อินทรวิเชียรฉันท์ ภาคสอง
โดย :Mars


[21 ต.ค. 2541 17:37:14]
๑๑ ๏ ครั้นภาณุมาศฉาย ............ ขณบ่ายนิกรคลา
สัญจรณมรรคา .......................... สระอื้ออละวน
๏ บ้างเชิญพระองค์เจ้า .............. ที่จะเข้าพระมณฑล
มาแต่งพระกายกล ..................... สุรเทพรังสรร
๏ พรั่งพร้อมพระญาติเจ้า ............ คณะเผ่าคณาพันธุ์
ปางเมื่อจะโสกัน ......................... ตประชุมประดับองค์
๏ เชิญสรงกระแสสิน .................. ธุรรินรวยทรง
เครื่องหอมวิจิตรจง ..................... มนะมุ่งผดุงถวาย
๏ เสร็จทรงสนับเพลา .................. รยับเงาสุพรรณพราย
พริ้งเพริศประเจิดลาย .................. วลิภัณฑบรรจง
๏ ภูษิตรก็โอ่โถง ......................... ผจงโจงเปนหางหงษ์
คาดเงินฉลององ ......................... คะรยับววับวาม

ไม่มีเวลาแต่งเองกั๊บ เลยเอาของท่านขุนปรีชานุสาศน์มาให้อ่านกัน
ในหนังสือ ฉันท์เรื่องแห่โสกันต์ (งานโกนจุก พระราชวงศานุวงศ์)
สังเกตได้ว่าหลังสมัยรัชกาลที่ห้า จะเคร่งครัดเรื่องฉันทลักษณ์ของฉันท์ดีมากเลยครับ ครุลหุก็ถูกต้องเป็นส่วนมากด้วย


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๏ เชิญสรงกระแสสิน .................. ธุรรินรรวยทรง
เครื่องหอมวิจิตรจง ..................... มนะมุ่งผดุ

ตกไปคำนึงครับ
โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 12:45:23]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไม่ค่อยถูกโฉลกกับฉันท์ค่ะ มาชื่นชมอย่างเดียวนะคะ
โดยคุณ : หลวมตัวมาเล่น - [21 ต.ค. 2541 13:18:54]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณMars ครับ
มนะมุ่งผดุงถวาย.....วรรคนี้ลหุเกินมาตัวนึงหรือเปล่าครับ
ผจงโจงเปนหางหงษ์....วรรคนี้เหมือนใช้คำว่าเปนแทนลหุได้

ที่เขียนมานี้ไม่ได้จับผิดนะครับ เพราะผมไม่ประสีประสาเรื่องฉันท์กำลังสังเกตสังกาอยู่ว่าฉันท์นั้นแต่งฉันใด ที่บ้านมีหนังสือสามัคคีเภทคำฉันท์ของชิต บุรทัต เอามาเปิดๆ อ่านแล้วมึน

ผมว่าอย่างคุณMars น่าจะพออธิบายกลเม็ดเคล็ดลับการแต่งฉันท์พอได้นะครับ น่าลองซะหน่อย เผื่อผมกับคุณหลวมตัวมาเล่น จะได้ลงมาแจมบ้างครับ
โดยคุณ : หนอนสุรา - [21 ต.ค. 2541 13:31:08]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณหนอน ครับ
สมัยก่อน การเคร่งครัดในฉันทลักษณ์ยังไม่มากเท่าใดนัก
เพิ่งมาเคร่งทีหลังน่ะครับ ลองไปดูกฤษณาสอนน้องยิ่งไม่เคร่งเลย
เอาเป็นว่าเราดูเพื่อเป็นความรู้ไว้ แต่เราจะยึดหลักสมัยใหม่ก็แล้วกันครับ
โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 13:55:00]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เรื่องคำฉันท์ในทัศนะของนายตำรา ณ เมืองใต้

...........ในเรื่องคำฉันท์นี้ แต่เดิมที เข้าใจว่ากวีมิได้แต่งขึ้นเพื่อแสดงศิลปะแห่งการประพันธ์ และผู้อ่านมิได้อ่านเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ถือกันว่า การแต่งหรือการอ่านคำฉันท์นั้นเป็นบุญกิริยาอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยจำระจิตใจให้แจ่มใสผุดผ่อง เนื้อเรื่องคำฉันท์ก็มักเกี่ยวกับทางศาสนา หรือสิ่งที่เคารพนับถือ และต้องแสดงจารีตและเรื่องราวที่สลักสำคัญจริงๆ จึงกล่าวได้ว่าคำฉันท์นี้เดิมทีเป็นอุปกรณ์ของศีลธรรม

............อนึ่ง การแต่งฉันท์ ก็ต้องมีพิธีรีตรอง แรกเริ่มก็ต้องทำสักการะพระรัตนตรย และเทพเจ้าต้องทำใจให้เป็นสมาธิ และเมื่อลงมือเขียน ก็ต้องกล่าวความสดุดี นอบน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณธรรมคุณ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ดังเช่นใน ต้นเรื่องสมุทรโฆษ คำฉันท์ ซึ่งเป็นคำฉันท์ ชั้นเก่า นับถือกันเป็นแบบฉบับว่า

๏ พระศรีศรีสรศาสดา .................. มีพระมหิมา
นุภาพพ้นตยาคี
๏ เนืองนาคอสูรกษัตรีย์ ............... โอนมณีโมลี
บำบวงในบาทกมล
๏ โปรดโลกทั้งภูวมณฑล ............ ท่าวพรหมบดล
ก็ถึงแก่สรณบคลา
๏ ข้านบนอบด้วยใจสา ................. ทรทูลบาทา
รพินทุพระมุนีวร
๏ ไหว้ไทธาดาสังกร .................... พระพิษณุอันศร
ศักดิไชยเดชะ
๏ ขอสวัสดิพิพัฒน์ชำนะ ............... ไชยสิทธิตบะ
จงสานติสุขธาษตรี

.................ท่านคงจะเห็นว่าการอ่านคำฉันท์นั้น ต้องมีความรู้ทางภาษาเป็นทุนอยู่ไม่น้อย ทีเดียว จึงจะซาบซึ้งในอรรถรสได้ อย่างเช่น คำ ตยาคี นั้นถ้านท่านแปลไม่ได้ ก็นับว่าขาดรสของข้อความไปที่เดียว และบางทีการรู้นั้นก็ยังต่างกันเป็นบางคน เช่น คำว่า ตยาคี นี้ บางท่านก็แปลว่าฤาษี มาจากคำ จาคี ผู้มีการเสียสละ แต่บางท่านว่า ตยาคี คือ ต+อัคคี แปลว่าไฟสามกอง มี โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อเป็นดังนี้ ท่านลองพิจารณาว่าบทแรกนั้น ความจะงามไปทางไหน จะว่าพระพุทธองค์มีอานุภาพเหนือผู้เสียสละ(ฤาษี) ทั้งหลาย หรือว่าพระพุทธองค์จะมีอานุภาพเหนือไฟทั้งสาม

...............กวีผู้แต่งฉันท์เชื่อว่า คำฉันท์มีอานุภาพนำความสวัสดีมีชัยและสันติสุขมาให้ ทั้งตนเองและบ้านเมือง
...............ในท้ายเรื่องสมุทรโฆษ ซึ่งเป็นตอนที่ สมเด็จกรมพระปรมานุชิตทรงนิพนธ์ต่อ มีคำอธิษฐานของพระองค์ท่าน ว่า

