*คำเตือน* นิยายเรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นนิยายเฉพาะกลุ่ม หากท่านรับไม่ได้ หรืออย่างไร ก็ขอให้ออกไปจากหน้านี้โดยด่วน และอย่าได้กล่าวว่าผู้แต่งหรือผู้จัดทำโดยเด็ดขาด อีกทั้งนิยายเรื่องนี้ได้ถูกแต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดและได้รับอนุญาตให้นำมาลงในเว็ปนี้เท่านั้นห้ามมิให้ผู้ใดนำไปใช้ในด้านอื่นๆ ขอบคุณค่ะ

Dance Lesson
By Feel To w-inds.

          "แม่ครับ ผมไปนะครับ" เสียงใสๆ ร้องบอกผู้เป็นแม่ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบรุดออกจากบ้านไป "ตั้งใจเรียนนะลูก" คุณแม่ที่กำลังยกที่นอนออกมาตากแดดชะเง้อบอกลูกชายตัวดีก่อนจะเดินลับตาไป "ครับแม่" เด็กหนุ่มแหงนหน้ามองแม่ที่ชั้นบนของบ้านพร้อมส่งยิ้มหวานที่มักระบายอยู่บนใบหน้าเสมอๆให้ เรียวเฮเป็นเด็กหนุ่มอายุเพียง 16 ปี รูปร่างค่อนข้างผอมบางหน้าตาเกลี้ยงเกลาดูคมคาย เค้ามักที่จะแจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมา... ในระแวกนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเค้าเพราะถือได้ว่าเป็นเด็กที่อารมณ์ดีและยิ้มเก่งที่สุดในบรรดาเด็กรุ่นๆ เดียวกัน

          วันนี้เค้าตื่นแต่เช้าเพื่อจัดแจงเลือกเสื้อผ้าตัวเก่งในตู้เสื้อผ้า เสื้อยืดสีขาวสะอาดตัวใหญ่ กับเสื้อคลุมสีแดงสดใสถูกเลือกออกมาจากตู้ กางเกงผ้าร่มสีแดงตัวโปรดก็ถูกนำออกมาเช่นกัน วันนี้ออกจะเป็นวันพิเศษสำหรับเค้าสักหน่อย เค้าจึงเลือกเสื้อผ้าสีสันสดใสกว่าปกติ หมวกปีกที่แขวนเรียงรายอยู่ที่ฝาผนังด้านข้าง เด็กหนุ่มเลือกที่จะหยิบใบสีแดงของ Fubu ออกมาใช้เพราะเมื่อไม่นานมานี้เค้าเพิ่งได้รับเป็นของขวัญวันเกิดจากพ่อของเค้าเอง
ทุกคนคงสงสัยแล้วสินะว่าวันนี้มันพิเศษตรงไหนสำหรับเค้ากัน ตื่นแต่เช้ามาเลือกเสื้อผ้าที่ดูสดใสเอาฤกษ์เอาชัยขนาดนี้?...... ใช่แล้วหละเค้ากำลังจะไปเดทกับสาว!!!!

          ....ล้อเล่นน่า ^_^ เรียวเฮของเรายังเป็นหนุ่มน้อยอยู่เลย ที่เค้าตื่นเต้นดีใจอยู่นี่ก็เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เค้าจะได้เข้าสู่โรงเรียนฝึกสอนเต้นรำชื่อดังที่เค้าใฝ่ฝันที่จะเรียนมาตั้งแต่เล็กๆ น่ะสิ เค้าฝันไว้ว่าสักวันเมื่อเค้าโตขึ้นเค้าจะเป็นนักเต้นระดับแนวหน้าของประเทศ และหลังจากนั้นก็จะเปิดสอนเต้นรำเป็นจริงเป็นจัง แล้วตอนนี้ก็ถือได้ว่าเค้าได้เดินก้าวเข้าสู่เส้นทางที่ได้ฝันไว้แล้ว ยิ่งคิดถึงอนาคตอันสดใสของวันข้างหน้าก็อดไม่ได้ที่จะเดินยิ้มคนเดียวไปตลอดทางแบบนี้

          เดินจากบ้านมาขึ้นรถบัสและเดินต่ออีกเพียง 2-3 บล็อกก็ถึงโรงเรียนสักที ที่นี่เป็นโรงเรียนที่มีชื่อที่สุดในจังหวัดฮอกไกโดเลยทีเดียว เด็กหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนเพื่อดูความยิ่งใหญ่ของสถานที่ที่เค้ามักนั่งรถมาดูในยามว่างและจินตนาการถึงตัวเค้าเองที่กำลังฝึกซ้อมการเต้นอย่างหนัก เค้าสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ครั้งหนึ่งก่อนจะกระชับหมวกใบเก่งกับเป้ด้านหลังให้เข้าที่พร้อมย่างก้าวเข้าสู่โรงเรียนอย่างภาคภูมิใจ
"ย๊ากกกก! ถอยไป ถอยๆๆๆๆ" "โครม!" เสียงร้องเอะอะจากทางด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งชะงักเท้านิดหนึ่งก่อนจะเหลือบกลับมามองตามเสียง แต่รู้สึกว่าเสียงร้องเตือนนั้นจะไม่มีผลอะไรสักนิด เพราะเจ้าตัวต้นเสียงดันมาร้องเอาตอนที่เพียงอีกคืบเดียวก็จะชนเข้าไปเต็มๆ แล้ว แรงกระแทกที่ได้รับส่งผลให้เรียวเฮล้มตึงลงกับพื้นถนน หมวกใบเก่งที่พ่อซื้อให้และเค้าเองก็เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีหลุดกระเด็นออกไปคลุกฝุ่นที่พื้นถนนห่างจากเค้าเองไม่ไกลนัก

          "อู๊ย....อะไรวะเนี่ย" ร่างบางบ่นพึมพำกับตัวเองพลางใช้มือควานเก็บหมวก "ขอโทษๆ มันเบรกแตกไปนิดนึงน่ะ... ชั้นไม่คิดว่าจะมีใครมายืนอยู่กลางประตูโรงเรียนอย่างนี้นี่นา เอ้า หมวก...." เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ถักผมเป็นเปียติดหนังศีรษะหน้าตาท่าทางกวนๆ เล็กน้อย ลุกขึ้นไปหยิบหมวกที่หล่นอยู่พร้อมนำมาปัดกับกางเกงตัวเองอย่างลวกๆ ส่งคืนให้เจ้าของ

