นิทาน " เพราะรัก คำฉันท์ ตอน 1 "
โดย :นก สกุณา


[25 ก.ย. 2541 02:46:10]
อันว่า "คำฉันท์"นั้น เป็นคำประพันธ์ที่มีการแต่งกาพย์ปนกับฉันท์ ชนิดต่างๆ โดยนิยมใช้กาพย์ฉบัง และ กาพย์สุรางคนางค์ รับและส่งสัมผัสกัน เพื่อเพิ่มอรรถรสแห่งกวีนิพนธ์ ตัวอย่างของคำฉันท์ที่มีความไพเราะในอดีต ก็คงได้แก่ อนุรุทธิ์คำฉันท์ สมุทรโฆษคำฉันท์ มัทธนพาธา

นิทานคำฉันท์ที่ได้แต่งแต้มมาในครั้งนี้ก็เพื่อรสชาดอันหลากหลายของเหล่ากวีในกลุ่มห้องสมุด สำหรับฉันทลักษณ์ ของฉันท์และกาพย์ ชนิดต่างๆ พวกเราคงจะได้เห็นกันมาบ้างแล้ว แต่ก็จะแสดงให้ดูเฉพาะฉันท์ เพื่อจะได้อ่านออกเสียงได้อย่างถูกต้อง และไพเราะ

อันความดีที่ได้จากการประพันธ์นี้ ขอมอบให้แก่ครูบาอาจารย์ที่สอนภาษาไทยแก่พวกเรา รวมทั้งอาจารย์ผู้นิพนธ์ตำราหลักภาษาไทยอันเป็นแม่แบบแห่ง คำประพันธ์แก่พวกเรา

---------------------------------------------------------------------------------------

ปูพื้น

ฉันท์ อาจจะแบ่งชนิดตามจำนวนคำในแต่ละบาท โดยแบ่งเป็น ฉันท์ ๘ ,๑๑,๑๒,๑๔ ,๑๕,๑๖,๑๘,๑๙,๒๐,๒๑ แล้วเรียกชื่อเป็นฉันท์ต่างๆตาม การจัดวางคำ ครุ และ ลหุ

ฉันทลักษณ์ของฉันท์ที่จะนำมาลงนี้จะลงเฉพาะที่ใช้ในคำฉันท์นี้เท่านั้น โดยจะลงตำแหน่ง ครุ ลหุ และจังหวะการออกเสียง

มาณวกฉันท์ ๘
@ ครุ / ลหุ ลหุ ครุ1..........ครุ1 / ลหุ ลหุ ครุ2
ครุ / ลหุ ลหุ ครุ2...............ครุ / ลหุ ลหุ ครุ3
ครุ / ลหุ ลหุ ครุ4...............ครุ4 / ลหุ ลหุ ครุ3
ครุ / ลหุ ลหุ ครุ3...............ครุ / ลหุ ลหุ ครุ5

ปมานิกฉันท์ ๘
@ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ1..........ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ2
ลหุ ครุ / ลหุ ครุ2...............ลหุ ครุ / ลหุ ครุ3
ลหุ ครุ / ลหุ ครุ4...............ลหุ ครุ4 / ลหุ ครุ3
ลหุ ครุ / ลหุ ครุ3...............ลหุ ครุ / ลหุ ครุ5

(ฉันท์ ๘ จะนิยมแต่งเป็นบทคู่ 2บทเสมอ จบแล้วจะย่อหน้าใหม่ด้วย @ )

อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑
@ ครุ ครุ / ลหุ ลหุ ครุ1..........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ครุ ครุ / ลหุ ลหุ ครุ2...............ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ3

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
@ ครุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ1..........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ครุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ2...............ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ3

อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
@ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ1..........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ2...............ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ3

กมลฉันท์ ๑๒
@ ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ1..........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ2...............ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ3

วังสัฏฐฉันท์ ๑๒
@ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ1..........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ลหุ ครุ2
ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ2...............ลหุ ลหุ ครุ / ลหุ ครุ ลหุ ครุ3

ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
@ ลหุ ครุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ1.....ลหุ ครุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ลหุ ครุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ2...............ลหุ ครุ ครุ / ลหุ ครุ ครุ3