๏ จงเป็นปัจเยศเบื้อง ................. อนาคต ภพเฮย
ลุอรรคสาวกยศ .......................... เลิศล้น
ทักษิณเสร็จมโนรถ .................... ดุจปราถ- นานา
ทุกชาติปราชญ์เปรื่องพ้น ........... เพื่อนผู้หมู่กวี ๚

...............คือสมเด็จกรมพระปรมานุชิตฯทรงอธิษฐานว่า ในการนิพนธ์ สมุทรโฆษ คำฉันท์ ที่ค้างมาแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ให้จบลงแล้วนั้น จงเป็นผลให้พระองค์ท่านได้เป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต

...............ดังนี้ จะเห็นได้ว่า เดิมคำฉันท์นั้นเป็นกาพย์กลอนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นดังนี้ เข้าใจว่า เพราะเรารู้จักคำฉันท์โดยทาง ศาสนา คำฉันท์เป็นแบบคำประพันธ์ในภาษาบาลี มีตำรา ฉันท์ชื่อว่า วุตโตทัย แบ่งออกเป็น ๒ คัมภีร์คือ ฉันมาตราพฤต และฉันท์วรรณพฤต กับมีตำรากาพย์ ชื่อกาพย์สารวิลาสินี

...............เดิมทีนักปราชญ์ทางกาพย์กลอน คงจะได้แต่งฉันท์เป็นภาษาบาลีก่อน แต่ต่อมาคิดว่าถ้าเอาระเบียบแบบฉันท์มาแต่งเป็นคำไทยก็คงพอจะได้ คงจะได้ลองแต่ง จนเห็นว่ามีทำนองสละสลวยเป็นแบบกาพย์กลอนอีกแบบหนึ่ง ต่างหากจากกาพย์กลอนไทยที่เคยมีอยู่ก่อน ที่กล่าวดังนี้ กล่าวโดยคาดคะเนทั้งสิ้น เพราะไม่มีหลักฐานอื่นใดนำมาอ้างอิงได้

...............คำฉันท์ที่ปรากฏเป็นคำไทย ที่ยังคงตกทอดมาจนบัดนี้ มีปรากฏในมหาชาติคำหลวง ซึ่งนักปราชญ์แต่งในสมัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พ.ศ. ๒๐๒๕ ในตอนนั้นกวีใช้คำฉันท์ปนกับแบบคำประพันธ์อื่นๆ ทำนองจะเป็นการทดลองขอให้ท่านลองฟังกัณฑ์มหาพน ตอนอัจุตฤๅษีบรรยายสถานที่ ที่พระเวสสันดรบำเพ็ญพรต

๏ ฟังแฮทชีพราหมณ์ .................. เขาเขียวงามทั้งแท่งทะงัน
ไม้ไหล้ช่อแชรงกัน ..................... ต่างต่างพรรณไขขจร
๏ มีนามแต่อาทิ ......................... คัธมาทนศิขร
ที่ใดท่านภูธร .............................. แพสยันดรราชา
๏ เสด็จด้วยสองกุมาร ................. ลูกสุดสงสารโสภา
ทรงบรรพชาสา ........................... ธรในพนาลัย
๏ ห่อเกล้าชฎาธาร ...................... พักสังวาลบูชาไฟ
แผ่นหล้าสำนองไผท ................... หนังเสือไท้ท่านทรงธาร
๏ ไหว้ไฟใจวิเวก ......................... เงื่อนปรตเยกศรีอาริย์
เขียวมาบ่ไกลสถาน .................... พิศาลพู้นพร่ำเห็นแสดง
๏ ย่อมไม่มีลูกช้อย ..................... ต่างต่างห้อยดอกดวงแชรง
ปลายยอดจำเทอดแทง ............... แสงเพียงเมฆมีพรรณ
๏ เขียวมาพำพร้องเพรา .............. ดุจดังเขานีลาชัน
หูกวางตะแบกบรรณ์ ................... ขธิพรรณไพสา
๏ สระคร้อยางรังราย ................... กิ่งทรสายทรสุมผกา
ลมไล้ยะยาบสา ............................ ขาพรั่งพร้อมในไพรพง
๏ เปรียบชายมึกมวยเหล้า ........... ไม้ค้อมเกล้ากราบกลางดง
นกหกและห่านหงส์ ...................... ลงจับไม้แข่งขานขัน

..............ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ท่านสังเกตลักษณะสำคัญ ๒ ประการของคำฉันท์ คือ แบบการประพันธ์ กวีแต่เดิมถือ จำนวนคำเป็นเกณฑ์ รู้สึกว่าไม่เคร่งในการใช้คำ ครุลหุ ให้ตรงตามคณะฉันท์ อย่างเช่นที่อ่านมานี้จะเห็นได้ว่า มีลักษณะคล้ายอินทรวิเชียรฉันท์กับกาพย์ยานีปนกัน อีกประการหนึ่ง สำนวนความนั้น แสดงความซึ้งใจแรงกว่ากาพย์กลอนอื่นๆ

..............การแต่งฉันท์ต่อมา กวีได้พยายามให้ได้ระเบียบ ครุลหุ ยิ่งขึ้นทุกที จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้เห็นกันว่า ลักษณะแรกของคำฉันท์ที่ดีคือ ต้องแต่งให้ถูกครุลหุเผง ......................

โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 14:39:54]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ลืมบอกไปว่า มาจากหนังสือ ภาษาและวรรณคดี ของนายตำรา ณ เมืองใต้ครับ
โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 14:51:52]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ต ะ ลึ ง !
ขอบคุณเจ้าค่ะ :-)
โดยคุณ : Bambi - [21 ต.ค. 2541 15:09:10]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : โอ้โห....เข้ามารับทราบค่ะ
โดยคุณ : afar - [21 ต.ค. 2541 15:33:58]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๏ ล้อคอิน ณ บ่ายมา ............. ดุจพาอนาถใจ
เดี๋ยวหลุดสะดุดไป ............... อุระหมองมิผ่องผุด
๏ เรื่องราวสิน่าตาม .............. กะจะถามก็พาลหลุด
เซอร์เว่อร์ฤเธอทรุด ............. มิสนองก็ต้องตรม

To ... คุณ Mars
ผมก็ชอบอ่านหนังสือของ นายตำรา ณ เมืองใต้ เช่นกันครับ :o)
โดยคุณ : lek Isara - [21 ต.ค. 2541 15:43:50]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เห็นฉันท์ตะลึงงัน..................จะแต่งฉันท์ตะลึงงง
คิดคำมิค่อยลง......................ลหุน้อยสมองหนอน
ใจอยากจะลงแจม..................จิตแจ่มกะโคลงกลอน
เห็นฉันท์ก็ลาจร.....................บมิแจมเพราะแพ้คำ
คิดติดตะกุกกัก.......................ฉันทลักษณ์กระอักทำ
จริงใจมิใช่อำ.........................ประพันธ์ได้ไฉนหนอฯ

สงสัยผมจะแซวจะอำคุณMars ไว้มากไปหน่อยมั้ง พอจริงจังเลยไม่เชื่อ
ผมแต่งฉันท์ไม่เป็นจริงๆ ครับ ไม่เคยเข้าใจวิธีคิดของมันเลยว่าต้องคิดยังไง
โดยเฉพาะตรงคำลหุคู่ยากเหลือเกิน ผมเลยลองแต่งมาให้ดู ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ
ยังมีที่ผิดลหุอยู่แต่ไม่มีปัญญาแก้