          เรียวเฮเหลือบมองพฤติกรรม ลักษณะท่าทาง และการแต่งตัวของคนตรงหน้าก็บอกได้คำเดียวว่า 'ไม่ถูกชะตา' อย่างแรง! หน้าตาทะเล้น แต่งตัวแบบพวกเด็กบอร์ด เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ยักษ์กางเกงตัวเขื่องยาวลากพื้น ทรงผมสไตร์เด็กไม่ดี หูที่ถูกเจาะและระเบิดเสียจนใหญ่โตดูน่ากลัว แถมสายตาที่จ้องมองเราตอนนี้ยิ่ง.... ย๊ากกกก ไม่ชอบคนแบบนี้เลยให้ตายสิ

          "สวยดีนี่ของ Fubu ซะด้วย เอาไปสิชั้นปัดให้แล้ว" ร่างบางเหลือบมองตาขวางพร้อมกระชากหมวกจากมือมาปัดอีกครั้ง "อะไรของนาย! เล่นบอร์ดก็ระวังคนอื่นบ้างสิ ทุกๆ ที่บนถนนใครๆ ก็ยืนอยู่ได้กันทั้งนั้นแหละจะมาเดาเอาส่งเดชว่าไม่มีใครอยู่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน! นี่เกิดเมื่อกี้ชั้นล้มหัวฟากไปจะทำยังไง นายจะรับผิดชอบไหวมั๊ยเล่า!" เรียวเฮแผดเสียงด่าเป็นชุดๆ ทำเอาเจ้าอ้วนเลิ่กคิ้วแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
"เฮ้...อะไรกันทำโวยวายเป็นคนแก่ไปได้ ชั้นทำนายล้มชั้นก็ขอโทษแล้วนี่ ไหงนายกลับมาด่ากันเป็นชุดแบบนี้ล่ะ งั้นแบบนี้ชั้นถือว่าเราหายกันแล้วนะ เพราะนายก็ได้ระบายอารมณ์หมดแล้วนี่ นี่ยังถือว่าโชคดีนะที่ล้มไปแล้วไม่โดนชั้นทับอีกน่ะ ผอมๆ ซีดๆ แบบนี้ขืนถูกล้มใส่ได้นอนโรงพยาบาลแหงๆ ... เอ้า! ถ้าไม่มีอะไรแล้วชั้นไปหละนะนายหมวกแดง.....อ๊ะ! หนูน้อยหมวกแดงก็แล้วกัน ฮะๆๆ" ว่าแล้วเจ้าเด็กบอร์ดตัวอ้วนกลมก็คว้าบอร์ดของตัวเองที่หงายท้องอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วเดินผิวปากสบายใจออกไป

          "อ๊ะ....ชั้นไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงนะเจ้าอ้วนบ้า!…ซวย...ซวยจริงๆ นี่เราก้าวเท้าผิดข้างก่อนออกจากบ้านหรือไงเนี่ย?!" เมื่อนั่งบ่นกับตัวเองอยู่ได้สักครู่ร่างบางก็ลุกขึ้นเดินเข้าโรงเรียนไปเช่นกัน ..... ภายในตัวอาคารนั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นแรกประกอบด้วยห้องคัดเลือกต่างๆ และรวมถึงห้องที่ใช้ในการลงทะเบียนเรียนอีกด้วย ภายในโรงเรียนแห่งนี้มีศิลปะการเต้นแทบทุกแขนงก็ว่าได้ มีศูนย์ออกกำลังกาย ฟิตเน็ต ห้องแอโรบิคและห้องเรียนเต้นรำ แต่เป้าหมายของเราคือบริเวณชั้นสองซึ่งเป็นฃั้นเรียนสำหรับนักเรียนฝึกหัดรุ่นใหม่ และที่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด.......

          "ห้อง Dance Lesson" "เฮ้ย… นี่นายหนูน้อยหมวกแดงก็มาเรียนเต้นกับเค้าด้วยเหรอเนี่ย" เสียงร้องทักทายอย่างแปลกใจทำให้เรียวเฮหันขวับไปมองตามต้นเสียง ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะหันไปมองเลยด้วยซ้ำ เพราะไอ้เสียงแบบนี้มันเพิ่งจะผ่านหูไปได้ไม่กี่นาทีเองเท่านั้น...

          "นาย! ...." เมื่อเห็นหน้าชัดๆ ก็ทำเอาร่างบางแทบจะล้มทั้งยืน โอย...นี่ก่อนออกจากบ้านคงมีจิ้งจกร้องทัก หรือแมวดำกระโดดตัดหน้าเราเป็นแน่เล้ยยย "ถ้าไม่มาเรียนเต้นแล้วชั้นจะมาถูกนายชนจนล้มที่หน้าประตูโรงเรียนเรอะ? อย่ามาเรียกชั้นว่าหนูน้อยหมวกแดงนะ ชั้นไม่ใช่เด็กผู้หญิง" "ทำไมล่ะ ...มันฟังดูเหมาะกับนายดีออก นี่อย่ามาทำอารมณ์บูดหน่อยเลยน่า... ไหนๆ ก็เรียนชั้นเดียวกันแล้ว รักกันไว้ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่รึไง เข้าไปข้างในเหอะ เมื่อกี้เห็นพวกที่นั่งอยู่ตรงนั้นบอกว่าอาจารย์จะมาแล้ว"

          ไม่ทันไรมือเรียวนุ่มก็ถูกฉุดดึงให้วิ่งตามเข้าไปในห้องเรียนอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว "อาจารย์จะมาแล้วเหรอ? เอ๊ะ! ....เมื่อกี้นายว่าไงนะ! ใครจะไปรักกับนายกัน เจ้าบ้าปล่อยมือชั้นนะ" รู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้วเด็กหนุ่มถูกดึงตัวไปนั่งรวมกลุ่มอยู่กับเด็กคนอื่นๆ ภายในห้อง "แล้วทำไมต้องมานั่งตรงนี้ด้วยเล่า"