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
@ ครุ ครุ / ลหุ ครุ / ลหุ ลหุ ลหุ ครุ1...........ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ2
ครุ ครุ / ลหุ ครุ / ลหุ ลหุ ลหุ ครุ2................ลหุ ลหุ ครุ1 / ลหุ ครุ ครุ3

---------------------------------------------------------------------------------------
นิทานคำฉันท์

---------------------------------------------------------------------------------------
*************"บทนำ"*****************************
---------------------------------------------------------------------------------------

@ ย้อนกาลนานนมถมไป.........มีบุรีใหญ่
นาม"อคนีบุรินทร์"
กษัตริย์ทรงครองธาณินทร์.......สง่าโสภิณ
นาม"อิศรวี"
โฉมงามนามมเหสี....................ผุดผาดนรี
"นิศาเทวี"ร่วมครอง
โอรสฤทธิคะนอง......................อ่าองค์เทียมทอง
ชื่อ"วิทวัสกุมาร"
เขตแว่นแคว้นใหญ่ไพศาล.........สุดเปรียบประมาณ
โอฬารลึกล้ำอำไพ
ยังมีเมืองชิดติดใกล้...................นครเกรียงไกร
"สินธุนครินทร์"นครา
องค์"สุริยะราชา".......................สืบสันต์ราชมา
ชายาตักษัยนมนาน
ทิ้งธิดานวลนงคราญ..................งามเกินกล่าวปาน
ขาน"รชนี"เทวินทร์
ผ่องแผ้วไร้รอยราคิน..................ดั่งพรองค์อินทร์
ประสิทธิประสาทสร้างมา
สองเมืองมิเคยนำพา..................มิยอมขายค้า
ฤๅไม่ศรศิลป์กินกัน
แต่มิทำศึกประจัน........................เพราะสองราชันย์
เห็นแก่อาณาราษฎร์ชน
ต่างฝ่ายต่างอยู่ของตน................แต่ครั้งบรรพชน
มิอาจจะทราบความนัย ( ฉบัง ๑๖)
---------------------------------------------------------------------------------------
****************"บทเริ่มต้น"************************
---------------------------------------------------------------------------------------
๑๑@ คืนแห่งนิศารัตน์................วิทวัสกุมารชัย
ว้าวุ่นประหวั่นใน.........................หฤทัยพระคร่ำครวญ
ด้วยทรงเสด็จล่า..........................ณ พนา และทรงซวน
หลงป่ามิคืนหวน.........................จรยิ่งจะลึกไกล
พลัดไป ณ แดนสิน-.....................ธุนครินทร์นครใหญ่
สายเนตรปะทรามวัย....................ดรณีสวรรค์ศิลป์
งามดั่งพระจันทร์แย้ม..................ศศิแจ่มบ่ราคิน
ดุจพรพระองค์อินทร์....................พิศแล้วตะลึงแล
กอบบุปผชาติส่ง..........................เหมาะประจงถวายแก่
นวลนางสอาค์แข.........................ก็ประหม่ามิเคยพาน ( อินทรวิเชียร ๑๑ )

