ฝึกลูกสุนัขให้ถ่ายเป็นที่ กลยุทธง่ายๆ ในการฝึกลูกสุนัขให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง คือ ให้ใช้หนังสือพิมพ์วางลงบนพื้น และให้รางวัลแก่ลูกสุนัข เมื่อเขาสามารถขับถ่ายลงบนหนังสือพิมพ์ได้ แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความอุตสาหะพยายามของเจ้าของด้วย กล่าวคือ ต้องหมั่นคอยสังเกตุดูพฤติกรรมของลูกสุนัขว่า มีท่าทางที่กำลังจะถ่ายแล้วหรือยัง โดยปกติสุนัขมักจะขับถ่ายหลังจากเวลาต่อไปนี้ คือหลังตื่นนอน หลังอาหาร หรือทุกๆ 2 ชั่วโมง หากยังเป็นลูกสุนัขอยู่ หากคุณเห็นว่า ลูกสุนัขกำลังอยากที่จะถ่าย ให้คุณรีบไปอุ้มลูกสุนัขไปวางบนพื้นที่มีกระดาษหนังสือพิมพ์รองอยู่ แต่อย่าทำให้เขาตกใจ เดี๋ยวจะพาลกลัวไปเลย ให้คุณทำด้วยความใจเย็นและนุ่มนวลที่สุด เมื่อลูกสุนัขเริ่มจะคุ้นเคยกับการที่ต้องถูกอุ้มไปวางลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์แล้ว ให้ค่อยๆ เปลี่ยนที่วางกระดาษหนังสือพิมพ์ ไปอยู่ในบริเวณที่คุณต้องการให้ลูกสุนัขใช้เป็นที่ขับถ่ายเป็นประจำ เช่น ในห้องน้ำ ประตูหลังบ้าน สวนหลังบ้านเป็นต้น เคล็ดลับอีกอย่างที่คุณไม่ควรพลาด คือ ให้กล่าวชมเชยหรือจะให้รางวัลเป็นขนมหรือของคบเคี้ยวสำหรับสุนัขแก่ลูกสุนัข เมื่อเขาสามารถทำได้ และให้ทำติดต่อกันประมาณ 3-4 วัน ลูกหมาคุณก็จะคุ้น และขับถ่ายได้เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่ตรงนี้กอง ตรงนั้นกอง
ที่มา: http://www.dogrunner.com/artman/publish/article_11.shtml
สุนัขเติบโตเร็วกว่าคนกี่ปี สุนัขและสัตว์อื่นๆ เจริญเติบโตเร็วกว่าคนมาก เห็นได้จากเมื่อสุนัขคลอดออกมาไม่นานก็สามารถเดินได้แล้ว ในขณะที่คนต้องใช้เวลานานมากกว่าจึงจะเดินได้ ถ้าอย่างนั้นใน 1ปีแรกของสุนัขเท่ากับกี่ปีของคน และเท่ากันทุกปีหรือไม ่คำตอบคือ สุนัขเจริญเติบโตแตกต่างกันในแต่ละปี
ในปีแรกร่างกายจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเท่ากับ 15 ปีทีเดียว โชว์ทรวดทรงอ้อนแอ้น หรือสัดส่วนที่บึกบึนอย่างเต็มที่ เรียกว่าเข้าสู่วัยรุ่น กำลังน่ารักน่าชัง เมื่อเริ่มเข้า
ปีที่ 2 เท่ากับ 24 ปี อยู่ในช่วงวัยเบญจเพศ วัยคะนองก็ว่าได้ พอปีที่ 3,4 เพิ่มอีกครั้งละ 4 ปี ช่วงนี้จะมากด้วยประสบการณ์ เมื่อเริ่มปีที่ 5 ขึ้นไปบวกเพิ่มอีก 5 ปีทุกครั้ง เพื่อความสะดวก คุณสามารถเทียบอายุคนกับสุนัขได้ดังนี้