          "เอ้า...ไม่เห็นหรือไงในห้องนี้มีเก้าอี้สักตัวที่ไหนกันล่ะ ก็ต้องนั่งบนพื้นนี่แหละ ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ ชั้นยังไม่รู้จักชื่อนายเลย" เจ้าหนุ่มร่างท้วมหันมาส่งยิ้มหวานให้พร้อมรอฟังชื่ออย่างตั้งใจ "....ชั้นไม่ได้อยากรู้จักกับนายเพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่นายจะต้องรู้ชื่อชั้นไม่ใช่เหรอ?" "...เอ้า ตามใจงั้นชั้นก็จะเรียกนายว่าหนูน้อยหมวกแดงจนจบคอร์สเนี่ยแหละ" เจ้าอ้วนยิ้มทะเล้นให้

          "นาย!…." "จุ๊ๆๆๆ อาจารย์มาแล้ว" ยังไม่ทันได้อ้าปากด่าก็ต้องชะงักคำไว้เพราะเสียงอาจารย์ที่ก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในห้อง ท่านได้บอกถึงกฎต่างๆ ภายในโรงเรียนให้ทราบ ช่วงระยะเวลาใน 1 คอร์สที่เหล่าเด็กๆ ต้องอยู่ร่วมกันนั้นจะต้องทำอะไรบ้าง จำเป็นที่จะต้องสนิทสนมกันเข้าไว้อย่างไร และเมื่ออาจารย์ได้บอกเรื่องต่างๆ จนหมดเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการแนะนำตัวเองให้แก่เพื่อนร่วมชั้นฟัง แต่ละคนก็มีวิธีแนะนำตัวเองที่ต่างกันออกไป เรียบง่ายบ้าง เฮฮาบ้างก็แล้วแต่สไตร์ของแต่ละคน จนมาถึง "คนต่อไป" เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มรับผู้เป็นอาจารย์และลุกขึ้นโค้งให้กับทุกคนในห้องพร้อมส่งรอยยิ้มหวานที่ทำจนติดเป็นนิสัยให้ ตลอดระยะเวลาในการแนะนำตัว ไม่มีแม้สักครั้งที่จะเห็นรอยยิ้มนั้นจางหายไป

          "ผม Chiba Ryohei ครับ อายุ 16 ปี เพลงที่ชอบ House และ Soul ครับ สำหรับงานอดิเรกก็คือการเต้นรำครับ ความใฝ่ฝันของผมที่ฝันมาตั้งแต่เด็กคืออยากที่จะเป็นอาจารย์สอนเต้นรำ ให้ทุกๆ คนเต้นกันได้เก่งๆ และสนุกกับการเต้นครับ" เมื่อพูดจบเค้าก็ยิ้มและโค้งอีกครั้งก่อนลงนั่งกับที่ รอยยิ้มหวานๆ นั่นมันทำให้บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนไปในทันตา ถึงแม่ว่าจะเป็นการแนะนำที่เรียบง่ายและเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับทุกคนในที่นี้ที่ได้เห็นรอยยิ้มของเรียวเฮกลับประทับใจและสนใจในตัวเรียวเฮเป็นพิเศษ นานๆ ครั้งที่จะได้เจอกับเด็กผู้ชายรูปร่างหน้าตาน่ารัก บรรยากาศโดยรอบตัวดูสดใสและน่าคบขนาดนี้โผล่เข้ามาในชีวิตสักคน แถมมีรอยยิ้มที่สามารถผูกมัดคนอื่นๆ ได้เป็นอาวุธอีก แบบนี้ปัญหาเรื่องเพื่อนในคอร์สเดียวกันที่เด็กหนุ่มเป็นห่วงอยู่คงหมดปัญหาไปได้ในพริบตา!

          "คนต่อไป..." เจ้าเด็กบอร์ดที่นั่งติดๆ กันลุกขึ้นยืนพร้อมมองทุกคนในชั้น "หวัดดี ชั้นชื่อ Ogata Ryuichi อายุ 15 ปี ยินดีที่รู้จักทุกคน สิ่งที่ชั้นภาคภูมิใจ ชอบมากที่สุด และก็ทำได้ดีที่สุดในชีวิต เอ่อ...รองจากเรื่องกินน่ะนะ (พากันหัวเราะ) คือการเต้น ชั้นอยากให้ใครๆ ชอบการเต้นของชั้น ชั้นชอบเพลงในแนว Techno และ Soul อนาคตชั้นอยากที่จะเป็นนักเต้นอันดับต้นๆ ของประเทศ และก็อาจจะเป็นนักเต้นคนแรกที่อ้วนสุดและเก่งที่สุดก็ได้ (ในห้องหัวเราะ) มาที่นี่ก็อยากที่จะรู้จักและสนิทกับทุกๆ คนเอาไว้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ชั้นจะรู้จักกับเจ้าหนูน้อยหมวกแดงนี่เพียงคนเดียวแต่ชั้นเชื่อว่าไม่นานพวกเราทุกคนคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้แน่ๆ เพราะงั้นฝากตัวด้วยแล้วกันนะ" เมื่อจบการแนะนำตัวของเจ้าร่างท้วมที่ชื่อว่าริวอิจิก็มีการเป่าปาก ตบมือชอบใจกันยกใหญ่ ยิ่งตอนบอกว่าเรียวเฮเป็นหนูน้อยหวมกแดงแล้วยิ่งพากันหัวเราะกันไปใหญ่จนเจ้าตัวต้องรีบเอาหมวกออก

          "นี่! ชั้นก็มีชื่ออยู่นี่ มาเรียกแบบนี้ได้ไงกัน" "อ้าวก็นายไม่ยอมบอกชั้นเองนี่ชั้นก็เรียกนายในแบบของชั้นน่ะสิ คุณหนูน้อยหมวกแดง คิกๆๆ" เจ้าเด็กบอร์ดตัวแสบหันมาตอบยียวนกวนประสาททำเอาแทบจะกระอัก "ชั้นก็บอกไปแล้วนี่ว่าชั้นชื่อเรียวเฮ ตอนแนะนำตัวเองน่ะ ไม่ได้ฟังหรือยังไง" "นั่นมันแนะนำตัวกับส่วนรวม ไม่ใช่มาแนะนำตัวกับชั้น ชั้นถือว่าคนละเรื่องกัน สรุปก็คือไม่รู้จักชื่อนายไงล่ะ" พูดจบเค้าก็หันไปคุยกับคนข้างๆ ไม่ได้ใส่ใจเรียวเฮอีก

