อุบัติคู่พระบารมี

 

                   สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ได้อุบัติคนดีของศรีอยุธยาขึ้นสองพระองค์ กาลต่อมาปรากฏมีชื่อเสียงโด่งดังในต้นกรุงรัตน์โกสินทร์ และทรงมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบันนี้

                พระองค์แรกทรงมีชื่อเสียงในทาง ราชอาณาจักร คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ผู้ทรงสร้างกรุงรัตน์โกสินทร์ ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี

                 พระองค์ที่สองทรงมีชื่อเสียงในทาง พุทธจักรคือ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร(สุก ไก่เถื่อน) องค์ปฐมพระวิปัสสนาจารย์ ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และนับเป็นพระอาจารย์กัมมัฏฐาน ประจำยุครัตนโกสินทร์ เรื่องราวของพระองค์ท่านเล่าลือสืบขานมานาน สองร้อยปีเศษ ล่วงมาแล้ว ผ่านมาหลายชั่วอายุคน เรื่องราวของพระองค์ท่านมีทั้ง จดหมายเหตุของทางราชการ และจดหมายเหตุของชาวบ้าน จดหมายเหตุของชาวบ้านย่อมมีมากกว่า ของทางราชการ เพราะว่าพระองค์ท่านมีลูกศิษย์ ทั้งศิษย์ฆราวาส และบรรพชิต ทั้งในพระราชวงศ์ผู้น้อย ผู้ใหญ่ ข้าราชการผู้น้อย ผู้ใหญ่ พระสงฆ์ ผู้น้อย ผู้ใหญ่ เรื่องราวของพระองค์ท่านได้เล่าลือสืบขานมากับท่านเหล่านี้ ซึ่งมีจำนวนมากมายหลายเรื่อง

             ทั้งสองพระองค์นั้น เป็นผู้มีบุญวาสนาบารมีสร้างสมมาแต่อดีตกาล ทั้งสองพระองค์ ต่างทรงเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังเป็นผู้มีบุญญาธิการ หาผู้เสมอเหมือนมิได้ ไม่ได้มาแต่บุญบารมีอย่างเดียว แต่มาพร้อมด้วยสติปัญญาความสามารถ และ คุณธรรม ความพากเพียรอันมีในจิตใจที่ตั้งมั่น ทรงสถาปนาความเจริญให้กับ ราชอาณาจักร และ พุทธจักร พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กับ พระประวัติของ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร(สุกไก่เถื่อน) และ ธรรมทายาท ของพระองค์ท่านทุกองค์ จึงมีปรากฏเรื่องราวมาจนตราบเท่าถึงทุกวันนี้