จะเห็นได้ว่า ช่วงอายุคน กับสุนัขจะห่างกันมาก เราเลี้ยงแค่ 5 - 6 ปี สุนัขของคุณก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ทำอะไรคล่องแคล่ว ว่องไว แต่เมื่อเจริญเติบโตเร็วมากเท่าไหร่ ความชราจะมาเยือนอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นสุนัขที่อายุ 10 ปีขึ้นไป เริ่มทำอะไรเชื่องช้า เนื่องจากร่างกายจะอ่อนแอลงทำให้ติดเชื้อโรคง่ายตามไปด้วย เพราะเริ่มเข้าสู่วัยชราเรา จึงต้องเอาใจใส ่ในการดูแลมากขึ้น เจ้าตัวโปรดของคุณจะได้อยู่กับคุณนาน
ที่มา: http://www.dogrunner.com/artman/publish/article_23.shtml
Pug เจ้าหมาหน้าย่น หมาพันธุ์ พัก เป็นหมาที่อ่อนโยนเรียบร้อย ดูจริงใจ รักเจ้าของเป็นอย่างมาก ชอบทำอะไรที่ต่อเนื่องเป็นกิจวัตร และชอบที่จะมีส่วนร่วมทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกหรือคนในครอบครัว เสมือนว่าฉันก็เป็นคนเหมือนๆ กันนะ พักไม่เหมาะที่จะอยู่ตัวเดียว หรือนอนอยู่นอกบ้าน ต้องในบ้านเพราะเขาจะมีความสุข ชอบเรียกร้องความสนใจจากคุณอยู่เสมอๆ เมื่อถึงเวลา ก็จะครวญคราง ร้องเสียวงุ้งงิ้งๆ เรียกคุณให้มาสนใจอยู่เสมอทุกๆวัน
พักจัดว่าเป็นหมาพันธุ์เล็กขนาดกำลังพอดี น้ำหนัก อยู่ระหว่าง 13-18 ปอนด์ ส่วนความสูงก็ประมาณ 10-11 นิ้ว สีก็มีสีดำ สีน้ำตาลแอปปริคอต สีน้ำตาลอ่อนๆ หรือที่เรียกว่าสีฟอนต์ ขนสั้นแน่นและเยอะมาก ขนหลุดร่วงได้ง่ายและพลัดขนอยู่เป็นประจำ นิสัยส่วนตัว สุภาพอ่อนโยนไม่ดื้อ รักสะอาดไม่ชอบสกปรกเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ
พื้นที่เลี้ยงก็ไม่ต้องมากนัก ไม่ชอบอากาศร้อน ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายมากๆ ต้องคอยห้ามปรามอยู่เสมอ เพราะมีจมูกสั้นและบี๊ทำให้หายใจไม่ค่อยทัน ถ้าเหนื่อยมากไปอาจถึงตายได้ พักนั้นพื้นเพต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน สายพันธุ์เก่าแก่มากว่า 400 ปี ถูกนำไปเลี้ยง และแนะนำที่ยุโรป โดยชาวฮอลแลนด์เมื่อระหว่างคศ. 1500 และถูกนำเข้าประเทศอังกฤษโดยพระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 3 ส่วนมาตรฐานสายพันธุ์นั้นเป็นที่ยอมรับครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษในปีคศ. 1883 โดยสมาคมพักของอังกฤษ The British Pug Dog Club พักเป็นหมาเล็กที่ฉลาด ฝึกง่าย แต่มีข้อแม้ว่าต้องมีขนมหลอกล่อสักหน่อย เพราะพักเป็นหมาที่กินได้ทั้งวัน เขาจะนิ่งมากเมื่อรอและมองของกินที่อยู่ในมือเจ้าของ...เอาอะไรมาแลกก็ยอมถ้านายให้ขนม พักนั้นเหมาะสำหรับเจ้าของที่ใจเย็น มีเวลา และเอาใจใส่ เพราะพักมักจะคอยสนอกสนใจ แต่นายของเขาตลอดเวลา รักเถิดทูนไม่เสื่อมคลาย หากคุณเป็นคนประเภทไม่ค่อยมีเวลาว่างแล้วอย่าได้เลี้ยงหมาพันธุ์นี้โดยเด็ดขาด เพราะเขาจะดูหงอยเหงาบวกกับหน้าตายับๆของเขา เข้าไปด้วยแล้ว โอ้ย...อะไรจะเศร้าอย่างนี้หนา...