          ตลอดเวลาที่มาเข้าเรียนที่นี่ดูเหมือนเรียวเฮจะเป็นที่รักของทุกๆ คนและเข้ากับเพื่อนๆ ได้ดีที่สุดเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน ริวอิจิก็เป็นเหมือนตัวโจ๊กของกลุ่มเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกันที่ถูกลงความเห็นแล้วว่า "เพี๊ยน" ที่สุดแล้วคนนี้ เค้ามักที่จะมีอะไรตลกๆ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเสมอ เวลาฝึกซ้อมเต้นก็มักแถมท่าทางแปลกๆ ประหลาดๆ พ่วงท้ายให้ได้ฮากันเป็นประจำ

          จากที่ฝึกซ้อมมาตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์มานี่ดูเหมือนเจ้าอ้วนจะไม่ได้ใส่ใจอะไรกับการฝึกเลยสักนิด ยิ่งเห็นก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย วันๆ เอาแต่ตลกโปกฮา ไม่ขยันซ้อมอะไรกับเค้าเลยสักนิด แล้วอีกแบบนี้น่ะเหรอที่บอกว่าอยากจะเป็นนักเต้นอันดับต้นๆ ชึ! แค่ที่นียังไม่ได้เลยมั้ง เอ๊ะ.. แล้วนี่ชั้นจะมายุ่งวุ่นวายใจอะไรกับไอ้หมอนี่วะเนี่ย?

          เรียวเฮมองดูเจ้าเด็กบอร์ดตัวอ้วนกลมคู่อริตลอดกาลที่กำลังเต้นท่าเรื่อยเฉื่อยตามจังหวะเพลงที่เปิดให้เหล่ามิตรสหายที่รายล้อมอยู่ดูอย่างตั้งอกตั้งใจ เฮ่อ...เห็นแล้วอนาถเป็นบ้าเสียเงินมาเรียนโรงเรียนดีๆ แบบนี้แล้วดันมาทำบ้าบออยู่ได้

          "เฮ้.... คุณหนูน้อยหมวกแดง มาเต้นกับชั้นมั้ย เนี่ยเพิ่งคิดได้เมื่อวานเลยนะเนี่ย" เมื่ออีกฝ่ายเห็นมากำลังถูกจ้องมองอยู่ก็รีบร้องตะโกนโบกไม้โบกมือให้ในทันทีทันใด จนบัดนี้ผ่านไป 3 อาทิตย์มันก็ยังไม่วายเรียกแบบนี้อยู่อีกจนใครๆ ในคอร์สจะเรียกตามกันอยู่แล้ว ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงด้วย เพราะจากประสบการณ์ที่เคยสั่งสมมามันบอกให้รู้ว่า เค้ากำลังถูกยั่วยุอย่างรุนแรงจากเจ้าวายร้ายนี่ ขืนต่อปากต่อคำกับมันมากกว่านี้มีหวังปวดกระโหลกตายแน่ๆ สู่เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ทำนิ่งไม่สนใจไปเดี๋ยวมันเบื่อก็คงเลิกไปเอง เพื่อนๆ ที่นี่ยังเคยลงความเห็นกันเลยว่า ถ้าวันไหนริวอิจิไม่ได้ยินเสียงด่าของเรียวเฮวันนั้นคงกลับไปนอนคลั่งตายที่บ้านแน่ๆ

          "ไม่รู้จะมาอะไรกะเรานักหนา ทำบาปทำกรรมอะไรกับมันไว้เยอะรึไงฟะเนี่ย ถึงได้มาตามจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้ ไอ้เจ้าอ้วนขี้เกียจเอ้ย!" หนุ่มน้อยหน้าหวานได้แต่บ่นกระปอดกระแปดอยู่เพียงลำพังพร้อมเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อเจ้าตัวอันตรายทำท่าจะวิ่งเข้ามาหา

          "ปี๊ดดดด!" "ทุกคนมารวมกันทางนี้" เสียงอาจารย์ดั่งเสียงสวรรค์สำหรับเรียวเฮเพราะอีกเพียงนิดเดียวเจ้าบ้าริวอิจิก็จะเดินมาถึงตัวอยู่แล้วเลยต้องชะงักไป เด็กทุกคนที่ได้ยินเสียงเป่านกหวีดก็พากันวิ่งมารวมอยู่ที่กลางห้องเพื่อรอรับฟังคำที่อาจารย์จะกล่าวต่อไป

          "หลังจากผ่านมา 3 อาทิตย์ เท่าที่ครูดูมา ครูคิดว่าพวกเราทุกคนคงพร้อมที่จะเข้ารับการทดสอบในครั้งแรกกันแล้ว" พอได้ยินคำว่าทดสอบเท่านั้นต่างคนต่างฮือฮาขึ้นมาในทันที "เอ้า ฟังก่อนๆ การทดสอบจะถูกกำหนดให้มีขึ้นในอาทิตย์หน้า เราจะแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มละ 2 คนด้วยกัน โดยครูจะให้พวกเราจับฉลากกันอีกทีในวันนั้น จุ๊ๆๆๆๆ เงียบหน่อย........ 2 คนที่คู่กันไม่ใช่ว่าช่วยกัน แต่จะให้แข่งกันเอง เมื่อได้ผู้ชนะแล้ว เราจะเอาผู้ชนะมาจับฉลากอีกครั้งเพื่อจับคู่ใหม่ วนไปแบบนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้คนที่เก่งที่สุดเพียงคนเดียวในชั้น ดังนั้นขอให้ตั้งใจกันด้วย"

          "จารย์ครับ!" "ว่าไง..." "แล้วเพลงล่ะครับ ท่าเต้นอีก มีท่าบังคับอะไรที่จะแยกคนแพ้กับคนชนะล่ะครับ" หนึ่งในชั้นเรียนยกมือถามพร้อมยิงคำถามที่ทุกคนในชั้นต่างพากันคิดตาม เพราะการเต้นของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ Style ใคร Style มัน ถ้าไม่มีการกำหนดท่าเต้นเลยคงแยกไม่ออกแน่ว่าใครเหนือกว่าใคร