คุณMars หรือเพื่อนๆ ที่เข้าใจฉันท์โปรดช่วยฉันหน่อยจ้ะ จะแก้ให้ดูเป็นตัวอย่างยิ่งดี
และช่วยแนะนำด้วยว่าคิดลหุคู่กันยังไง เพราะผมมีปัญหาตรงนี้เสมอ
โดยคุณ : หนอนสุรา - [21 ต.ค. 2541 16:50:43]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เอ.... แล้วจะให้ผมบอกอย่างไรดีนะ เอาอย่างที่ผมคิดก็แล้วกัน ไม่ได้บอกว่าดีนะครับ เป็นเพียงวิธีที่ผมใช้อยู่ประจำ

เอาเป็นว่าเวลานึกถึงการใช้คำตรงลหุคู่ ผมจะนึกถึงความหมายรวมๆก่อน เช่นบรรทัดแรกของคุณหนอน

เห็นฉันท์ตะลึงงัน..................จะแต่งฉันท์ตะลึงงง

ถ้าใช้ความหมายตรงๆไม่ได้ก็ต้องเลี่ยงเป็นคำอื่นที่ใกล้เคียงเช่น

เห็นฉันท์ตะลึงงัน.................. พิศฉันท์ตะลึงงง (พิ-สะ)
** อันนี้หาคำลหุคู่ที่มีอยู่แล้วมาใช้เลย (มองเห็นฉันท์)

หรือ
เห็นฉันท์ตะลึงงัน..................จะประพันธ์ตะลึงงง
** อันนี้ใช้คำลหุเดี่ยวมาผสมกัน (จะแต่งอันนี้ตรงกว่า)

คนที่แต่งฉันท์ได้ดีต้องรู้จักคำเยอะๆน่ะครับ ผมก็ยังจำไม่ได้เยอะ ต้องทำ list ขึ้นมาช่วย แต่ก็เสียเวลามาก คงต้องใช้วิธีการเขียนฉันท์บ่อยๆ แล้วก็จะจำคำได้มากขึ้นเองกระมังครับ

โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 18:05:20]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอบคุณมากครับคุณMars

วิธีที่ดีผมว่าต้องใช้วิธีของคนที่เขียนบ่อยๆ มาแนะนำ อย่างของคุณMars ให้คิดถึงความหมายรวมๆ ของลหุคู่ก่อน ตรงนี้คงคล้ายๆ การผูกคู่โทในโคลง เพื่อนๆ อย่าเขินนะครับ ผมว่าแลกเปลี่ยนทัศนะกันด้วยยิ่งเล่นยิ่งสนุก เพราะกลเม็ดเคล็ดลับส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีในตำรา และทัศนะผมแล้วไม่มีถูกผิดครับ สำหรับการแต่งร้อยกรองมีแต่เหมาะกับไม่เหมาะ ถ้าเหมาะกับเราก็จำไว้ใช้ ถ้าไม่เหมาะเดี๋ยวก็ลืมไปเอง ขอถามเพิ่มอีก 2 ข้อครับว่าสัมผัสระหว่างวรรคหนึ่งไปสองถอดออกแบบกาพย์ยานีของจิตร ภูมิศักดิ์ได้หรือเปล่า กับคำที่อนุโลมใช้แทนลหุมีอะไรบ้างครับ

2 ข้อนี้ผมถามเพื่อนๆ ทุกคนเลยครับ ไม่เจาะจงเฉพาะคุณMars กลัวว่าเดี๋ยวเค้าจะไม่มีเวลาไปต่อโคลงผม
โดยคุณ : หนอนสุรา - [21 ต.ค. 2541 18:32:51]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : มีอีกวิธีนึงนะครับ โดยใช้การแยกคำข้ามวรรคเช่น

๏ นายดาบประจำหนึ่ง ..................... พิศพึงวิไลอา
ภรณ์เพริศประเสริฐสา ..................... รพัดพริ้งทุกสิ่งภัณฑ์

จะเห็นว่าเป็นการแยกข้ามบรรทัด และแยกในบรรทัดเดียวกัน แต่ข้ามวรรค

แบบข้ามบรรทัดนี่ไม่ค่อยเห็นใครใช้แล้ว แต่ข้ามวรรคยังพอเห็นอยู่ ในโคลงก็มีเหมือนกัน ดูแล้วก็มีเสน่ห์ในการประพันธ์อยู่เหมือนกัน แต่ผมยังไม่เคยใช้สักที

ส่วนคำลหุเท่าที่จำได้มี
ก็ ฤ บ บ่ ธ ณ บริ และคำในสระเสียงสั้นต่างๆ อะ อิ อุ เอะ แอะ โอะ เอียะ อัวะ เออะ เอาะ อันนี้คุณ นก สกุณา เคยบอกไว้แล้วครับในกระทู้เก่าๆ
โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 18:55:04]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๑๑ ๏ ดาราระยับฟ้า ............................. ชุติมาสกาวใส
พริ้งเพริศพิสุทธ์ใจ ............................... พิศพลันตระกาลตา
๏ แลดารดาษดื่น ................................. มนะชื่นระรื่นครา
ส่องรัศมีมา .......................................... ดุจเพชรประกายพราว
๏ วาววับระยับแวว ............................... สินะแพรวละอองดาว
แสงนวลสะอาดขาว ............................. ก็สุปรีดิ์เกษมสันต์ ๚
โดยคุณ : Mars - [21 ต.ค. 2541 22:35:13]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : @ อินทรีย์ทะยานฟ้า ................... ดุจท้านภากว้าง
หรีดหริ่ง ฤ ครวญคราง ............. ดุจท้าพณาใหญ่
@ แต่น้องสิเพรี่ยงพร้ำ ............... มนช้ำระกำใน
หวาดหวั่น ณ ดวงใจ ................... รติย้อนสะท้อนทรวง
@ ไม่อาจริท้ารัก .......................... ก็เพราะมักจะถูกลวง
รักนั้น ฤ คือบ่วง .......................... สิจะหน่วงจะเหนี่ยวใจ
@ ไร้รักสิไร้ทุกข์ .......................... มนสุขและทุกข์ไกล
ไร้คู่มิเป็นไร ................................... อสุได้อโศกครอง

อสุ = ชีวิต, ลมหายใจ
อโศก = ไม่เสียใจ, ไม่โศก
โดยคุณ : Ps. - [21 ต.ค. 2541 22:39:43]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๏ ดาราระเบิดแล้ว .............. จิตแผ้วคะนึงหา
น้องพี่มิเคยมา ................... จรสู่นภาไหน
๏ พี่นี้สิคือดิน .................... รึยุพินมิมีใจ
เคยรักสลักไว้ .................... อวสานเพราะดารา
โดยคุณ : lek Isara - [21 ต.ค. 2541 23:25:43]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : จันทราสิส่องฟ้า .................. สุริยาก็ลาล่วง
ดาราประดับดวง ............... ณ นภาอร่ามใส
เปรียบได้ประดุจรัก .......... รติปัก ณ กลางใจ
ทุกข์โศกวิโยคใด ................ ชนะได้มิหวั่นเกรง
เปรียบดั่งสิสำเนียง .......... เสนาะเยี่ยงประหนึ่งเพลง
ร่วมร้อง ฤ บรรเลง ......... เสน่ห์เสียงวิจิตรงาม
รอบกายมิมีทุกข์ .............. ปิติสุขทุกโมงยาม
ฤทธิ์รักสิสวยงาม ............. รตะล้ำสวรรค์เยือน