ที่มา: http://www.dogrunner.com/artman/publish/article_23.shtml
ล้านนา หรือ ลานนา ? ข้อถกเถียงนี้เกิดจากในอดีตธรรมเนียมการเขียนไม่เคร่งครัดการใส่วรรณยุกต์ คัมภีร์ใบลานจำนวนมากจึงมีทั้งคำ "ล้านนา" และ "ลานนา" ปรากฏอยู่ มีหลักฐานว่าในภายหลัง คือช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๑ อักษรธรรมล้านนาจึงมีรูปวรรณยุกต์ อย่างไรก็ตามผู้คนในช่วงนั้นยังคงเคยชินกับการใส่หรือไม่ใส่วรรณยุกต์ก็ได้ จึงเป็นที่เข้าใจกันว่า ธรรมเนียมการเขียนแบบไม่ต้องกำกับวรรณยุกต์โท แต่ให้อ่านออกเสียงแบบวรรณยุกต์โทกำกับ ธรรมเนียมนี้มีสืบมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ล้านนา มีศัพท์ที่มีภาษาบาลีกำกับ โดยสืบพบจากท้ายคัมภีร์ใบลานจากเมืองน่านและที่อื่นๆ อีก จำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐ แห่ง ในภาษาบาลีว่า "ทสลกฺขเขตฺตนคร อ่านว่า (ทะ-สะ-ลัก-ขะ-เขต-ตะ-นะ-คอน) แปลความได้ว่า "เมืองสิบแสนนา หมายถึงดินแดนที่มีจำนวนที่นานับล้าน เป็นคำคู่กับเมืองหลวงพระบางที่ชื่ออาณาจักร"ล้านช้าง" คือดินแดนที่มีช้างนับล้านตัว หรือช้างร้อยหมื่น ตั้งแต่ พ.ศ ๒๕๑๐ เป็นต้นมา ในหมู่นักวิชาการระดับสูงจำนวนหนึ่งพบคำว่า"ล้านนา"เป็นคำที่ถูกต้องแล้ว และชัดเจนมากขึ้นเมื่อ ดร.ฮันส์ เพนธ์เสนอบทความใน พ.ศ.๒๕๒๓ ยืนยันการพบคำล้านนาในศิลาจารึกวัดเชียงสา ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ได้ตรวจสอบศิลาจารึกดังกล่าวแล้วเห็นว่า มีคำ "ล้านนา" คู่กับคำว่า"ล้านช้าง"จริง จึงเสนอให้ใช้คำ"ล้านนา" แทนคำ "ลานนา" ใน พ.ศ.๒๕๒๖ ความเห็นนี้สอดคล้องกับนักวิชาการในจังหวัดเชียงใหม่ที่เสนอให้ใช้"ล้านนาไทย" เป็นชื่อหนังสืออนุสรณ์พระราชพิธีเปิด พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ที่เชียงใหม่ พ.ศ.๒๕๒๖-๒๕๒๗ หลังจากนั้นมา คำ "ล้านนา" ก็เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม ใน ช่วงพ.ศ. ๒๕๓๐ มีการโต้เถียงในเรื่องนี้กันอีกครั้งหนึ่ง และคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยโดยมีศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นประธานการสอบชำระ ได้ให้ข้อยุติว่า คำ "ล้านนา" เป็นคำที่ถูกต้องแล้ว (เรียบเรียงจากทิว วิชัยขัทคะ)
ที่มา: http://www.lannaworld.com/history/lannaname.htm
จากอดีต สู่ปัจจุบัน ดินแดนล้านนา ดินแดนล้านนา หมายถึง อาณาบริเวณที่ประกอบด้วยเมืองกลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กันทางเครือญาติหรือทางวัฒนธรรม ในอดีต รัฐโบราณไม่มีอาณาเขตชัดเจน แต่ในสมัยที่อาณาจักรล้านนาเจริญรุ่งเรือง เคยมีอิทธิพลแผ่ออกไปอย่างกว้างขวาง ไปถึงดินแดนเชียงรุ่ง สิบสองพันนา และรัฐชานตอนใต้
สำหรับดินแดนที่สำคัญของล้านนาอยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบด้วยเมืองใหญ่น้อย แบ่งตามสภาพภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มเมืองล้านนาตะวันตก ซึ่งเป็นแกนสำคัญมี เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา เมืองด้านล้านนาตะวันตกนี้มีความสัมพันธ์ ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์มังรายตอนต้น