          "จะมีท่าบังคับให้ฝึกกันในวันนั้นก่อนทดสอบ ส่วนท่าอื่นๆ แล้วแต่ใครจะคิด ตามสบาย.... ส่วนเรื่องของเพลงก็ได้ฟังกันวันทดสอบเช่นกัน" ตอนนี้เริ่มมีเสียงบ่นอุบอิบขึ้นมาแล้วว่ายาก เพราะเท่าที่ฟังมาล้วนใช้ไหวพริบเฉพาะหน้า และ ความคิดสร้างสรรค์ก่อนทดสอบเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น อีแบบนี้ไม่เรียกว่าหินแล้วจะเรียกว่าอะไรได้กันล่ะ

          "เอ้า พอๆๆๆ เริ่มเสียงดังกันแล้ว เอาเป็นว่าใครมีปัญหาอะไรก็ไปถามที่ห้องแล้วกัน เอ้า แยกย้ายกันไปได้แล้ว..." แล้วอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปเมื่อผู้ใหญ่ไม่อยู่ในห้อง เด็กๆ จึงเริ่มวิ่งจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องทดสอบทันที "โห เพิ่งเข้าได้ 3 อาทิตย์ยังเมมท่าไม่หมดเลย นี่จะสอบกันแล้วเหรอเนี่ย" "ทดสอบแรกยังยากขนาดนี้แล้วครั้งๆ ต่อไ ปจะเป็นไงวะเนี่ย" "ให้คิดท่าเต้นเองส่วนนึง มีท่าบังคับที่จะได้เห็นก่อนสอบไม่กี่นาที แถมยังจะจับฉลากดวงซวยไปโดนใครเข้าก็ไม่รู้" "นั่นดิ่..... เกิดเจอกับเจ้าริวอิจิก็เดี้ยงพอดี อาจารย์ยังเคยชมเลยว่าหมอนี่ความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ เอ่อ โจทย์พิสดารแบบนี้เสร็จมันหมดแหงๆ" "เออ เห็นด้วย เจ้านี่มันคิดท่าใหม่ๆ มาได้ไม่เว้นแต่ละวัน โจทย์กระทันหันแบบนี้หมูชัวร์"

          "แต่ชั้นว่าคนที่น่ากลัวสุดน่าจะเป็นเรียวเฮนะ....." เสียงหนึ่งกล่าวขึ้นมาทำให้เพื่อนๆ ในกลุ่มเงียบไป "อืม....ใช่ ลืมไปเลยว่ามีเจ้านี่อีกคน" "ใช่ๆ หมอนี่ตั้งแต่เข้ามา ตั้งใจสุดๆ จำท่าก็แม่น เก่งก็เก่ง ฝึกแป็บเดียวก็เต้นได้แล้วขืนโดนจับคู่กับเรียวเฮ มีหวังใจฝ่อก่อนแข่งว่ะ" "แบบนี้ดูก็รู้ว่าใครจะได้ที่หนึ่งของห้อง ไม่พ้นเรียวเฮหรอกชั้นว่า...."

++++++++++++++++++++++++++++

          ....ช่วงเวลาหลังจากที่อาจารย์บอกถึงเรื่องการทดสอบทุกคนก็ต่างพากันฟิตซ้อมอย่างขะมักเขม้นบ้างก็แยกซ้อมเดี่ยว บ้างก็จับกลุ่มช่วยกันคิดท่าเต้น บ้างก็นั่งวิจัยเดาใจอาจารย์ว่าจะเอาเพลงอะไรมาสอบ คงจะมีก็แต่...... "นี่ๆๆ ชั้นว่าเราไปกินทาโกยากิที่ร้านตรงหัวมุมกันมั้ยเย็นเนี๊ย" ริวอิจิเดินดักหน้าดักหลังเรียวเฮอยู่ตลอดเรียกได้ว่าแทบไม่ปล่อยให้เรียวเฮได้อยู่คนเดียวเลยหละ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิดยังคงตั้งหน้าตั้งตาซ้อมต่อไปเหมือนริวอิจิเป็นแมลงที่บินโฉบผ่านหน้าไปมาเท่านั้น

          "นี่ วันนี้หนูน้อยหมวกแดงไม่ใส่หมวกแดงมาแล้วเหรอ แล้วยังงี้ชั้นจะเรียกว่าไงได้ล่ะ เรียกคุณหนูไม่มีหมวกเหรอ?" "นี่เมื่อวานเจ้าพวกนั้นมันไปร้านขายของฝั่งตรงข้ามเค้าให้จับฉลากด้วยนะ พวกนั้นได้ขนมมาถุงเบ้อเริ่มเชียว เราไปจับกันมั่งมั้ย?" "ฮ่าๆๆๆ ผมนายยาวแล้วตลกชมัด ไปร้านตัดผมกับชั้นมั้ยเดี๋ยวจะให้ช่างประจำเค้าตัดให้ รับรองออกมาหล่อเหมือนชั้นแน่ๆ" "นี่หนูน้อยหมวกแดง เมื่อคืนนายได้ดู Pop Jam หรือเปล่า Da pump มาออกนะเท่ห์เป็นบ้า แล้วนายชอบคนไหนในวงล่ะ?" "นี่เมื่อวานไปซื้อเสื้อใหม่มาทายสิว่ายี่ห้ออะไร..... ก็ยี่ห้อโปรดของนายไง Fubu น่ะ นายชอบไม่ใช่เหรอ?" "นี่..." "นี่..."