รตะ = ความสุข
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 02:07:03]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แบบว่าผมแต่งมาจากบ้านครับ เนื้อความเลยหลุดไปจากโลกของเพื่อนๆ

ชายชาติทหารหาญ...................มนะมั่นมโนหมาย
เลื่องชื่อระบือชาย.....................ชนะชั่วชำนาญชาญ
ลงสู่สนามศึก............................จิตฮึกมิเกรงการ
อย่างมากก็แหลกลาญ...............สละชีพสนองเชิง
มือจับกระชับดาบ......................จะฉะราบกระเจิดเจิง
ร้อนพิษสิฤทธิ์เพลิง...................ขณะเห็นริปูแหน
วิ่งร่าถลาใส่...............................กิจใหญ่พิทักษ์แดน
ศัตรูจะหมื่นแสน........................บมิยอมจะล้าหลัง
ดาบเดือดก็เลือดสาด..................พิศชาดอุทกหลั่ง
ตราบที่ชิวาตม์ยัง.......................จะประจญประจัญบาน
แล้วชื่อก็ลือชา............................วิระกล้าทหารหาญ
ปกเมืองและคุ้มบ้าน....................ภยใหญ่สลายหายฯ

เบื้องปัจจุบันเปลี่ยน....................ดุจเหมือนมิมีชาย
รุมเถือประเทศขาย......................ขณะเห็นริปูแหนฯ
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 08:52:00]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แรกพบประสบตา ................ กมลาระริกไหว
นี่เป็นเพราะเหตุใด ............... หฤทัยสิเต้นแรง
รักแรกประสบเนตร์ ............ รึเพราะเทพสวรรค์แกล้ง
ให้กามเทพแผลง .................. รติศรระร่อนมา
หรือว่าเพราะคุณไสย ........... รึเพราะใจระริกร่า
รักง่ายกระไรหนา ................. มนบ้ารึอย่างไร
ชื่อเขามิรู้จัก ......................... ฤจะหักจะห้ามใจ
แผนการวิธีใด ...................... ชนะใจจะใคร่ลอง
นัยน์ตาสิคมกริบ .................. ก็พิชิตหทัยครอง
เพียงแค่ชะแลมอง ............... จิตกองถวายเธอ

ยิ่งแต่งยิ่งเพี้ยนค่ะ พอดีกว่า hehehe =)
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 09:41:00]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : จริงๆ แต่งไว้อีกอัน แต่ไม่เอาบทก่อนสุดท้ายน่ะค่ะ
ชื่อเรามิรู้จัก .................. ฤจะหักจะห้ามใจ
ไม่รู้จะทำไง ..................... พิโธ่เอ๊ยแนะนำที
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 09:53:08]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แด่หัวใจของผู้มีรัก

๑๑๏ชุ่มชื่นระรื่นใจ.............ประลุใกล้ ณ แดนสรวง
เอมอิ่มและปริ่มทรวง.........รติเติบเจริญงาม
รักหวานสราญสด...............มธุรสสิเกรงขาม
เพียงได้สดับตาม................ผิสวรรค์ฤเทียมทัน
เชี่ยวกราก บ ยลยิน............เพราะกระสินธุรักนั้น
ถ่าโถมทะลวงรัน.................นคขวางมลายครืน
ร้อนแรงประหนึ่งไฟ...........อุระไหม้จะกล้ำกลืน
ทั้งรู้ก็สู้ฝืน.........................บมิหวั่นเพราะมั่นคง
ผู้ที่ถนอมนอบ....................ฤดิกอร์ปเจริญยง
จงเทิดหทัยตรง...................อุชุมั่นมิหวั่นใจ
ด้วยรักและรักด้วย...............ผิจะม้วยมฤตไป
ขอภักดิ์สลักใน.....................อนุสาวรีย์เรา

* กระสินธุ = สายน้ำ แม่น้ำ
* นค = ภูเขา
* มฤต = ตายแล้ว
โดยคุณ : นก สกุณา - [22 ต.ค. 2541 10:02:50]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : o แปลงร่างละรูปกาย .................. วปุกลายสว่างตา
กำลังทวีมา .................................... จุติเทพผดุงธรรม
o มุ่งหวังจะปราบมาร .................. กิระนามระบือจำ
เทพีพิลาศล้ำ .................................. สิริโฉมมิลองใคร
o นามนี้ ฤ Ps. ............................. ยุพเรศพิสุทธิ์ใจ
พำนักสถานใหญ่ ............................ ณ วิหารหลังคาแดง
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 11:05:33]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : กิระ = เล่าลือ
ยุพเรศ = หญิงสาวสวย
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 11:10:12]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ฮ่าๆๆๆๆ คิดได้ไงเนี่ยคุณPS

คุณMars ครับ ว่างแล้วช่วยตรวจฉันท์ของฉันด้วยจ้า เมื่อคืนนั่งแต่งใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ยากจริงๆ เกิดความรู้สึกราวกับว่า ลิขิตคำแต่ละคำดั่งสลักลงหินผา
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 11:13:39]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : พอดีผมไม่ชอบแก้คำประพันธ์ใคร แต่คุณหนอนบอกมาก็จะดูให้ครับ
ที่เห็นก็มี ๒ ที่
อันแรก สระอำ ปัจจุบันไม่นิยมใช้เป็นคำลหุแล้วครับ
อันที่สอง
เบื้องปัจจุบันเปลี่ยน....................ดุจเหมือนมิมีชาย
รู้สึกจะผิดสัมผัส ตรง เปลี่ยน <-> เหมือน

แต่ที่คุณหนอนฯแต่งก็ถือว่าใช้ได้ครับ การใช้คำไม่ซ้ากันมาก เพราะถ้าใช้บางคำมากเกินไป อาจจะดูเฝือไป (อันนี้ดูของเซียนสกุณาได้ครับ)
: )
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 11:31:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ผมหมายถึง ดูเซียนนก เป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ
ใช้คำที่หลากหลายดีมากครับ
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 11:49:02]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ฮ่าๆๆ ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ถึงจะเป็นนายMars ตัวจริงเสียงจริง พอดีผมไม่ชอบแก้คำประพันธ์ใคร หยิกแกมหยอกอย่างนี้แหละ ใช่เลย เพราะคนที่ชอบแก้คำประพันธ์คนอื่นมิใช่ใครที่ไหน เค้าชื่อนายหนอนสุรา ฮ่าฮ่า

จุดที่ผิดทั้ง 2 ที่เมื่อวานผมถามไปแล้วครั้งนึง ว่าคำที่อนุโลมแทนลหุมีอะไรบ้าง เพราะมือใหม่หาลหุไม่ค่อยจะเจอ และจะถอดสัมผัสสระระหว่างวรรคแรกไปวรรคสองออกได้หรือเปล่า เพราะพอได้ลหุ 2 พยางค์ตรงวรรคสอง บ้างครั้งไม่ได้สัมผัสกับวรรคแรก แต่เห็นไม่มีใครตอบ เลยเดาเอาเองตามนิสัยของผมว่าน่าจะใช้ได้ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยววันนี้จะลองใหม่ให้ถูกตามแบบ

