Meeting w-inds.2004
Blue Day Party
[Let's get together sing da song]

meeting

บันทึกเมื่อ 3 เมษายน 2547 by meichan or mrs.tachibana

          Chorinsu~~ โฮ่ๆๆ ผ่านไปอีกครั้งนึงแล้วน๊าาา กับมีทติ้งวินส์ที่…(ยื่นไมค์ให้น้องๆ) สนุกกันมั้ย~! ….เงียบ…-- --‘’’ ไม่มีใครตอบเหอๆ ตอบเองก็ได้ว่าพี่ๆ สนุกกันมากกกก การรายงานข่าวในครั้งนี้ พี่ๆ ก็ไม่ได้สังเกตุเวลาในการเล่นของพวกเราเลย ดังนั้นขอเดาเวลาไปอย่างคร่าวๆ แล้วกันนะคะ อ้อ เกือบลืมไป วันนี้บลูเดย์จริงๆ ด้วยไปทางไหนก็เห็นแต่ สีฟ้าสดใส ทั้งนั้นเลย^^
          สตาร์ฟพี่เมย์ 1-4 ก็หัวปั่นกันตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ 2 เนื่องด้วยสาเหตุว่า ฉงนงงงวยกับผังงานในครั้งนี้และก็ต้องนั่งเย็บนิยายกันอย่างเมามัน ^^’’ จนถึงตี 4…. ( เพิ่งได้นอนกันตอนตี 4 ….7 โมงเช้ายังอุตส่าห์มีโทรศัพท์โทรมาปลุกให้นอนกันไม่หลับอีก –“--)
          10 โมงเช้าของวันเสาร์ที่ 3 เมษายน วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนพอมาถึงโรงแรมกันปรากฏว่าทางโรงแรมยังไม่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์อะไรใดๆ ให้ในห้องทั้งสิ้น เพราะเมื่อวานเพิ่งมีงานจัดเลี้ยงของคณะอื่นจึงยังคงเคลียร์ห้องไม่เสร็จ แต่หลังจากที่เปิดห้องเรียบร้อยแล้วพี่เมย์ 4 คนก็จัดแจงนำของเข้ามาภายในห้องพร้อมกับที่พนักงานโรงแรมก็นำข้อความที่จัดเตรียมไว้ไปติดที่ม่านด้านหน้าเวที Meeting w-inds.2004 Blue Day Party [Let’s get together Sing da Song] 3 April 2004 และเริ่มทำการขนย้ายเก้าอี้และโต๊ะเข้ามาภายในห้อง 3 นาทีต่อมา Staff Akira ก็โทรเข้ามาว่ากำลังเดินทางมาเพราะถูกปล่อยเกาะจากสตาร์ฟอีก 2-3 คนที่นัดเจอกัน และพี่เมย์อีก 2 คนก็เดินทางมาถึงพอดี ทั้ง 7 คนช่วยกันจัดของในงานจนในเวลาต่อมา มือปืนรับเชิญ (กีต้าร์) ก็มาถึง หลังจากที่ให้โน็ตเพลงไปแต่ไม่เคยได้ซ้อมร้องกับสตาร์ฟที่ต้องร้องเพลงบนเวทีเลยก็เลยต้องไปแอบหลบมุมหัดซ้อมกันใหม่เพียงเวลาไม่กี่นาที (ลุ้นกันเกือบตาย ^^’’) 10 โมงครึ่งมีน้อง 2 คนเดินขึ้นมาถามเรื่องงานก็จำเป็นต้องส่งพี่เมย์ 1 คนไปคุยด้วยว่ายังไม่ถึงเวลาเข้างานให้น้องไปเดินเล่นกันก่อน และก็มีน้องที่มากับแม่ มาอีก 2 รายมาถึงงานก่อนเวลา กันอย่างประปราย ทางพี่ๆ ก็ต้องส่งพี่เมย์อีก 1 คนไปคุยด้วยเช่นกัน