          และทุกวันก็จะเป็นแบบนี้อยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะหนีไปทางไหนก็จะโผล่หน้ามาให้เห็นเสมอ คอยตามตื้อตอแย หยอกเล่นอยู่อย่างนั้นเอง ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน เหมือนแมงหวี่ที่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปยังคงบินกลับมาตอมอยู่ที่เดิมให้รำคาญอยู่อย่างนี้ตลอด ด่าไปก็เหมือนเข้าทางยิ่งได้ใจหัวเราะชอบใจไปใหญ่ เฉยก็ยิ่งพยายามหาเรื่องมาพูดๆๆๆๆๆ กอกหู ไม่หยุดหย่อน ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าหมอนี่คิดอะไรอยู่ ซ้อมก็ไม่ซ้อม เอาแต่มากวนโมโหชาวบ้านเค้าอยู่ได้ทุกวี่วัน .... ไม่สิที่ถูกกวนน่ะมันเราคนเดียว ชาวบ้านชาวช่องอื่นเค้าไม่ยักถูกก่อกวนมั่ง หรือว่านี่คือแผนตัดกำลังคู่ต่อสู้ มาแผนสูงก่อกวนให้ไม่มีสมาธิในการฝึกซ้อมแล้วตกรอบไปเวลาสอบ......

          ไม่หรอกประเด็นนี้ไม่เข้าข่ายเลยสักนิด เพราะคนคิดตื้นๆ แบบเจ้านี่ไม่มีทางคิดแผนอะไรลึกลับซับซ้อนแบบนี้ได้หรอก เฮ่อ... ช่างเหอะมัวคิดเรื่องเจ้าบ้านี่ไปก็เปล่าประโยชน์ เอาเวลามาคิดท่าเต้นที่สอบพรุ่งนี้จะดีกว่า ต้องเลือกท่าที่มี 8 Beat ให้ได้จะได้เอาไปใส่ในเพลงไหนจังหวะยังไงก็ได้ หึ ว่าไปเราก็เก่งเหมือนกันแฮะ

          .....วันทดสอบ.....
          อาจารย์เรียกทุกคนให้มารวมกันกลางห้องเช่นเคย และให้ทำการจับฉลากเลือกคู่เต้น เมื่อทำการจับฉลากเรียบร้อยแล้วก็เปิดดนตรีของการทดสอบให้ฟัง พร้อมทั้งแสดงท่าเต้นบังคับที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม โดยจุดที่ยากเห็นจะเป็นการนำเอาท่าบังคับทั้งหลายไปใส่ให้ตรงกับท่อนดนตรีที่อาจารย์กำหนดไว้ ทุกคนจะต้องจำให้ได้ว่าท่อนไหนใส่ท่าอะไร และให้เวลาซ้อมทุกคน 1 ชม. หลังจากนั้นก็มานั่งรวมกันเช่นเดิมพร้อมเชิญคู่แข่งขันคู่แรกออกมา และเรียงไปเรื่อยๆ ตามหมายเลขที่จับฉลากได้ เมื่อครบหมดทุกคู่แล้วก็รอการประกาศผลเพื่อทราบว่าใครคือคนที่ผ่านเข้าสู่การทดสอบในวันถัดไป

          เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ เรียวเฮได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งเนื่องจากแทบจะหาข้อผิดพลาดไม่ได้เลยสักนิด เนี่ยแหละที่เค้าเรียกว่า เก่งแพ้ขยัน อุตส่าห์ซุ่มซ้อมทุกวันจนชินกับการเต้นและจังหวะของตัวเองจะไม่ให้ผ่านได้ไงล่ะ แต่อีกคนที่ผ่านเข้ามาได้เป็นที่ 4 เนี่ยสิ ด้วยความคิดพิสดารพันลึกไม่เหมือนใครขนาดนั้น สงสัยอาจารย์คงเอาเก็บไว้เป็นตัวโจ๊กประจำรอบแข่งขันหละมั้ง ไม่เกินพรุ่นี้ก็คงตกแล้วหละ สบายใจจริงๆ กลับไปแม่ต้องดีใจแน่ๆ เลย

          เด็กหนุ่มยิ้มหวานอยู่เพียงคนเดียว แต่รอยยิ้มนั้นก็ชักเริ่มเหือดลงเรื่อยๆ เนื่องจากเจ้าคนที่คิดว่าน่าจะตกไปตั้งแต่รอบ 2 กลับยังมีชีวิตรอดปลอดภัยอยู่ได้จนมาถึงเดี๋ยวนี้ ที่เป็นรอบตัดเชือกดวนกันเพียงลำพัง ทุกคนในชั้นเรียนต่างบอกว่าเป็นรอบที่น่าดูที่สุดเพราะคู่แค้นคู่กัดมาเจอกันแบบนี้คงไม่ใครยอมใครแน่ๆ นอกจากแข่งกันด้วยเรื่องส่วนตัวแล้ว ยังมีศักดิ์ศรีของที่หนึ่งของห้องเป็นเดิมพันอีกด้วย เรียวเฮมักบ่นอุบอิบกับเพื่อนบางคนว่าสวรรค์ลำเอียง คนอื่นๆ ที่ขยันฝึกซ้อมก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ แล้วทำไมถึงต้องให้เจ้าโองาตะ ริวอิจิคนนี้เข้ามาจนถึงรอบตัดสินด้วย เค้าซ้อมกันแทบเป็นแทบตายหมอนี่วันๆ เอาแต่มาล้อเลียน ก่อกวนชาวบ้าน ไม่รู้อาจารย์คิดอะไรอยู่กันแน่ หรือเพราะทุกคนที่แข่งกับหมอนี่จะประหม่าจนแพ้ไป

          "ดูเถอะชั้นเนี่ยแหละจะชนะให้ได้ ยังไงๆ จะไม่ยอมแพ้เจ้าหมอนั่นเป็นอันขาด"

          "นี่!" "เฮ้ย!" พูดถึงอยู่แหมบๆ เจ้าอ้วนก็มานั่งยองๆ อยู่ตรงหน้ากระตุกขากางเกงยิกๆ แล้ว "หิวแล้วง่ะ ไปหาอะไรหม่ำกันเหอะ" ริวอิจิพูดจบก็เท้าคางเงยหน้ามองเรียวเฮที่ยังตกใจไม่หาย เพิ่งนินทาประกาศท้ารบไปหยกๆ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะโผล่พรวดพราดออกมาพอดี เมื่อกี้ไม่ได้ยินที่เราพูดหรือไงวะเนี่ย "จะบ้าเหรอโผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง คนอื่นเค้าตกใจกันหมดไม่เห็นหรือไง!" "เอ่อ เรียวเฮชั้นไปก่อนนะ..." เพื่อนที่คุยกันอยู่เมื่อกี้พอเห็นว่าริวอิจิมาพอดีกับที่เรียวเฮประกาศสงครามก็รีบปลีกตัวออกไปทันที "อ๊ะ... อื่ม... โชคดีนะ" "ก็เห็นนายทำหน้าตามุ่งมั่นขนาดนั้นแล้ว ชั้นเลยรู้สึกหิวพิกลๆ"