อีกอันนึงของคุณนก สกุณา ผมอ่านทวน 2-3 เที่ยว แต่ไม่เข้าใจว่าคำไหนดูเฝือ โปรดชี้ให้เห็นชัดๆ หรือคุณนกจะมาชี้เองก็ดีครับ เผื่อคุณMars แกจะกลัวสกุณา เดี๋ยวไม่กล้าชี้
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 12:01:59]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ผมหมายถึงคุณนกใช้คำได้หลากหลายดี ไม่เฝือครับคุณหนอนฯ
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 12:05:27]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แหะ แหะ...ไม่เข้าใจคำว่า ริปู(ฉันท์คุณหนอนฯ) กับคำว่า วปุ(ฉันท์คุณPs) ค่ะ
โดยคุณ : Bambi - [22 ต.ค. 2541 12:16:56]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : อ้าว...แล้วก็เพิ่งจะมาบอก ผมไม่ทัน refresh ก็เลยงง อย่าหลอกล่อมือใหม่มาก แค่อ่านงเดียวก็มึนแล้ว

ตอบหนูแบมฯ (แบบกระซิบ) มาคืนผมไปลอกคำนี้จากสามัคคีเภทคำฉันท์ ของชิต บุรทัต มาคำนี้แปลว่าศัตรูจ้ะ
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 12:26:55]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แวะมาคิดถึง ครับผม
โดยคุณ : Always - [22 ต.ค. 2541 13:04:27]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : To ... คุณนก สกุณา

๑๑ ๏ แว่วเสียงพิจิตรา ..... สกุณาชโลมใจ
น้ำคำสิสดใส .................... มธุรสวิไลยิ่ง
๏ ด้วยรักและรักด้วย ........ วจะสวยสลวยจริง
สมแล้วสิน้องหญิง ............ สิเนหาวิลาวัณย์

มธุรส : ไพเราะ
วิลาวัณย์ : งามยิ่ง
โดยคุณ : lek Isara - [22 ต.ค. 2541 13:37:21]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ตอบคุณ Bambi ka ...
วปุ = ร่างกาย, ตัว
ริปุ, ริปู = ข้าศึก, ปรปักษ์, คนโกง
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 13:49:43]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : พอดีมีพจนานุกรม ฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2530
ใครพอรู้บ้างว่าจะหาพจนานุกรมแบบ Synonyms - Antonyms ได้ที่ไหน (เป็นภาษาไทยนะคะ)
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 13:56:29]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๐ รักแรกสิมารดา............................นฤพาพิเศษสุด
เลี้ยงกล่อมถนอมบุตร....................บริสุทธิ์ประดุจทอง
๐ เติบใหญ่ประสงค์กราบ..............ฤดิซาบเพราะหัตถ์สอง
เกื้อหนุนประคบคอง.....................ทวิกรละเมียดใจ
๐ ยามเศร้า ธ เศร้ากว่า.................ดุจพาอุราไหม้
ห่วงหาถวิลไกล..............................อดิศัยอุทิศตน
๐ บุญคุณสะท้านเกล้า....................ภระเฝ้าระรึงทน
อยากแนบประณตบน...................ศิรก้มกตัญญู

นฤ - คน
อดิศัย - เลิศ ประเสริฐ
ภระ - ภาระ
ระรึง - ผูกแน่น

** คือฉันท์นี้ตั้งใจจะแต่งต่อพี่ Mars กับ พี่เล็กกระทู้เก่านู้นน่ะค่ะ
ที่พี่ๆแต่งเรื่องรักแรกสิแปลก(แหลก)นะ แต่ช้าไปหน่อยน่ะเจ้าค่ะ
เลยเพิ่งเอามาโพสต์ ( แหะแหะ จริงๆหาคำลงไม่ได้น่ะค่ะ )

ปล. คำว่าเท้าไม่ทราบว่าใช้คำใดได้บ้างคะ นอกจากคำว่า พระบาท น่ะค่ะ
โดยคุณ : Bambi - [22 ต.ค. 2541 14:01:07]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : พอดีตอนแรกจะแต่งให้พ่อแม่เหมือนกัน แต่อยู่ๆ เครื่องดัน reset เองเฉยเลย แต่งไปได้ 3-4 บทแล้วด้วย เซ็งเลย เอาไว้แต่งใหม่โอกาสหน้า เดี๋ยวจะไปนั่งสมาธิแล้ว เล่นมานานแล้ว
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 14:08:57]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : To ... น้อง Bambi ( ลูกกตัญญู )

๏ คำฉันท์กตัญญู ...... ดุจดูละเมียดนัก
น้องเจ้าประกาศรัก .... สุขุมาลตระหง่านสม
๏ สองมือสิกราบบาท .... จะสะอาดอภิรมย์
พ่อแม่จะชื่นชม ....... บริสุทธิ์ประทับใจ

*** คติไทย : ความกตัญญูกตเวที คือเครื่องหมายของคนดี

• ขออนุญาตคุณ Mars ส่งข่าวแก่เพื่อนๆหน่อยครับ
เวบเพจพระปิยมหาราชเสร็จแล้วครับ ที่..
http://www.oocities.org/Tokyo/Garden/9425/piya001.html
วันนี้เพิ่มเติมพระราชประวัติในหน้าที่ ๒

ช่วงนี้โฮมเพจผมที่ http://i.am/lek ปิดเพราะ server กำลัง UpDate
ขอให้เข้าไปที่ http://www.oocities.org/Tokyo/Garden/9510 นะครับ
ขอบคุณครับ :o)
โดยคุณ : lek Isara - [22 ต.ค. 2541 15:43:11]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ไปดู homepage พระปิยฯ มาแล้วครับ ภาพสวยมากครับ
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 16:42:31]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : o เราแม้นจะเป็นหญิง ........... อุชุยิ่งประหนึ่งชาย
พร้อมแล้วจะพลีกาย ............. มรไซร้มิหวาดหวั่น
o หวังเพียงประเทศชาติ ........ จะผงาดและคงมั่น
รักชาติและราชัน .................... อภิรักษ์เสมอนาย
o ชาติศาสน์กษัตรา ................ กรุณาก็มายหลาย
แม้ว่าจะต้องตาย ..................... ฤ ถวายก็ยินดี
o แม้นรักสงบยิ่ง ..................... มิประวิงจะเร็วรี่
เช้าร่วมพิทักษ์พลี .................... วิรเยี่ยงทหารหาญ
o ไม่ว่าจะหน้าไหน ................... จะมิให้มะกรุยกราย
แม้นหากจะวอดวาย ................. ฐิติลายประชาไทย
o ช่อราชบังหลวง ..................... ก็จะทวงมิปล่อยไว้
เสียแรง ธ เป็นไทย ................... ทุรยศประเทศตน
o สิ้นเสียประเทศชาติ ............... นฤนาถและปวงชน
อยู่ได้รึเป็นคน ............................ อวรุทธ์ ณ แดนดิน
o หากไม่ผดุงชาติ ...................... ทุรราชจะครองสิ้น
ลุกขึ้นพิทักษ์ถิ่น .......................... อภิบาลสยามไทย

