเคยใช้เป็นสถานศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมของภิกษุสามเณร
ปัจจุบันใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศลต่าง
ๆ เป็นครั้งคราว ทั้งที่เป็นการกุศลภายในวัดและการกุศลสงเคราะห์พุทธศาสนิกชนทั่วไปและที่สำคัญที่สุดภายในมุขตะวันออก
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณที่ไม่ได้ขนาดจะประดิษฐาน ณ
พระระเบียงพระอุโบสถได้ จึงโปรดเกล้า ฯ ให้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ศาลาบัณณรสภาคนี้ส่วนหนึ่ง
จำนวน ๘ องค์ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน ล้วนแต่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นอย่างยิ่ง |
ตั้งอยู่ระหว่างกำแพงด้านตะวันออกกับแนวกุฎี
เป็นตึกชั้นเดียวแบ่งเป็น ๒ ตอนช่วงในด้านทิศใต้ พื้นปูไม้ ผนังก่ออิฐถือปูน
ช่วงนอกด้านทิศเหนือ พื้นปูกระเบื้อง ไม่มี ผนัง ( ปัจจุบันปรับปรุงใหม่
ก่อผนังรอบ ) สร้างด้วยทุนทรัพย์ของพระโอรสธิดา เจ้าจอม และพระญาติในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รวม ๒๕ ส่วน มี พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์,
พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศศิพงศ์ประไพ, พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ,
หม่อมเจ้าเกียรติกำจร, หม่อมเจ้านักขัตรมงคล, พระเจ้าลูกยาเธอ
พระองค์เจ้า อุรุพงษ์รัชสมโภช เป็นต้น
ด้วยเหตุที่สร้างด้วยทุนทรัพย์
๒๕ ส่วน จึงพระราชทานนามว่า ศาลาเบญจพิศภาค สร้างเสร็จทรงประกาศพระบรมราชูทิศถวาย
เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๔๔ พร้อมกับศาลาบัณณรสภาค
พระราชประสงค์ที่โปรดเกล้า ฯ
ให้สร้างศาลาเบญจพิศภาค คือ ใช้เป็นโรงเก็บของและโรงงานประจำวัด
สิ้นค่าก่อสร้าง ๖,๒๒๖ บาท ปัจจุบันก็ยังใช้เป็นที่เก็บของสงฆ์ส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่งจัดเป็นที่อยู่ของภิกษุสามเณร |
-
กุฎิไตรภาค กุฎิเดี่ยว ด้านตะวันตกแห่งกุฎีแถว แถวหน้า ๒ ห้อง
พระสงฆ์อยู่ได้รูปหนึ่ง
หมายเลข ๓๑ หลังหนึ่ง
- กุฎิเบญจภาค กุฎิเดี่ยว ด้านตะวันตกแห่งกุฎีแถว แถวกลาง ๒
ห้อง พระสงฆ์อยู่ได้หนึ่งรูป
หมายเลข ๓๒ หลังหนี่ง
- กุฎิสัตตภาค กุฎิแถว แถวหน้า ด้านตะวันตก ๑๐ ห้องพระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๒๖,๒๗,๒๘,๒๙,๓๐ หลังหนึ่ง
- กุฎินพภาค กุฎิแถว แถวหน้า ด้านตะวันออก ๑๐ ห้อง พระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๒๑,๒๒,๒๓,๒๔,๒๕ หลังหนึ่ง
- กุฎิทศภาค กุฎิแถว แถวกลาง ด้านตะวันตก ๑๐ ห้อง พระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๑๖,๑๗,๑๘,๑๙,๒๐ หลังหนึ่ง
- กุฎิทวาทสภาค กุฎิแถว แถวกลาง ด้านตะวันออก ๑๐ พระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๑๑,๑๒,๑๓,๑๔,๑๕ หลังหนึ่ง
- กุฎิจุททสภาค กุฎิแถว แถวหลัง ด้านตะวันตก ๑๐ ห้องพระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๖,๗,๘,๙,๑๐ หลังหนึ่ง
- กุฎิโสฬสภาค กุฎิแถว แถวหน้า ด้านตะวันออก ๑๐ ห้อง พระสงฆ์สามเณรอยู่ได้
๕ รูป
หมายเลข ๑,๒,๓,๔,๕ หลังหนึ่ง
กุฎิทั้งหมดมีรายพระนาม และ นามผู้บริจาคทรัพย์สร้าง
แจ้งอยู่ในอักษรจารึกแผ่นศิลา
กุฎิไตรภาค ผู้มีพระนามบริจาคสร้าง
คือ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าอัจฉพรรณีรัชกัญญา , พระเจ้าลูกเธอ
กรมหมื่น ราชบุรีดิเรกฤทธ์ ,เจ้าจอมมารดาตลับ
กุฎินพภาค สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาพระบรมราชเทวี
, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวลัยอลงกรณ์, สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช , สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ,
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฏราชกุมาร
, สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงศ์ภูวนาถ , กรมขุนพิษนุโลกประชานาถ
กุฎิโสฬสภาค พระเจ้าลูกยาเธอ
พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์
กุฎิทศภาค พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี
พระราชเทวี , สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพิตรสุขุมพันธุ์
กรมขุนมไหสุริยสงขลา , พระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าอาภากรเกียรติวงศ์
หมายเหตุ : พระภิกษุสามเณรประจำกุฏิและการปวารณา
รัชกาลที่ ๕ ทรงพระราชดำริว่า
พระสงฆ์สามเณรที่มาอยู่วัดนี้ เป็นที่ไกลจากโคจรบิณฑบาต สมควรมีผู้ปวารณารับอุปการะพระสงฆ์สามเณร
เพื่อมิให้มีความลำบากเรื่องภัตตาหาร มีพระบรมราชโองการดำรัสบอกบุญในพระราชวงศ์
มีผู้ศรัทธารับอุปการะครบทั้งพระภิกษุและสามเณร ให้ผู้มีศรัทธารับอุปการะจับฉลากได้นามรูปใดก็อุปการะรูปนั้นจนครบ
๑ ปี มีรายนามดังต่อไปนี้
- พระเทพมุนี พระที่นั่งทรงผนวช
( พระกุฏิ ) เจ้าจอมมารดาเรือน
- พระครูใบฎีกาบุศย์ กุฎีโสฬสภาค
( กุฏิ ๑ ) สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชเทวี
- กุฎีโสฬสภาค ( กุฏิ ๒ ) พระนางเจ้าพระราชเทวี
- กุฎีโสฬสภาค ( กุฏิ ๓ ) เจ้าจอมมารดารัศมี
- กุฎีโสฬสภาค ( กุฏิ ๔ ) เจ้าจอมมารดาชุ่ม
- กุฎิสัตตภาค ( กุฏิ ๒๖ ) สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
- กุฎิสัตตภาค (กุฏิ ๒๗) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
|