          "ชิ!....." ร่างบางสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ใยดี "ชั้นไม่สนใจหรอกนะว่านายจะคิดยังไง แต่ชั้นไม่ยอมแพ้นายแน่" นี่คงเป็นคำพูดครั้งแรกก็เป็นได้ที่เรียวเฮเอ่ยกับริวอิจิยาวๆ แบบนี้" ร่างท้วมลุกขึ้นยืนพร้อมจ้องมองเพื่อนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่ทำให้เรียวเฮไม่อาจอธิบายได้ "อืม.... นั่นสิ ชั้นคงแพ้นายจริงๆ นั่นแหละ ทุกครั้งแล้วก็ทุกที.... แต่ว่าคราวนี้คนแพ้อาจเป็นนายก็ได้นะ" เมื่อพูดจบริวอิจิก็เดินเอามือล้วงกระเป๋าห่างออกไป "ด...เดี๋ยว...หมายความว่าไงน่ะ นายเคยแพ้ชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...."

          --- ทดสอบรอบสุดท้าย---
          ไม่นานนักเสียงเพลงก็เริ่มขึ้น ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างออกท่าออกทางกันไปคนละแบบ ด้านเรียวเฮออกจะดูกระฉับกระเฉง ทะมัดทะแมง และตั้งใจเป็นพิเศษ เค้าวาดลวดลายได้เนี๊ยบไม่มีที่ติเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา พร้อมกับท่าบังคับที่มีแทรกตรงตามที่อาจารย์บอกไว้ทุกอย่าง ทางด้านริวอิจิเองก็ใช่ว่าจะน้อยหน้า แม้ท่าทางของเค้าจะเป็นการเต้นที่บ่งบอกถึงน้ำหนัก (ขอยืมคำนี้มาใช้หน่อยนะพี่ ^_^ มันฟังแล้วนึกหน้าริวอิจิออกดีอ่ะ) ไม่ได้กระฉับกระเฉงมากมายแบบเรียวเฮก็ตาม แต่ก็เป็นการเต้นที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของเค้านับตั้งแต่เริ่มการแข่งทดสอบเลยทีเดียว ท่าเต้นที่หลากหลาย ท่าเต้นที่ไร้ขีดจำกัด ทำเอาเพื่อนๆ ต่างทึ่งในไอเดียบรรเจิดของเจ้าหนุ่มนักเต้นคนนี้ยิ่งนัก แต่ดูเหมือนว่าท่าทางการเต้นที่เค้าคิดค้นขึ้นมานั้นมันออกจะขัดๆ กับท่าบังคับที่อาจารย์ได้ให้ไว้

          สถานการณ์จึงดูเหมือนเรียวเฮจะได้เปรียบอยู่หลายเท่า ถ้าหากยังไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่านี้ผลสรุปสุดท้ายก็คงเป็นไปตามที่ใครหลายๆ คนคาดการณ์เอาไว้ ฝั่งที่แดนซ์กระจายแบบเรียวเฮไงๆ ก็ชนะใสๆ อย่างไม่ต้องคิดอะไรอีกเลย

          "นี่... นายว่าใครจะได้ที่หนึ่งของชั้นกันน่ะ" "ไม่รู้... อย่ามาถามอะไรชั้นตอนนี้ได้มั้ย" ".... แต่ชั้นว่านายแพ้ชั้นแน่...." "ว่าไงนะ! ...ฝันไปเถอะ อ๊ะ!...." ไม่ทันได้ตั้งตัวเกินกว่าที่สมองจะประมวลผลเหตุการณ์ได้ทัน ขณะที่เต้นๆ อยู่นั้นริวอิจิก็ทำท่าหมุนมาทางด้านหน้า หลังจากนั้นร่างบางก็รู้สึกถึงริมฝีปากชื้นอุ่นที่สัมผัสเพียงแผ่วผิวลงบนปากเนียลนิ่มของตน แม้เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็รู้รสสัมผัสนั้นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ๋ว ดวงตากลมใสเบิกกว้างมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเจ้าอ้วนที่ค่อยๆ หมุนตัวห่างออกไป

          ร่างบางยืนนิ่งช็อคค้างอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานพอดูจนเพื่อนๆ ในห้องคิดว่าเค้านึกท่าเต้นไม่ออกเสียแล้ว ต่างพากันตะโกนเรียกให้สติสตังของเรียวเฮกลับคืนมาอีกครั้ง เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำการแข่งขันอยู่เค้าจึงกลับมาเต้นต่อในทันที แต่ดูเหมือนทั้งท่าบังคับและท่าที่คิดไว้จะหลุบหายลงไปกับริมฝีปากที่ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสนิ่มนวลเมื่อครู่

          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วเสี้ยวนาทีนั้น ภายในห้องไม่มีใครสังเกตุเห็นเลยสักคนว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ริวอิจิเต้นม้วนตัวไปตรงหน้าเรียวเฮแล้ว ผลการทดสอบกลับตาลปัตรในทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์เรียวเฮจำท่าไม่ได้ขึ้น ที่หนึ่งของชั้นคือ โองาตะ ริวอิจิ ตามมาด้วยอันดับสอง ชิบะ เรียวเฮ ที่ขณะเพื่อนๆ ตบมือให้เค้ายังคงส่งสายตาเคียดแค้นไปยังคนข้างๆ ไม่ยุติธรรม! ชั้นไม่ใช่เต้นไม่ได้ แต่ชั้นถูกโกง! ใจจริงของเรียวเฮอยากจะแผดเสียงออกมาดังๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็ทำไม่ได้....