อุชุ = ซื่อสัตย์
มร = ความตาย
วิร = กล้าหาญ
ฐิติ = การตั้งอยู่, ดำรงอยู่
ทุรยศ = ทรยศ
นฤนาถ = พระราชา
อวรุทธ์ = ถูกขับไล่
ทุรราช = ทรราช
อภิบาล = บำรุงรักษา
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 16:54:19]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : แต่งฉันทลำบาก.........................ลหุยากสมองตัน
โอมจุ่ง ธ เบื้องบรรพ-.................กวีประชุมเทอญ
คำรักเสนาะหู..............................รสหรูมิขัดเขิน
มาพร้อมสถิตเชิญ.......................คณะฉันทของฉันฯ

เบิกบทนิราศร้าง.........................จรห่างจะไกลกัน
คำพร่ำและรำพัน.........................วจิคร่ำระกำครวญ
กำสรดกะกำโศก..........................วิปโยคเปนกำสรวล
แต่งตามกระบวนควร..................จิตหม่นหทัยหมองฯ

จำใจจะไกลทาง............................ขณะห่างบจางน้อง
ขอนางมิจางครอง........................มนะมั่นเสมือนหมาย
โฉมแม่จะฝากอินทร--...................ท่านก็กลัวหาย
เลื่องชื่อระบือชาย.........................สหนัยน์ประกาศนาม
โฉมแม่จะฝากนาค........................สตเศียรสิเรียงราย
เอามานิยามชาย...........................อิศรา ณ พันติ้บฯ

ขออภัยมณี ฉันท์พาไปครับพี่เล็ก แหะๆ
ผมว่าพอก่อนดีกว่าสำหรับฉันท์ฉบับกระท่อนกระแท่น
อัญเชิญวิญญาณบรรพกวีมาไม่ได้ เลยแต่งไม่จบ

ผมลองตามอีกวิธีที่คุณMars แนะนำ คือฉีกคำข้ามวรรค
อันแรกบรรพ- เอาลหุอันนึง อันที่2 อินทร-- เอาลหุ 2 อัน ไม่รู้ใช้ได้ฤเปล่า
เขียนมานี่ศัพท์มั่วอยู่หลายคำ
สหนัยน์ ความจริงต้องสหัสนัยน์ แต่ไม่ได้ลหุเลยมั่วเอา
สต ไม่แน่ใจแปลว่าเจ็ดหรือเปล่า มั่วโลด

เพื่อนๆ พี่ๆ โปรดแนะนำด้วยจ้า
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 16:55:05]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เห็นคุณหนอนสุรา รักชาติก็เอาอย่างบ้าง =) ตอนนี้ขอตัวไปซ้อมเตะก่อน =)
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 16:59:04]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : สต = 100, ระลึกได้, จำได้
โดยคุณ : Ps. - [22 ต.ค. 2541 17:02:39]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : คุณ Ps เก่งมากครับ เสียดายหลุดสัมผัสไปนิด นึงตรง หาญ กับ กรุยกราย

คุณหนอน
น่าจะยก ลหุมาไว้ทางขวาทั้งหมดนะครับ ดูแล้วแปลกๆอ่ะ น่าจะเป็นอย่างนี้นะครับ

โอมจุ่ง ธ เบื้องบรร-.................พกวีประชุมเทอญ

โฉมแม่จะฝากอิน-...................ทรท่านก็กลัวหาย
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 17:42:11]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๑๑ ๏ เทิดทูนธมารดา ......................... รติพาประทับทรวง
ดุจดาวประดับดวง ............................... หฤทัยคะนึงหา
๏ บุญคุญพระล้ำเลิศ ............................ และประเสริฐพิสุทธิ์พา
บิดรและมารดา ................................... ปฏิพัทธ์นิรันดร
๏ ก่อเกิดถนอมเลี้ยง ........................... จิตเพียงเพราะอาทร
กล่อมลูกประสาทพร ........................... ศิริยศยิ่งยง
๏ รวมดาวประดับฟ้า ........................... ศศิมาประณตส่ง
แทนคุณธดำรงค์ ................................. บมิเทียมมิเท่าเลย ๚
โดยคุณ : Mars - [22 ต.ค. 2541 17:58:05]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : จริงแฮะคุณอังคาร ตอนพิมพ์ผมก็ว่ามันแหม่งๆ แต่นึกไม่ออกว่าต้องแก้ยังไง พอเห็นที่แก้มาให้ ก็อึ้งเลยว่าทำไมไปทำอะไรให้มันยากขนาดนั้นนะหนอนฯ ความจริงมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับฉันท์ที่อยากถาม แต่เกรงใจเกรงว่ากระทู้นี้จะกลายเป็นคำถามเรื่องฉันท์ ผิดเจตนารมณ์ที่ให้แต่งมาแจมกัน

เอาเป็นว่าผมจะพยายามแต่งเข้ามาบ่อยๆ ให้ช่วยแนะนำดีกว่า น่าจะเป็นเร็วดีหรือว่าไงครับคุณโต

***ลองเรียกหลายๆ ชื่อจะได้จำแม่น ฮิฮิ***
โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 18:06:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม :
To ... น้อง Ps

๏ แม้นเธอจะเป็นหญิง ........... อุชุยิ่งประหนึ่งชาย
กล้าหาญประจงหมาย ............ จะประกอบกระทำดี
๏ ชาติศาสน์กษัตรา ............... และประชาประเทศนี้
จักสุขสงบดี ........................ ก็เพราะการกระทำตน
๏ ช่วยกันประกอบกิจ ............ สุจริตมิฉ้อฉล
บ้านเมืองมิมืดมน .................. ปฏิรูปวิถีทาง
๏ หากพบประสบเห็น ............. ฤจะเว้นสิต้องขวาง
มารร้ายจะคลายจาง ............... และประโยชน์จะมาเยือน ฯ

คำศัพท์ - ประจง : บรรจง , ทำให้ดี

To ... คุณหนอนสุรา

๏ เสียงครวญกระบวนย้อน ......... มติหนอนประกาศไว้
นิยามประณามใคร ..................... สตเศียรสิเรียงราย
๏ จงฟังนะหนอนจ๋า ................... อิศรามิหัวส่าย
แต่หนอนกระดึ๊บกาย .................. ดุจคล้ายละม้ายงู ๛

*** ...................... อิอิอิอิอิ .................... :oP
โดยคุณ : lek Isara - [22 ต.ค. 2541 21:58:25]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : o ชีวีก็เพื่อแม่ ................. รติแท้พิศุทธ์ใส
มารดาสิเทิดไว้ .................. ฐิติสูงประเสริฐยิ่ง
o เติบใหญ่วิลาสล้ำ ........... ภระค้ำมิท้วงติง
มอบรักมิประวิง ................ มิละทิ้ง ฤ แหนงหน่าย
o ในยามหทัยเศร้า ............. จะพะเน้ามิวางวาย
ก่อเกิดพลังกาย .................. จิตสู้บ่ท้อถอย
o ท่านชี้แนะคุณค่า ............ บ่มิมาระเรียงถ้อย
ตรากตรำมิใช่น้อย ............. ทะนุกายถนอมใจ
o ชีวิตสิมีค่า ...................... ดนุมา ณ แหล่งใด
มอบรักระวังภัย .................. ทรหดและอดทน
o วันใดสิเพลี่ยงพล้ำ .......... ฤ ระกำระทมล้น
ต้องสู้เพราะเป็นคน ............ อสุค่ามหาศาล
o แทนคุณอนันต์ล้น ............ และจะปรนสิชั่วกาล
เป็นดั่งบริวาร ..................... จะปทาน ฤ ชีวิน
o ทั้งรักและสำนึก ............... จะประพฤติจะพลีสิ้น
แม่สุขสิอาจิณ ...................... ดนุสุขมนุญตาม
o ความฝัน ณ สูงสุด .......... ฤ จะรุดพยายาม
ทดแทนพระคุณงาม ............ อสุสิ้นมิครั่นคร้าม
o ชีวิตจะสุขเส ................... กตเวทิตาตาม
ชื่นมื่นสิทุกยาม ................... กรณียะสมบูรณ์