          เวลาประมาณ 11 โมงครึ่ง น้องๆ เริ่มหนาตาขึ้นทุกทีเริ่มมีเดินป้วนเปี้ยนกันตามสระน้ำและพูดคุยกันอยู่ทางด้านหน้าลิฟท์ เวลาเที่ยงครึ่งโดยประมาณ น้องๆ ที่รออยู่ด้านหน้าก็จัดแถวเป็น 2แถวอย่างเรียบร้อย พี่สตาร์ฟเรียกน้องที่จองบัตรไว้ทางไปรษณีย์ให้เข้ามาภายในงานเพื่อรับบัตรก่อน มีน้องหนึ่งรายทำ ลูกปัดพวงกุญแจที่เรียงตัวอักษรเป็น Keita ไว้ ตกระหว่างมารับบัตรพี่สตาร์ฟ 1 คนจึงต้องออกไปประกาศตามหาตัวเจ้าของ “น้องคะ ไม่ทราบว่าใครทำเคตะตกไว้ค่ะ เคตะสั้นๆ นี่ของใครคะ มารับกลับด่วนค่าา เคตะสั้นๆ ของใครคะ” นั่นเรียกเสียงเฮฮาจากน้องๆ ที่กำลังยืนรอกันอยู่หน้าประตูได้พักหนึ่ง
          สักครู่ก็มีการประกาศให้น้องๆ ออกไปทานของว่างกันก่อนตรงริมสระน้ำ แล้วค่อยมาลงทะเบียนเข้างานแต่ไม่มีใครคนไหนยอมเดินออกไปทานกันสักคน คาดว่าเนื่องจากเข้าแถวกันไว้แล้วเลยไม่อยากจะออกจากแถวไป พี่เมย์ทั้ง 13 คนจึงตัดสินใจเปิดให้เข้างานกันได้ มีการแจกริงโทนดาวน์โหลดของวินส์และแบบสอบถาม(ที่หลายหน้ามาก) ให้น้องๆ เข้าไปทำด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร ต่างคนเมื่อลงทะเบียนเสร็จก็จะเข้าไปเลือกซื้อของ จองของ นั่งกรอกแบบสอบถาม ต่ออายุสมาชิก(พี่เมย์: ฟังมาจากน้องคนนึงเล่าให้ฟังว่า มีคนหูบอดบอกว่าต่ออายุสมาชิก 350 บาทด้วยอ่ะ ตลกดีแฮะ ค่าสมัคร 250 บาทตลอดปีนะคะน้องๆ ที่รัก ^^) เคล้าเสียงเพลงของวินส์ที่เปิดอยู่ ไอ้ครั้นพี่สตาร์ฟเมย์ทั้งหลายจะลุกขึ้นไปเต้นกลางฟลอร์ก็กระไรอยู่เพราะเห็นน้องๆ กำลังนั่งเขียนแบบสอบถามกันเลยปล่อยให้ทำกันไป จนเวลาประมาณ บ่ายโมงครึ่งพี่เมย์พิธีกรก็เริ่มกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ(นิดหน่อย) และเริ่มต้นเกมส์แรกของเรา “ขอเชิญแขกรับเชิญพิเศษที่จะมาเล่นเกมส์กับเราวันนี้ Keita ทาจิบานะค่ะ” เสียงกรี๊ดจากน้องๆ กว่า 200 คนก็ดังขึ้นและแล้ว….. พี่สตาร์ฟอากิระของเราก็เดินขึ้นเวทีไปพร้อมกับส้ม 1 ผล “ครือเชิญเคตะวงวินส์ค่ะไม่ได้เชิญ อากิระลีด แต่เอาเป็นว่าท่าทางจะแทนๆ กันได้ เคตะไม่ว่างเอาอากิระมาแทนแล้วกัน” นั่นก็เรียกเสียงฮาและเสียงกรี๊ดให้กับน้องๆ กันได้อีกครั้ง “จริงๆ แล้วเราเชิญตัวจริงไปนะ แต่มาไม่ได้ติดธุระก็เลยส่ง…ต้นตระกูลมาแทน ทาจิบานะ แปลว่าอะไร?…..