วิทวัส__๑๑@" งามเอยนะยุพิน.............รึสุบินนะนงคราญ
_________เกินข้าจะประมาณ...............วรนามจะปานใด"
รชนี_____"ดูกรภรดา...........................พจนาคะนองไป
_________เผยโอษฐ์มิจะใคร่...............ตริตรึกประมาทนัก
_________เราคือพระธิดา....................ธ ปิตาหะหวงหนัก
_________ฤๅท่าน บ ประจักษ์.............พิศแจ้งและไตร่ตรอง" (อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑)
วิทวัส__๑๑@" รึถิ่นนครสิน-.................ธุนครินทร์บุรินทร์ทอง
_________เพราะหลงพนาต้อง............บมิคิดจะล่วงเกิน
_________สมาอภัยเถิด.......................อติเลิศและสรรเสริญ
_________ประเสริฐธิดาเทอญ.............วรนาถพระนามใด" ( อุเปนทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ )
รชนี___๑๑@" ท่านคงจะพลัดถิ่น...........บมิยินขนาดไหน
_________นามเราบิดาให้....................รชนี ธ ทรงอวย"
วิทวัส____" ชื่อเรามิกล้าเอ่ย..................เพราะจะเชยและคงขวย
_________หากบุญประทานช่วย..... .....บมิม้วยจะกลับคืน" (อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ )
รชนี___๑๔@" เราเองบ่เดียดพระวรนาม....สิจะถามเพราะยังยืน
_________ยันว่าจะคงมิมนอื่น...............ฤจปิดเพราะหมายหนี"
วิทวัส____" หากแม้นพระองค์สิจะมุมั่น...ก็บ่กั้น ธ ไมตรี
_________นามาบิดาอิศรวี....................วิทวัสกุมารนาม" ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)
รชนี___๑๒@" ชิชะท่านก็ไพรี..................อคนีบุรินทร์ทราม
_________สิระหลุดมิต้องถาม................ภยใหญ่หนะใช่เชียว"
วิทวัส____" มรณารึเกรงกริ่ง..................รติยิ่งขมวดเกลียว
_________มตใต้นทีเชี่ยว......................ณ กระสินธุแห่งนาง ( กมลฉันท์ ๑๒ )
_______๑๒@ ฤดีมิอาจปิด.....................สุจริตบคิดละห่าง
_________อนงค์พระองค์นาง................ฤจรับหทัยรตี"
รชนี_____" พระองค์มิแจ้งฤๅ..................ปิตุถืออดีตวจี
_________บ่คบรึไมตรี..........................อคนีบุรินทเมือง" ( วังสัฏฐฉันท์ ๑๒ )

....................................บุพเพพาพบ
บุญกรรมนำสบ............บรรจบรักเรือง
มิเกรงกริ่งใด................เมื่อใจเจ้าเฟื่อง
เพราะรักประเทือง........ชุ่มหทยา ( สุรางคนางค์ ๒๘ )

วิทวัส__๑๑@" ดาราพะพร่างพราย..........ดุจคล้ายกระหยิบตา
_________เรียงรายระดาษดา.................นภผ่องสะอาดนวล
_________โสมส่องสว่างเพ็ญ.................ศศิเด่นและเชิญชวน
_________ดั่งหมายกระต่ายครวญ..........จิตป่วนเพราะนวลนงค์
_________ว้าวุ่นประหวัดนึก...................มนตรึกละเลือนหลง
_________ลุ่มไหลผิมั่นคง......................บมิอาจสลัดใจ
_________แท้เทียวระฦกล้ำ...................และจะนำเตลิดไป
_________ห่างเหิน ณ หนใด..................รติใคร่ประชิดกัน " ( อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ )
รชนี__๑๔@" ข้าฯนี้ประจักษ์ ณ หฤทัย.......บมิใช่จะเดียดฉันท์
_________แม้มีกุศลดลจะพลัน................มนนั้น บ แสร้งเชือน
_________รอวาระนั้นนะภรดา................จิตข้าสิไตร่เตือน
_________หากใจจะภักดิมิละเลือน..........ฤดินั้นสิสมใจ " ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ )

( ขณะที่ทั้งสององค์ กำลังสนทนากัน นั้นก็แว่วพระสุรเสียงของพระบิดา)

สุริยะ_______________"@ ลูกรชนี
_________เจ้าจรลี..............ณ ที่แห่งใด
_________คืนที่ประทับ.......จะกลับเวียงชัย
_________ตัวพ่อพึงใคร่......หวนไปบุรี"
รชนี_______________" @ เพคะบิดา
_________รับเกล้าเกศา......จะมาทันที"
( กระซิบ)__ "พี่วิทวัส............ข้าฯนัดพรุ่งนี้
_________สานใยไมตรี.......ฤดีอย่ารา"
วิทวัส______________" @ มอบธมรงค์
_________อยู่คู่อนงค์...........พระองค์ธิดา"
รชนี_____"รอข้างกำแพง......แห่งบูรพา"
วิทวัส____"ยามค่ำประมาณ์...เจิดจ้าพระจันทร์ " ( สุรางคนางค์ ๒๘ )