รติ = ความรัก
พิศุทธ์ = สะอาด, ใส, บริสุทธิ์, หมดจด
ฐิติ = ตำแหน่ง, การตั้งอยู่, ดำรงอยู่
ภระ = เลี้ยงดู
จิต (จิตะ) = ใจ
ดนุ = ฉัน, ข้าพเจ้า
อสุ = ชีวิต, ลมหายใจ
ปรน = บำรุงเลี้ยงดู
ปทาน = ประทาน, มอบให้
มนุญ = เป็นที่พอใจ, งาม
กรณียะ (กะระนียะ) = กิจ, อันควรทำ, อันพึงทำ
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 04:01:29]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ถ้ามีตรงไหนควรแก้ไขปรับปรุง ช่วยกันชี้แนะด้วยนะคะ ....... แต่งตอนเบลอๆ ค่ะ นึกอะไรได้ก็แปะๆ ไว้ ตอนท้ายๆ มั่วศัพท์นิดหน่อย ....... อืมคุณ Mars ช่วยแนะวิธีตัดคำมาใช้ อย่างที่คุณหนอนฯ ทำน่ะค่ะ แนะเพิ่มเติมหน่อยนะคะ ........ ขอบคุณค่ะ
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 04:35:46]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : To: พี่เล็ก

๐ เที่ยวโอนกระเซ้าเขา....................ฤอิเหนาจะเป็นเอง
งูเลื้อยเขยื้อนเบ่ง...............................ศิระส่ายสมุนชู (ศิระ - ศีรษะ)
๐ คนเอิ้นแหละหัวหมอ.....................ศมรอกระหม่อมงู (ศม - สงบ) (เอิ้น - กล่าว)
ตัวเองแหละแอบอยู่...........................สขิรู้ภราดร (สขิ - เพื่อน สหาย)

:P
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ Ps นอนดึกจังค่ะ
ว่าแต่สงสัยต้องขึ้นไปอ่านคำแนะนำของพี่ Mars มั่ง แหะแหะ คือไม่ค่อยอ่านคำอธิบาย
ซักเท่าไหร่อ่ะค่ะ เดี๋๋ยวแว้บไปดูด้านบนดีก่า อิอิ
โดยคุณ : Bambi - [วันปิยมหาราช 04:53:53]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ช่วงนี้ฉันท์ขึ้นสมองค่ะ .... แต่งเล่นบ้าง จนในหัวมีแต่คำลหุเต็มไปหมด ....
เมื่อคืนไม่รู้ตัวว่าได้นอนหรือเปล่าด้วยซ้ำ ก่อนนอนเหมือนคำลหุวิ่งอยู่ ก็คิดไปเรื่อยๆ อีก 2 ช.ม. ตื่นมายังเป็นเหมือนเดิม ปรากฏเมื่อคืนนอน ตี 4 - 6 โมงเช้า นั่งสมาธิก็ไม่สงบ แต่งฉันท์จนเพี้ยนไปเลยค่ะ ........ โทษทีที่บ่นไปหน่อย ดึกแล้วไม่มีคนคุยด้วยอ่ะค่ะ
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 05:10:55]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ยังไม่มีใครตื่นหรือเนี่ย ! ! !
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 08:42:27]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ยังไม่ได้หลับเลยจ้า อิอิ ตอนนี้เราเพิ่งสามทุ่มสี่สิบห้าเอง
แต่งฉันท์มาอีกสิคะ จะคอยอ่านค่ะ @^-^@
โดยคุณ : Bambi - [วันปิยมหาราช 08:48:48]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : o ตื่นมามิเจอใคร ............. หฤทัยสิหงอยเหงา
หรือเขาจะลืมเรา .............. มนเศร้าอนาถตน
o หรือเขาจะกินยา ............ และสุราสิเมาล้น
ลืมวันและคืนจน ................ สุริยนจะทิ่มแทง
o หรือเขาจะมีกิจ .............. ธุระติดสะกิดแยง
ตื่นก่อนมิโต้แย้ง .................. เพราะมิว่างสิอย่างเรา
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 08:53:34]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : หายใจเข้าเป็น ครุ, หายใจออกเป็น ลหุ ทำซ้ำไปเรื่อยๆ อาจจะแต่งเก่งขึ้นถ้าไม่บ้าไปเสียก่อน

โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 09:48:34]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๑๑ ๏ ผองไทยประณตน้อม ................... ศิระพร้อมถวายพร
เทิดองค์บดินทร ..................................... ปิยราชทรงธรรม์
๏ ทรงเป็นพระบิดา ................................ กรุณาพระเสกสรรค์
สร้างแดนสยามอัน ................................. ศิวิไลเจริญงาม
๏ บุณคุณธล้นฟ้า ..................................... เพราะพระบารมีนาม
ปกเกล้าประชาตาม ................................ และพระเกียรติพระเกริกไกร
๏ ปวงชนประชาราช ............................... อภิวาทย์พระทรงไทย
น้อมเกล้าระลึกใน ................................... ศิระกราบพระบาทเทอญ ฯ
โดยคุณ : Mars - [วันปิยมหาราช 11:09:17]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ๑๑ ๏ ลมหนาวสะบัดพริ้ว ..................... จิตหวิวยะเยือกสั่น
ปลายฝนฤดูสรร- .................................. พชอุ่มและงดงาม
๏ แมกไม้ก็โอนอ่อน ............................ ศศิธรวะวับวาม
หนาวแผ่กระหวัดหวาม ....................... ก็สะทกสะท้อนใจ
๏ เรืองรองนภากาศ ............................. อธิมาตรขจรไกล
พริ้งเพริศและวิไล ................................ ดุจทิพย์วิมานแมน
๏ หนาวเย็นพระพายพัด ....................... ปริวรรตฤดูแดน
ผันแปรและเปลี่ยนแทน ...................... ก็จะเลยลุข้ามปี

ึคุณ PS ครับ
การแยกคำ ก็ไม่มีอะไรมากเลยครับ ดูว่าแยกแล้วมาลงตำแหน่งได้สัมผัสหรือไม่ และ ส่วนปลายที่แยกไปด้านขวาเป็นลหุหรือไม่ แค่นั้นเองครับ บทนี้ผมลองใช้ หนึ่งคำ คือ สรรพ แยกเป็น สรร+พ
โดยคุณ : Mars - [วันปิยมหาราช 11:35:09]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : อธิมาตร - เหลือคณนา
ปริวรรต - แลกเปลี่ยน,หมุนเวียน
โดยคุณ : Mars - [วันปิยมหาราช 11:37:42]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : o ขอบคุณพระอังคาร ...... จะประสานและลองดู
ฝึกฝนสิเป็นครู .................. และจะรู้ประยุกต์ถ้อย
o แต่งมากจะชำนาญ ....... สุขุมาลระเรียงร้อย
ถ้อยคำจะหยดย้อย ............ สละสวยเสนาะงาม
โดยคุณ : Ps. - [วันปิยมหาราช 13:00:08]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : To ... Miss Bambi :o)