ใช่แล้วส้มนั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะมาเล่นเกมส์กันกับต้นตระกูลเคตะกันนะคะ เล่นกับส้มนี่แหละ” แล้วการเปิดงานด้วยเกมส์ส้มก็เริ่มต้นขึ้น เนื่องจากทาจิบานะ แปลได้อีกอย่างว่าส้มดังนั้นทางพี่สตาร์ฟจึงจัดเตรียมส้มต้นตระกูลเคตะมาให้น้องๆ ในงานได้เล่นกัน โดยจัดให้น้องๆ นั่งกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง (กว่าจะจัดเสร็จเล่นเอาเสียเวลาไปหลาย) “น้องๆ ถนอมต้นตระกูลพี่ๆ หน่อยนะ เดี๋ยวต้นตระกูลเคตะช้ำหมด” หนึ่งในสตาร์ฟกล่าวพร้อมให้อธิบายเกมส์การเล่นในครั้งนี้ต่อไป
          ทางพี่ๆ จะเปิดเพลงวินส์และให้น้องๆ ส่งส้มต่อๆ กันไปเรื่อยๆ ถ้าเพลงจบแล้วส้มหยุดอยู่ที่ใครให้คนนั้นออกมากลางวงทันที เราได้ผู้โชคดีมา 12 คนด้วยกันและมีตัวอย่างแสดงให้น้องๆ เห็นว่าเราจะทำอย่างไรกับน้องผู้โชคดีที่ถูกจับมาอยู่กลางวงนี้ “ขอตัวแทนสตาร์ฟด้วยค่า” ว่าแล้วพี่เมย์พิธีกรก็เรียกสตาร์ฟ 2 คนเพื่อให้มาเป็นตัวอย่างให้น้องๆ ได้เห็น แต่พี่สตาร์ฟทั้ง 2 ไม่ได้มามือเปล่าแกมาพร้อมกับ ถุงซานตาครอส 1st Message ที่มีของรางวัลทั้งหมดอยู่ในถุง และ……หน้ากาก Keita Ryuichi และ Ryohei ที่พอออกมาได้ก็เรียกเสียงหัวเราะและเสียงกรี๊ดให้กับน้องๆ ที่มาร่วมงานกันได้อีกครั้งหนึ่ง (ไม่รู้ว่ากรี๊ดในความทุเรศของพี่ๆ หรือว่ายังไงกัน) พี่สตาร์ฟแอบเห็นผู้ปกครองที่นั่งอยู่ริมสระน้ำ หัวเราะตามน้องๆ ไปด้วยก็ให้ปลื้มใจยิ่งนัก ท่านคงคิดว่า…(ไอ้พวกนี้บ้าจริงๆ) สตาร์ฟพี่เมย์ 1 แนะนำตัวเองตามที่พี่เมย์พิธีกรซักถาม จนถึงข้อสุดท้าย “ไม่ทราบว่าชอบใครที่สุดคะ” “เอ่อ…ชอบ ริวอิจิค่ะ” ว่าแล้วสตาร์ฟพี่เมย์ 2 ก็คว้าหน้ากากริวอิจิขึ้นมาบังหน้าตัวเองอย่างกระทันหัน “เอาหละค่ะ เจอหน้าริวอิจิแล้ว หนูอยากบอกอะไรกับริวอิจิคะ ตะโกนให้สุดเสียงเลยค่ะ” …..ว่าแล้วก็คุกเข่าหันไปสบตากันกับริวอิจิ “จะบอกว่า…รักริวอิจิมากที่สุดเลยค่า” แล้วก็โผเข้ากอดทำเอาน้องๆ ที่นั่งกันอยู่หัวเราะกันไปหนึ่งรอบ….แก๊งซ์ตลกคาเฟ่ของเราก็จากไป ถึงตาน้องๆ ก็เริ่มด้วยแฟน Ryohei Ryuichi และ Keita พี่ๆ สตาร์ฟถูกใจกันสุดๆ กับน้องคนนึงที่มีคำพูดอยากบอก Ryohei ว่า “ถึงแม้ว่าชั้นจะทำกับข้าวไม่เก่ง แต่ชั้นก็สามารถเป็นภรรยาที่ดีได้นะ” แม่เจ้าเรียกเสียงกรี๊ดลั่นจากแฟนวินส์ด้วยกันได้เป็นอย่างดีเชียวหละ งานนี้เล่นเอาสตาร์ฟตลกคาเฟ่หน้าหงายกันไปเลย (พี่สตาร์ฟ: อันนี้ขอส่วนตัวนิดว่า พี่ๆ สตาร์ฟชอบใจในคำตอบของน้องมากเลยนะคะ แม้ว่าจะมีบางคนไม่ชอบและเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ขอบอกตรงนี้ว่าพี่สตาร์ฟทุกคนดีใจที่น้องร่วมสนุกมากเลยค่ะ ใครจะเอาไปว่ายังไงไม่ต้องใส่ใจ เราชอบของเราแบบนี้ เราคิดของเราอย่างนี้นั่นคือความคิดของเราเพราะงั้นลุยให้เต็มที่ค่ะน้องขา แล้วไว้ถ้าไงพี่จะบอกเรียวเฮ ให้นะคะ อิอิ) เมื่อจบแล้วก็ได้รับของที่ระลึกกันไป ก็ยังไม่วายแกล้งน้องก่อนจาก “น้องชอบใครคะ?” “ชอบเคตะค่ะ” “อื่มมม ชอบเคตะนะคะ งั้นพี่ให้ริวอิจิแล้วกัน… น้องล่ะชอบใครอื่มมม ริวอิจินะคะ..งั้นพี่ให้เรียวเฮค่ะ แล้วน้องก็ไปขอแลกกันเองนะคะ” เป็นความสุขเล็กๆ ของพี่ๆ กันมากคับที่ได้แกล้งน้องให้ไปแลกกันเอง 55555
          เมื่อจบจากการเล่นเกมส์กับต้นตระกูลเคตะแล้วก็มาร่วมกันถ่ายภาพซึ่งก็จัดยากอีกเพราะสถานที่แม้จะดูกว้างแต่พอมาอยู่รวมกันแล้วก็ทำเอาที่ทางดูแคบลงถนัดตากว่าจะถ่ายกันเสร็จก็นานพอสมควร แต่ก่อนจะแยกตัวลงไปนั่งกันตามเดิมสตาร์ฟพี่เมย์ต้นเสียงก็ร้องตะโกนกันขึ้นมาแบบคอนเสิร์ทวินส์ว่า “w-I-n-d-s” น้องๆก็ต่อกันว่า “w-inds! w-inds! w-inds!” ทำแบบนี้ซ้ำกันอยู่ 2-3 รอบแล้วก็ตะโกน Ryuichi Ryohei Keita แข่งกันอย่างเมามันพร้อมอัดวีดีโอกันเอาไว้ด้วยเพื่อส่งไปให้ทางวินส์ได้ดูกันถึงความรักที่แฟนๆ ในไทยมีให้ แต่ท่าทางน้องๆ จะมันส์กันมากตะโกนแข่งกันไม่หยุดเสียงพี่สตาร์ฟคนนึงจึงต้องวิ่งลงไปห้ามทัพให้หยุดเสียงกันแล้วเริ่มงานต่อไป เล่นเอาปาดเหงื่อกันไปเป็นแถว นึกว่าน้องๆ จะกรี๊ดกันจนจบงานซะแล้ว…..

          เมื่อนั่งที่กันเรียบร้อยแล้วก็มาถึงช่วงจับรางวัลหางบัตรกัน ก็มีทั้งแจกโปสเตอร์ เทป และซีดี และรูปภาพวินส์อีก 1 เซ็ท หลังจากนั้นก็เป็นช่วงของการเปิดชม VTR ที่เตรียมไปแปลให้น้องๆ ได้ฟังพร้อมกันในงาน แปลกันไปหัวเราะกันไป พอถึงเพลง Forever Memories ก็ร้องและตบมือกันอย่างสนุกสนาน เล่นเอาคนที่มาสังเกตุการณ์ในวันนั้นอึ้งไปหมดว่าโอ้โหร้องกันได้ทุกคนเลยนะเนี่ย จนท้ายที่สุดที่เอาช่วงสมัยเดบิวแรกๆมาให้ได้ดูกัน มีการเผาสตาร์ฟกันเกิดขึ้นว่า “คนแปลไม่ยอมแปลมัวแต่มองแก้มเคตะ ที่กลมใส จนลืมฟังที่เค้าพูดๆ กันไปสนิท กว่าจะแปลจบก็เล่นเอานานทีเดียวเพราะมัวแต่มองแก้มเพลิน” เล่นเอากรี๊ดกร๊าดกันไปพักใหญ่จนช่วง VTR จบ (พี่เมย์: …เอ่อ…ทีนี้เนี่ย พี่เมย์ขอสารภาพว่า….งานนี้หยิบแผ่นไปผิดค่ะ แล้วก็ตั้งใจว่าจะเปิดอีกหลายอันเลยเพราะแปลกันไว้เยอะมากไอ้ที่ฟังแล้วน่ารักๆ น่ะ…. ปรากฏว่าหยิบแผ่นไปผิด ขาดไฟล์สำคัญไป 2 อันแต่ไม่เป็นไร ไว้เปิดคราวหน้าก็แล้วกันยังมีให้ดูกันอีกเยอะนะ อิอิ ^^’’)