@ วังเวียงวิจิตรอนันต์..............สถานเทวัญ
สุวรรณพรรณเพชรเรียงราย
ประสาทซุ้มมุกข์มากมาย...........ทอแสงประกาย
ดุจด้วยเขาเคียงเรียงหลั่น
กำแพงแก้วกั้นเขตขัณฑ์.............ทหารประชัน
ถือดาบดั้งโล่ห์ละลาน
กวดขันทุกผู้ผันผ่าน...................ในยามวิกาล
มิให้คนพาลพ้นมา
ตำหนักนางในไสยา....................ของพระธิดา
ยังคงจุดไต้ตามไฟ
ดึกแล้วนางยังคาใจ....................รักเป็นไฉน
จึ่งไยย้ำชิดติดตรึง ( ฉบัง ๑๖ )

รชนี___๘@"โอ้มนเรา..........เฝ้าตริถึง
_________ คิดและคะนึง.....จึงปฏิพัทธ์
_________ พระยศยง.........องค์วิทวัส
_________ สุดจะขจัด..........จากหฤทัย
_______@ รออภิรมย์.........ชมพิศมัย
_________ มากภยใด.........ขอมิละลา
_________เพียงอุชุมั่น.......อันพจนา
_________ยึดรติว่า.............ดั่งรวิลอย " ( มาณวกฉันท์ ๘ )

ณ ที่ประทับแรมของวิทวัสกุมาร พระองค์ก็ว้าวุ่นมิแพ้กัน

@ พักตราเจ้าแจ่มมิน้อย........ดุจดั่งเดือนคอย
ส่องแสงแห่งชีพเรืองรอง
ใจข้ามีแต่องค์น้อง..................ใจจ้องจับจอง
คู่ครองแนบชิดเชยชม
สมัครหมายรักเกลียวกลม.......มิหวั่นพระยม
ด้วยลมรักจักพัดพา ( ฉบัง ๑๖ )

วิทวัส__ ๘@" คะนึงสอางค์....สล้างวิภา
_________ สะสวยสง่า.........มิอาจละเลือน
_________ จะตรึงหทัย........ฤใครสิเหมือน
_________ ทิวาคละเคลื่อน..มิเปลี่ยนกมล " ( ปมาณิกฉันท์ ๘ )

---------------------------------------------------------------------------------------
*************************************************
---------------------------------------------------------------------------------------
อิศรวี________________"@ วะเหวยเสนา
_________ วิทวัสข้า..................อยู่ไหนแห่งหน
_________ ออกไปล่าสัตว์.........ไยพลัดผู้คน
_________ ฤๅว่าอับจน.............แค้นค่นอยู่ใด"
อำมาตย์______________"@ กราบขอเดชะ
_________ อาชญ์เหนือเกศะ.....หาจะคล้าไคล
_________ ส่งคนติดตาม..........สอบถามสืบไถ่
_________ เสนาว่าไร...............อย่าให้งงงวย" ( สุรางคนางค์ ๒๘ )
เสนา__๑๔@" ใต้บาทพระองค์อิศรวี........สิระนี้ ธ ทรงอวย
_________ ข้าพุทธเจ้าบ่ริละช่วย...........พนกว้างฤทางเถิน
_________ ปานแทบจะรื้อพฤกษา.........อจลาพระบุตรเดิน
_________ ทุกแห่งสถล ธ จรเพลิน.......อคนีบุรีอินทร์
_________ ฤๅทรงจะพ้นลุปริเขต...........ณ ประเทศประชิดถิ่น
_________ ยังกรุงบุรีพระอริสิน-...........ธุนครินทร์บุรินทร์เรือง"
อิศรวี_____" ส่งคนคละเร้นจรเซาะซ่อน...ลุนครและค้นเมือง
_________ มุ่งหาพระองค์รยะบ่เชื่อง.....บมิพักนิศากาล
_________ จงพึงระวังสุริยะโสต.............ผิว์วิโรธณ์จะเสียงาน
_________ ได้ความและส่งสกุณสาส์น....ดุจวายุเร่งพลัน" ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)
นิศาเทวี_๑๒@" ฤทัยแม่ก็แท้เศร้า............อุราเราสิโศกศัลย์
_________ พิลาปเกินจะเอิ้นกัน..............พระพี่ท่านนะอย่ารอ
_________ พิถังโฮพิโธ่เอ๋ย.....................กระไรเลยสิทดท้อ
_________ มิอยากคิดนิมิตรต่อ...............ฤทัยท้อจะเป็นลม ( ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ )
เสนา_________________" รับเกล้าเกศา
_________ เหล่าข้าฯเสนา.......ทูลลาบังคม"
อิศรวี____" เอาเถอะเร่งไป.......อย่าให้ข้าตรม
อำมาตย์__ " อย่าทรงโศกซม.....บรรทมเถิดนา" ( สุรางคนางค์ ๒๘ )

---------------------------------------------------------------------------------------
*************************************************
---------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ
นิศารัตน์ = ดวงจันทร์
ภรดา = พี่ชาย
วร = ใหญ่ยิ่ง
พจนา วจี = คำพูด
ธ = ท่าน
ปิตา ,ปิตุ = บิดา
อติ = พิเศษ
มน ( มะนะ ) = จิตใจ
นามา = นาม ชื่อ
สิระ = ศีรษะ
รติ รตี ฤดิ ฤดี = ความรัก
มต (มะตะ) = ความตาย
กระสินธุ = สายน้ำ
ระฦก = ระลึก ( เขียนอย่างโบราณ )
ธมรงค์ = แหวน
อุชุ = ซื่อตรง
รวิ = ดวงอาทิตย์
สล้าง = ตั้งอยู่สูงเด่นเป็นสง่า
อาชญ์ = อาชญา โทษ
พน = ป่า ( พะนะ)
เถิน = ที่สูง
อจลา = แผ่นดิน
สถล = แผ่นดิน
รยะ = เร่ง เร็วพลัน
นิศากาล = กลางคืน
วิโรธณ์ = โกรธ
สกุณ = นก
ผิว์ ผิ ผิว (ผิ-วะ) = หาก แม้น
วายุ = พายุ
พิลาป = คร่ำครวญ
เอิ้น = กล่าว

จบภาค 1 แค่นี้ก่อนนะ แล้วจะหาเวลามาแต่งต่อค่ะ จะบอกว่าหมดภูมิ ก็ไม่กล้าบอก อิ อิ


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : โห .... คุณนก เล่นของโหดอีกแล้ว
อิอิ
โดยคุณ : Mars - [24 ก.ย. 2541 22:17:51]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ยัย นก ตก มัน อิ อิ
เขียนได้ไงเนี่ย อะเมซิ่งสกุณา :)
โดยคุณ : น้องสาวแสนสวย - [24 ก.ย. 2541 23:23:18]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณนกขา หนูตาลายค่ะ แต่หนู save นะคะ
ขอบคุณนะคะ...ตรงคำแปลน่ะค่ะ ชอบ.....
โดยคุณ : Bambi - [24 ก.ย. 2541 23:45:57]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : อืมม...กระทู้นี้ไม่ save ไม่ได้แล้ว อืมม...พี่นกเอา
อะไรดีๆมาแนะให้น้องๆได้เปิดหูเปิดตาอีกแล้ว อืมม..
ดีอ่ะ
โดยคุณ : หลวมตัวมาเล่น - [25 ก.ย. 2541 02:31:25]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอ save ด้วยคนค่ะ ทึ่งมากๆเลยพี่นก..
โดยคุณ : afar - [25 ก.ย. 2541 04:17:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แบบว่า กระทู้อื่น ๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้แจม
แล้วก็ไม่ค่อยได้อ่าน แต่กระทู้นี้ยังไงซะก็
ต้องอ่านแล้วก็แจม.. งานของยัยนกเนี่ย จะ
ออกมาสักชิ้นนะ ฝีมือจริงๆอ่ะ มิเสียแรงที่
ไว้ใจ..เยี่ยมจริง ๆจะนกจ๋า
โดยคุณ : องครักษ์พิทักษ์นก & บวมแก๊งค์ (นินจา) - [25 ก.ย. 2541 08:41:20]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : รายงานตัว .... save ลูกเดียว! .... คร่อก! :oP
โดยคุณ : lek Isara - [25 ก.ย. 2541 11:22:58]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ลงชื่อไว้ก่อน ค่อยกลับมาอ่านกั๊บ
โดยคุณ : web cruiser - [25 ก.ย. 2541 13:30:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณเล็กคะ ทำไมมันชวนง่วงนอนมากหรือยังไง คะ จะได้ไม่ต้องแต่งต่อ ถ้าอ่านแล้วง่วง คงไม่คุ้มกับเวลา 2 สัปดาห์ที่เสียไป
โดยคุณ : นก สกุณา - [25 ก.ย. 2541 16:19:56]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณนกครับ....
ให้ไปหมดเลยครับ...เต็มร้อย...จากใจ
นับถือที่สุดเลยครับ...
แบบไม่สามารถบรรยายได้นะครับ...
ได้แต่บอกว่า...นับถือ...นับถือ