ส่วนกลุ่มล้านนาตะวันออก มีเมืองแพร่และเมืองน่าน ทั้งสองเมืองมีประวัติความเป็นมาคล้ายกันคือ ในสมัยแรกเริ่ม ต่างมีฐานะเป็นรัฐอิสระ มีราชวงศ์ของตนเอง มีความใกล้ชิดกับ อาณาจักรสุโขทัย และรัฐอาณาจักรล้านนา เพิ่งผนวกเอา ดินแดนแพร่และน่านได้ในสมัยพระเจ้าติโลกราชและอยู่ในอาณาจักรล้านนาได้ไม่นานนัก อาณาจักรล้านนาก็ล่มสลายลง ในสมัยพม่าปกครองก็ใช้วิธีแบ่งแยกเมืองต่าง ๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าว การศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนา จึงมีศูนย์กลางการ ศึกษาอยู่ที่เชียงใหม่ เมืองหลวงแห่งล้านนา ส่วนเมืองแพร่และน่านมีการกล่าวพาดพิงไปถึงบ้าง
ที่มา: http://www.lannaworld.com/history/lannahist.htm
ฮาร์ดดิสก์ก็ชอบชาเขียว!! พบว่า สารสกัดในชาเขียว มีสมบัติช่วยขัดเงาให้แก่หัวอ่านฮาร์ดดิกส์ และยังปลอดภัยต่อสภาพแวดล้อมด้วย ภายในฮาร์ดดิสก์มีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่ในการบันทึกและอ่านข้อมูล ซึ่งเรียกว่า หัวอ่านฮาร์ดดิสก์ เป็นหัวอ่านขนาดเล็กที่เคลื่อนที่เหนือแผ่นดิสก์ที่กำลังหมุนด้วยความเร็วสูง ดังนั้น ส่วนของหัวอ่านต้องเรียบมาก หากมีความบกพร่องของหัวอ่านมากกว่า 10 อังสตรอม (หนึ่งในพันล้านส่วนของหน่วยเมตร) อาจเกิดการทำงานผิดปกติได้ ในการผลิตหัวอ่านแบบใหม่ ใช้เครื่องมือทำด้วยเพชร ในการขัดหัวอ่านให้เรียบ แต่หลังจากการขัดหัวอ่านแล้ว จะเกิดอนุภาคเล็กๆ เกาะติดอยู่ที่หัวอ่าน ดังนั้นจึงต้องใช้สารเคมีกัดกร่อนหัวอ่าน เพื่อกำจัดอนุภาคต่างๆ ที่เกาะติดอยู่ที่หัวอ่าน ให้หลุดออกไป
จอห์น ลอมบาร์ดิ แห่งบริษัท เวนทานา รีเสิร์ช ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกับบริษัท เพซ เทคโนโลยีส์ และมหาวิทยาลัยแอริโซนา พัฒนาสูตรของสารผสมตัวใหม่ ที่ประกอบด้วย สารแทนนิน (tannin) ซึ่งเป็นสารสกัดจากชาเขียว รวมทั้งสารสกัดอื่นๆ จาก ชาเขียว ซึ่งนอกจากจะให้ประสิทธิภาพการขัดเงาหัวอ่านแล้ว ยังปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะสารผสมนี้สามารถย่อยสลายได้ นอกจากส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากชาเขียวแล้ว ยังมีโปรตีนสังเคราะห์ และสารกัดกร่อนเป็นส่วนผสมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการทดสอบสารผสมจากชาเขียวนี้อีก ก่อนที่จะผลิตขายเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาได้สมบูรณ์ในปลายปี 2547 นี้ สำหรับสารแทนนินนั้น เป็นสารที่อยู่ในชาและกาแฟ ทำให้เครื่องดื่มมีรสขมเล็กน้อย และมีสมบัติสามารถจับกับสารโลหะและเซรามิกส์บางชนิดได้ และสมบัตินี้เองทำให้ชาเกาะติดกับ กาต้มน้ำและเหยือก สารแทนนิน ให้สมบัติสองประการไปพร้อมกันคือ เพิ่มอัตราการขัดเงาของหัวอ่าน และกำจัดอนุภาคที่เกิดการกระบวนการขัดเงาของหัวอ่าน
ที่มา: http://update.se-ed.com/204/w204_03.htm