๏ โดนเหน็บก็เจ็บแปลบ ........... อุระแสบสะเทือนทรวง
ดูหรือมิมาห่วง ....................... พจมานขนิษฐา
๏ ตอกย้ำภราดร .................... จะมิย้อนเพราะอ่อนล้า
สายหลุดประดุจว่า ................. จะมิให้ผงกชู ๛

*** ( พจมาน : คำพูด ) ... ฮือๆ ลูกศิษย์ดิดล้างงู :oP
@ สายหลุดทุก 2 - 5 นาที ไม่ไหวแย้ว ลาก่อนสำหรับวันนี้
โดยคุณ : lek Isara - [วันปิยมหาราช 13:46:34]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

๐ ยี่สิบสามตุลาคม............................นฤตรม ณ แดนไทย
ครบรอบสวรรค์ไกล........................ปิยราชสยามมินทร์
๐ ท่านทรงประกอบกิจ....................นิรมิตประดุจอินทร์
หลั่งน้ำหทัยริน.................................บุระรุ่งเจริญไกล
๐ ลงหัตถ์ขจัดทาส............................นฤนาถมิสั่นไหว
ทุ่มเทสมานใน..................................หฤทัยสยามเมือง
๐ ทรงเป็นกวีเอก.............................อดิเรกทวีเรือง
ปั้นงานประพันธ์เนือง.....................กิระล้ำพิลาศนาน
๐ ขอน้อมประณตนอบ....................ศิรหมอบถวายพาน
เทิดทูนนฤบาล..................................ปิยราชกษัตริย์ไทย
------------------------------------------------------------------------
นฤ - คน
บุระ - เมือง
นฤนาถ, นฤบาล - กษัตริย์
กิระ - เล่าลือ
ศิร - ศีรษะ
------------------------------------------------------------------------
โดยคุณ : Bambi - [วันปิยมหาราช 15:18:06]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ต่อของพี่ Lek Isara
ลาก่อนสำหรับวันนี้ ขอลาทีทั้งที่อาลัย จนกว่าจะพบกันใหม่ ขอจากไปจากใจลา ...
โดยคุณ : Ps. - [24 ต.ค. 2541 10:14:46]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : -- น้อง Bambi แต่งฉันท์ได้ยอดเยี่ยมเลยครับ :o)

• อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ....... “ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อน”

๏ คำฉันท์ประพันธ์หมาย ......... เพราะสหายสมานใจ
จรรโลงพยุงไว้ .................... สิริลักษณ์ประจักษ์แล้ว
๏ อักษรประสานมา ................ วิริยาประดุจแก้ว
สดใสสว่างแวว .................... ดุจจับระยับตา

๏ ย่ำค่ำตะวันรอน .................. มนอ่อนมิปรีดา
ดวงจิตขนิษฐา ..................... ฤจะอยู่ ณ หนใด
๏ ใจพี่คะนึงคิด .................... ก็เพราะจิตระลึกไว้
ใต้ฟ้าสุราลัย ........................ ประดิพัทธ์ประภัสสร

๏ หากแม้นมิปองพี่ ................ ภคินีมิอาทร
ดวงจิตภราดร ..................... จะมลายสลายพลัน
๏ ด้วยพี่จะม้วยแน่ ................ ตละแม่มิรักฉัน
พิษรักกระอักอั้น ................... สติแตกกระแทกโครม

๏ แต่ยังมิอาจตาย ................. มิสลายเพราะเฉิดโฉม
พี่น้องและญาติโยม ................ สิประคองประทับจิต
๏ ชีวีสิมีหวัง ........................ จะมิคลั่งแหละเลิกคิด
ชาตินี้สิมีสิทธิ์ ....................... อภิมานผง่านยืน ๛

*** ไชโย! ฮ่าฮ่า ! ........... บวมส์ ! :oP

• คำศัพท์
สิริ : มิ่งขวัญ
วิริยา : ความเพียร
สุราลัย : สวรรค์
ประดิพัทธ์ : ปฏิพัทธ์ , ผูกพัน , รักใคร่
ประภัสสร : บริสุทธิ์
ภคินี : น้องหญิง
อาทร : เอาใจใส่
ตละ : ดุจ
อภิมาน : ความหยิ่ง , ทรนง
ผง่าน : ( อ่านว่า ผะ-หง่าน ) ผงาด , สง่างาม
โดยคุณ : lek Isara - [24 ต.ค. 2541 10:16:07]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอถามคุณ Mars หรือใครก็ได้ค่ะ
จากฉันท์ของคุณ Bambi บรรทัดสุดท้าย
เทิดทูนนฤบาล ---> ฉันทลักษณ์ถูกต้องหรือเปล่าคะ
โดยคุณ : Ps. - [24 ต.ค. 2541 10:40:00]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : เท่ห์มากท่าน ประโยคสุดท้ายของท่านเท่ห์มาก อิอิ:P
=======================================
ตอบคุณ Ps. ค่ะ... ไม่ถูกค่ะ เรามั่วนิ่มอ่ะ อืมมม อิอิ
หาคำมาแทนให้ด้วยนะเจ้าคะท่านผู้ชม แหะแหะ
โดยคุณ : Bambi - [24 ต.ค. 2541 10:42:52]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ตอบน้อง Ps เรื่องคำว่า นฤบาลนั้น
สามารถแก้ไขเป็น นฤๅบาล พอได้มั้งครับ :oP

๑๑ ๏ ลาก่อนกะลาที ......... วจะนี้สะดุดตา
อย่างน้อยก็ต้องลา ......... และจะเจอมิไปไหน
๏ วันนี้สิไม่หลุด ......... บ่มิทรุดสะดุดใจ
พี่เล็กสิชื่นใจ ........... ดุจ์กระดี่สิปรีดิ์เปรม :oP

*** แฮ่! วันนี้ดีใจ ไม่ Disconnect น่ะครับ :o)
โดยคุณ : lek Isara - [24 ต.ค. 2541 10:47:41]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : 0 น้องนี้จะต้องลา ................. ธุระมาจะจำจร
แต่ขอประกาศก่อน .............. บ่มิไปสิไกลตา
o เริ่มจาก ธ JJ ................... ก็จะเร่ระริกหา
หนังสือสิธา- .......................... รถะอ่านและรู้ธรรม

ไม่มีเวลาแต่งต่ออ่ะค่ะ ... ถ้าใครเคยอ่านหนังสือสิทธารถะ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ ซื้อที่ไหน มันเก่าแล้วหาซื้อยาก ... กับหนังสือการนั่งสมาธิของหลวงปู่เทียน ทราบก็ช่วยหน่อยนะคะ มีกระทู้ หมวด K ที่post ไว้ช่วยไปตอบให้ทีนะคะ
โดยคุณ : Ps. - [24 ต.ค. 2541 11:58:09]


ความคิดเห็นเพิ่มเติม : ขอบคุณคุณงู เอ๊ย! คุณครูค่ะ มาแก้คำให้
=====================================
กระทู้เริ่มยาวแล้วอะค่ะ อิอิ... ( คุณMars....ขาา... )
โดยคุณ : Bambi - [24 ต.ค. 2541 13:04:08]