ที่สุดของที่สุดแล้วครับ...
อืม...เขียนต่อนะครับ...อยากอ่านอีก...นะครับ

โดยคุณ : พล ณ.ทัศนา - [25 ก.ย. 2541 22:09:46]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : :D
โดยคุณ : Stellar7 - [25 ก.ย. 2541 22:40:05]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : Amazing Nok Skuna!!! ข้าน้อย นับถือ นับถือ...
น่าจะมีเรื่องราว มีรายชื่อเกี่ยวกับพวกนักกลอนนอนเพี้ยนบ้างนะครับ :)
ยังไงจะรอภาคต่อไป.......
โดยคุณ : NetWalker - [25 ก.ย. 2541 22:41:03]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไอ๊หยา...........ขอเข้ามาชึ่นชมด้วยครับและกำลังรออ่านตอนต่อด้วยใจจดจ่อครับ
โดยคุณ : ห่าม ข้ามโขง - [26 ก.ย. 2541 00:37:11]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : โถ ..... คุณนกครับ ใจเย็นๆครับ

คือเมื่อวานนี้ผมแว้บเข้ามาดู เพราะไม่มีเวลาน่ะครับ
เห็นแล้วทึ่งมาก แต่ยังอ่านไม่หมด จึง save เก็บไว้ก่อน
แต่ที่บอกว่า “คร่อก!” นั้นหมายถึงตัวผมน่ะครับ ไม่สามรถแต่งได้ขนาดนี้
คร่อก ! ในที่นี้ก็ทำนองเดียวกับคำว่า เป็นลมดีกว่านะครับ

*** ขอให้คุณนก อย่าหมดกำลังใจเพราะผมนะครับ
มิฉะนั้นผมคงเสียใจมาก ฮือๆๆๆ ผมมันปากไม่ดีเอง

*** ขอให้คุณนก แต่งต่อไปนะครับ จะ save ไว้ แล้วอาจจะแอบเอาไปใส่ H/P ผมอีกตะหาก
หากไม่คิดค่าลิขสิทธิ์นะครับ

• อย่าโกรธ lek Coboy นะ Freebird •
โดยคุณ : lek Isara - [26 ก.ย. 2541 09:07:14]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : พิมพ์ก็ผิด อิอิอิ
lek Cowboy น่ะครับ
มิใช่ Coboy เพราะในกระทู้โคลงล่างๆ ผมเป็น Co Cha Ra กั๊บ! :oP
โดยคุณ : lek Isara - [26 ก.ย. 2541 09:13:21]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เฮ้.. น้าเล็ก.. เดี๋ยวมีต่อยแน่เลยอ่ะ..
ไม่เคยโดนหมัดนินซะแย้ววว ว๊ากกกกก
โดยคุณ : นินจา - [28 ก.ย. 2541 08:50:56]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : นิน ! ขืนต่อยเจอตุ๋ยแน่ อิอิอิ :oP
เค้าคุยกันหลังไมค์แล้วจ้าาา ... น่าฉงฉานนิน ^o^
โดยคุณ : lek Isara - [28 ก.ย. 2541 12:03:12]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอแสดงความชื่นชมกับความพยายามของคุณนกครับ นับว่าเป็นความกล้าทำ
กล้าทดลองที่น่าสนใจมาก หวังว่าจะมีตอนต่อนะครับ