          เมื่อจบจากการเปิด VTR กันไปแล้วก็มาเริ่มต้นถามคำถามแจกรางวัลกันซึ่งแต่ละคำถามก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถเลยเพียงแต่… ยากตรงที่จะเลือกใครออกมาตอบเท่านั้นเพราะน้องๆ แต่ละคนก็ยกมือรู้คำตอบกันทั้งนั้น ^^’’ อยากให้ทุกคนเลยน๊า แต่ของรางวัลมันมีชิ้นเดียวเลยต้องเลือกเอาอ่ะนะคะ (ช่วงนี้พี่เมย์หนีไปอ้วกคับเพราะเครียดจัดแถมไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า ส่วนพี่เมย์อีกคนกินยาแก้ปวดหัวไปหนึ่งรอบหลังจากที่งงกับการเคลียร์เงินสมาชิก และมีน้อง 1 รายไข้ขึ้นต้องหายามาให้ทานกันภายในงาน) เราถามกันไปทั้งหมด 5 คำถามด้วยกันพร้อมคำถามพิเศษที่เรียกใจกล้า 1 คนขึ้นมาแม้จะผิดหรือตอบไม่ได้ก็ตั้งใจให้อยู่แล้วแค่กล้าก็พอเท่านั้นเอง พวกพี่ๆ ให้น้องขึ้นมาบนเวทีถามชื่อ จังหวัดแล้วก็เริ่มตั้งคำถามว่า “ไม่ทราบตั้งแต่เข้ามาในงานนี่น้องหันหน้าเข้าเวทีมาตลอดมั้ยคะ?… ไหนบอกพี่ซิคะว่าบนเวทีเขียนข้อความว่าไงบ้าง” เล่นเอาน้องอึ้งไป 2 วินาที แต่ก็ตอบถูกมา 2 บรรทัดพี่สตาร์ฟถือว่าผ่านก็เลยให้ไปกับคำถามในครั้งนี้ ^^
          จากนั้นก็มาถึงคำถามสำหรับสมาชิกแฟนคลับเก่าเพื่อชิงการ์ดอวยพรปีใหม่ของวินส์เดย์ (แฟนคลับที่ญี่ปุ่น) ถามกันไปว่าบัตรเก่าที่เป็นรูปดวงตาทั้ง 3 ที่น้องๆ จ้องมองมันมากว่า 1 ปีนั้น เป็นตาของใครบ้าง? คำตอบนี้อยู่ในใจของน้องๆ แฟนคลับอยู่แล้วเพราะงั้นก็ไม่ขอเฉลยแล้วกันนะคะ ^^ สมาชิกเก่าที่ไม่ได้ไปงานก็ลองไปเดาเอาแล้วกันนะว่าเป็นตาของใครกันบ้าง จากนั้นทางพี่เมย์ก็อ่านคำอวยพรที่วินส์กล่าวในการ์ดให้น้องๆ ในงานฟังกัน ฟังแล้วก็แหม…หนุ่มๆ ขี้อ้อนกันจริงนะเนี่ย อิอิ ไม่นานกีต้าร์และไมค์ก็ถูกนำมาวางไว้ที่บนเวทีพร้อมตัวคนเล่นและนักร้องจำเป็นที่ถูกถีบส่งมาจากทั้ง 13 คน เพลง Somehow ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องจากน้องๆ แฟนวินส์กว่า 200 คนภายในห้อง เสียงเพลงที่ดังออกมาพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ทำเอาความเหนื่อยที่มีมาตลอดทั้งวันและตลอดทั้งเดือนหายไปเป็นปริดทิ้ง…เมื่อเพลงจบลงก็มีการกล่าวปิดงานและบอกข่าวดีให้ได้ทราบว่า “แล้วไงมีทติ้งหน้า…ตุลาคมนี้ เราจะมาเจอกันอีกครั้งใน Meeting W-inds.Flame Lead นะคะ” พอพี่สตาร์ฟพูดขึ้นมาแบบนี้เสียงน้องก็กรี๊ดกร๊าดกันขึ้นมาอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน ก่อนจบงานไป ก็ยังคงมีของรางวัลให้ได้แจกกันอีกกับบัตรมีทติ้งที่ไม่เหมือนใครในปีนี้ ทางสตาร์ฟได้มอบเสื้อสตาร์ฟให้ที่เป็นเสื้อทำเองและเป็นโลโก้วินส์ไว้บนหน้าอกเสื้อกับโปสเตอร์วินส์อีก 1 แผ่น ยังไม่หมด!!! เนื่องจากอยากให้ได้มีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านกันพี่ๆ ก็ยังคงคว้าเอารูปของวินส์ออกมาโปรยให้ในงานกันอีกกว่า 100 รูปด้วยกัน และตะโกนร่วมอีกครั้งว่า “w-I-n-d-s winds! winds! Winds!!!! ขอบคุณทุกคนมากค่า เจอกันใหม่ตุลาคมนี้นะคะ” เป็นอันว่างานในครั้งนี้ก็จบลงไปได้ด้วยดี…

          งานในครั้งนี้พี่ๆ ถือว่าประสบความสำเร็จมากกว่าครั้งที่แล้ว ไม่มีเหตุการณ์ที่จะต้องให้คิดมากเหมือนครั้งก่อน ไม่มีอะไรให้ต้องปวดหัวกับเรื่องสถานที่เหมือนครั้งที่แล้ว (แม้ว่าสุดท้ายจะโดนโรงแรมชาร์ทเพิ่มเรื่องเวลาและ vax ไปอีกก็ตาม -- --‘’) น้องๆ ที่มากันดูแฮปปี้กัน กลับบ้านด้วยเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม (ไม่รู้หละเราเห็นแบบนั้นอ่ะ) คนที่ไม่คิดว่าจะมาก็กลับมางานได้ คุณจะคิดยังไงพี่ๆ ไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อมาแล้วเราก็ต้อนรับขับสู้เหมือนกับทุกๆ คน หากคิดว่าตัวเองแปลกแยก คิดว่าคนในงานไม่ต้อนรับหรือคิดว่าทุกคนในงานไม่รู้ว่าคุณมา นั่นคือความคิดของตัวคุณเอง เพราะทุกคนไม่มีใครคิดอคติกับคุณถ้าคุณไม่อคติกับเค้าก่อน อย่าคิดว่าเงียบคือไม่รู้ ไม่พูดคือไม่เห็น

          สตาร์ฟแม้เหนื่อยจนลงไปนอนกองกับพื้นแต่ก็ได้รอยยิ้มกันออกมาเป็นแถว ขอขอบคุณบริษัท S.starck สำหรับของรางวัล ขอขอบคุณพี่แดง-พี่วัฒน์ร้านอิชิมารุกับความใจดีที่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา พร้อมทั้งการติดต่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ขอบคุณเพื่อนสตาร์ฟทุกคนที่มารวมตัวกันในวันนี้ ขอบคุณน้องข่ายซาน สำหรับภาพงานมีทติ้ง แล้วเดี๋ยวจะหาภาพสตาร์ฟอากิระสมัยม.ปลายไปให้ดู 555 และที่สำคัญขอขอบคุณน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่มาร่วมงานกัน มารวมตัวกันให้ได้เห็นว่า พวกเราคือ “w-inds” แล้วพบกันใหม่งานหน้านะคะ ตุลาคมนี้ค่ะ Meeting WFL 2004

ปล.งานหน้าเดี๋ยวเราจะตั้งซุ้มถ่ายรูปสตาร์ฟอากิระดีกว่าท่าทางจะรวย 555 *big grin*
with love from meichan or mrs.tachibana ^_^