ผมขออนุญาตเสนอความเห็นต่อนิทานของคุณนกสักเล็กน้อยดังนี้

- สัมผัสระหว่างวรรคในบรรทัดเดียวกันไม่ต้องมีก็ได้
(เช่น โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี) รูปแบบที่ให้ไว้ก่อนนิทานนั้น
เคร่งครัดสัมผัสเกินไป

- ไม่น่าใช้คำลหุโดยอนุโลม ที่เห็นใช้คือ
ตริ ที่บังคับให้อ่านเป็น ตะ-หริ ตามมาตราฉันท์
พฤกษา กลายเป็น พะ-รึ-กะ-ษา
ภรดา จากคำว่า ภราดา
คำเหล่านี้เป็นหน่วยคำที่มีวิธีออกเสียงแบบควบกล้ำ หรือหนักเบาของมัน
ซึ่งถ้าเปลี่ยนวิธีออกเสียงก็ฟังเป็นคำอื่นหรือไม่มีความหมายไป คำบาลี-สันสกฤต
ที่อ่านแยกเป็นคำสั้น ๆ เอาลหุได้นั้น เป็นเพราะภาษาเดิมเขาอ่านอย่างนั้น
แล้วไทยเราอ่านแบบของเรา พอแต่งเป็นฉันท์เราก็อ่านแบบแขกให้ได้ลหุ
ถือว่าใช้ได้ คำว่า อุทก จึงอ่านว่า อุ-ทะ-กะ อิศวร อ่านว่า อิ-ศะ-วะ-ระ ได้
แต่จะอ่าน "ผมนึกว่า" เป็น ผะ-มะ-นึ-กะ-ว่า ไม่ได้นะครับ

- อินทรวิเชียร บทเริ่มต้น "สายเนตรปะทรามวัย ดรณีสวรรค์ศิลป์"
คำว่า ดรณี แปลว่าเรือ เข้าใจว่าคงตั้งใจใช้คำว่า ดรุณี แต่พิมพ์ตก
เช่นเดียวกับ "นวลนางสอาค์แข" ในไม่กี่วรรคต่อมา

- "เราคือพระธิดา ธ ปิตาหะหวงหนัก" สงสัยคำว่า หะ ใช้ถูกหรือไม่
ปิตา แปลว่าพ่อ ปิตามหะ แปลว่า ปู่

- ใช้คำซ้ำความหมายบ่อย (บิดาให้ - ธ ทรงอวย, อนงค์พระองค์นาง, ...)

- ต่อจากสุรางคนางค์ วิทวัสพูดว่า "ดาราพะพร่างพราย ... โสมส่องสว่างเพ็ญ ...)
เป็นไปไม่ได้ ถ้าพระจันทร์เพ็ญสว่างมาก คุณจะไม่มีทางเห็นดาวพะพร่างพรายได้เลย

- คำอธิบายฉากที่อยู่ในวงเล็บ น่าจะทำเป็นกาพย์ฉบัง ทำเป็นร้อยแก้วอ่านแล้ว
เหมือนพบคนแปลกหน้า

- "ประสาทซุ้มมุกข์มากมาย" น่าจะเป็น "ปราสาทซุ้มมุกมากมาย"

- "มิอยากคิดนิมิตรต่อ" คำว่า นิมิต ไม่มี ร ต่อท้าย

_ ใช้คำว่า จะ เยอะมาก

ผมอ่านนิทานคำฉันท์เรื่องนี้ด้วยความยินดีที่มีคนทำอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้
ความเห็นที่เสนอไว้นี้ เพียงอยากเห็นผลงานที่ดียิ่งขึ้นไปอีก และหวังว่า
อีกไม่นานจะเขียนอะไรมาให้คุณนกวิจารณ์คืน เดี๋ยวจะหาว่าไม่ยุติธรรม
อ่านของคุณแล้วคันมืออยากเขียนบ้าง
โดยคุณ : วิษณุ - [28 ก.ย. 2541 14:01:03]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอบคุณมากนะคะ คุณวิษณุ สำหรับคำวิจารณ์ของคุณ เป็นคำวิจารณ์ที่นกอยากได้ที่สุด มากกว่า
คำชมเสียอีก ค่ะ ไม่ขอแย้งข้อผิด แต่มันคงเป็นเรื่องอนุโลม ลหุ ซึ่งแต่โบราณก็ใช้เช่นกัน นกมีความ
จำกัดในเรื่องคำในภาษาไทยพอสมควร เนื่องจากจบมานานแล้ว และเป็นเด็กสายวิทย์ ไม่ใช่สาย
ศิลป์ ลืมๆไปแล้ว แต่คำว่า ภรดา นกเข้าใจผิดเอง ส่วนดรณี,สอาค์ ยอมรับค่ะว่าพิมพ์ผิดจริงๆ
ส่วนคำบรรยายเป็นร้อยแก้วนั้น อาจจะดูแปลกๆไปนะคะ ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะเล่นกันง่ายๆไป
หน่อย เหมือนขาดความประณีต คราวหน้าจะไม่ให้มี

จะพยายามแก้ไขในตอนที่ 2 ค่ะ แต่งต่อแน่นอน ไม่ทิ้งไม่ขว้าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ดีดังนึกหรือเปล่า
นะคะ ตอนนี้งานยุ่ง แล้วก็เครียดมากด้วย หวังว่าคงคอยให้นกได้สงบสติอารมณ์ก่อนนะคะ แล้วจะ
พยายามแต่งต่อ เพราะพล๊อตเรื่องวางเอาไว้หมดแล้ว

to คุณเล็ก
""""" Forget it Na Kha :)
โดยคุณ : นก สกุณา - [28 ก.ย. 2541 19:46:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอบคุณมากนะคะ คุณวิษณุ สำหรับคำวิจารณ์ของคุณ เป็นคำวิจารณ์ที่นกอยากได้ที่สุด มากกว่า
คำชมเสียอีก ค่ะ ไม่ขอแย้งข้อผิด แต่มันคงเป็นเรื่องอนุโลม ลหุ ซึ่งแต่โบราณก็ใช้เช่นกัน นกมีความ
จำกัดในเรื่องคำในภาษาไทยพอสมควร เนื่องจากจบมานานแล้ว และเป็นเด็กสายวิทย์ ไม่ใช่สาย
ศิลป์ ลืมๆไปแล้ว แต่คำว่า ภรดา นกเข้าใจผิดเอง ส่วนดรณี,สอาค์ ยอมรับค่ะว่าพิมพ์ผิดจริงๆ
ส่วนคำบรรยายเป็นร้อยแก้วนั้น อาจจะดูแปลกๆไปนะคะ ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะเล่นกันง่ายๆไป
หน่อย เหมือนขาดความประณีต คราวหน้าจะไม่ให้มี

จะพยายามแก้ไขในตอนที่ 2 ค่ะ แต่งต่อแน่นอน ไม่ทิ้งไม่ขว้าง แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้ดีดังนึกหรือเปล่า
นะคะ ตอนนี้งานยุ่ง แล้วก็เครียดมากด้วย หวังว่าคงคอยให้นกได้สงบสติอารมณ์ก่อนนะคะ แล้วจะ
พยายามแต่งต่อ เพราะพล๊อตเรื่องวางเอาไว้หมดแล้ว

to คุณเล็ก
Forget it Na Kha :)
โดยคุณ : นก สกุณา - [28 ก.ย. 2541 19:49:19]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : To ... Freebird ^v^
Ja! : Forget it but I can't forget you ... :oP

โดยคุณ : lek Isara - [28 ก.ย. 2541 21:28:09]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : :-P
โดยคุณ : นินจา - [29 ก.ย. 2541 08:42:22]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : I'm studying at Faculty of Arts Silpakorn.
I'm so proud there is one who love in "CHAN".
I'll be encourage you forever.
โดยคุณ : aksorn's boy - [30 ก.ย. 2541 13:55:45]