          หลังเลิกเรียนริวอิจิเป็นคนสุดท้ายที่ได้กลับบ้านเนื่องจากเป็นเวรทำความสะอาดและตรวจความเรียบร้อยของวันนี้ "โองาตะ!" เสียงเล็กๆ ตะโกนเรียกชื่อทำให้เด็กหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้ "อ้าว... นายเองเรอะ นี่เรียกชั้นริวอิจิก็ได้ฟังดูสนิทกันดีออก ....ยังไม่กลับอีกเหรอ เย็นมากแล้วนะเนี่ย หรือว่ารอไปกินขนมพร้อมชั้น" "ตอนทดสอบ......" "หือ?" "ตอนทดสอบนั่นน่ะ ... นายทำอะไร" ร่างบางออกจะโกรธๆ จนถึงขั้นเดือดเลยก็ว่าได้

          "ทำอะไร... ? ......เอ... จำไม่ได้แฮะ ในเมื่อนายไม่ได้จะไปกินขนมกับชั้น งั้นชั้นกลับก่อนหละนะ" ร่างท้วมโบกมือบ้ายบาย หัวเราะร่วนลงคอพร้อมหยิบเป้คู่กายเดินออกจากห้องไป "ขี้โกงชัดๆ ตั้งใจแกล้งกันนี่นา เล่นวิธีสกปรกแบบนี้ ไม่ชอบเลย ขี้โกง!" เรียวเฮแม้ปกติจะเป็นเด็กใจเย็นแต่ดูเหมือนคราวนี้เค้าจะยอมรับไม่ได้จริงๆ กับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น โดยที่เค้าไม่ได้เป็นคนทำแม้สักนิด โกรธจนน้ำหูน้ำตาพาลจะไหลเสียให้ได้ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเส้นชัยอยู่ตรงหน้า แต่จู่ๆ ก็มาถูกขัดขาแล้วเหยียบหลังกระโดดเข้าไปเป็นที่หนึ่งแทนแบบนี้ใครจะยอมได้ มิหนัมซ้ำยังถูกขโมยจูบแรกในชีวิตไปอีกด้วย จะบอกใครก็ไม่กล้า มันอายเกินกว่าจะบอกคนอื่นๆ ได้ แล้วแบบนี้ชั้นจะต้องทำยังไงล่ะเนี่ย"

          "เออ ใช่ชั้นมันขี้โกง ชั้นอยากเอาชนะนาย แล้วถ้าเกิดชั้นจะบอกนายว่า ที่จูบไม่ใช่เพราะอยากจะเต้นชนะนาย เพียงแต่ชั้นอยากจะชนะนายน่ะ เข้าใจมั้ยล่ะ?" อื๋อ??? "ชั้นจูบก็คือชั้นจูบ ชั้นยอมรับ แต่คนอย่างชั้นไม่เคยคิดที่จะมีเหตุผลอื่นแอบแฝงปนลงไปให้ความหมายของการจูบเปลี่ยนไปหรอกนะ งง มั้ยล่ะ?" ร่างท้วมพูดมาถึงตรงนี้พวงแก้มกลมๆ ก็ดูจะมีสีเรื่อๆ แสดงให้เห็นตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเรียวเฮล่ะ จะได้เห็นปฏิกิริยาอันนี้หรือเปล่า...?
"หม....หมายความว่าไงน่ะ???" จากอารมณ์โกรธที่มีอยู่พอเจอคำพูดแปลกๆ ชวนฉงนของเจ้าหนุ่มคู่อริก็ทำเอาเรียวเฮพักความโกรธของตัวเองเอาไว้แล้วหันมาตีความคำพูดของริวอิจิแทน "มันก็หมายความตามนั้นแหละ" จู่ๆ ริวอิจิก็พูดตัดบทแล้วรีบก้าวเท้าสั้นๆ ของตัวเองออกจากห้องในทันทีทิ้งให้อีกฝ่ายยืนอึ้งงงอยู่ในห้องเพียงลำพัง

          ".....อ.....เฮ้ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไปสิ กลับมาพูดให้รู้เรื่องก่อนนะ ไม่อยากเต้นชนะชั้น แต่อยากชนะชั้นเนี่ยมันหมายความว่าไงกัน แล้วไอ้ความหมายแอบแฝงอะไรของนายนั่นมันอะไรน่ะ เจ้าบ้า อย่าวิ่งหนีสิวะ กลับมานี่นะ อย่ามาทำทิ้งปริศนาอะไรไว้แบบนี้สิ เจ้าอ้วน ริวอิจิ!~ " และแล้วความอลเวงภายในห้อง Dance Lesson แห่งนี้ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จูบที่ไม่ได้หมายถึงการอยากเอาชนะของริวอิจิยังคงเป็นปริศนาที่ค้างคาใจเรียวเฮ ต่อไป เค้ายังต้องขบคิดมันไปอีกนาน จนกว่า..........


Blow To The End
Dance Lesson

Atogaki from feelto w-inds
          อ๊ากกก กว่าจะพิมพ์เสร็จเล่นเอาแย่เหมือนกัน เรื่องนี้เราเขียนขึ้นตั้งแต่วันเกิดของเราที่ผ่านมา เสร็จก็ช่วงสงกรานต์พอดี แต่กว่าจะพิมพ์เสร็จก็ปาเอาป่านนี้แล้ว บางคนอาจคิดว่าเรื่องที่เขียนขึ้นนี้ไม่ได้มีความจริงเลยสักนิดเป็นเพียงจินตนาการบ้าบอของเราเท่านั้น แต่ขอบอก! เรื่องจริงก็มีจ่ะ
          เช่น เรียวเฮและริวอิจิเรียนโรงเรียนสอนเต้นที่เดียวกัน และที่สำคัญ อิอิ ^_^ เรียวเฮถูกริวอิจิขโมยจูบแรกในชีวิตไปตอนแข่งเต้นกันจริงๆ อ๊า~ .... เพราะงี้แหละมันถึงทำให้พร็อตเรื่องบรรเจิดในสมอง แต่ยังไงก็อ่านเอาสนุกๆ ก็พอนะจ๊ะ อย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังเข้าล่ะ ถึงแม้เรืองนี้จะไม่มีน้องหนูเคตะ แต่รับรองเรื่องหน้ามาเต็มๆ แน่ แล้วพบกันใหม่ในเรื่องต่อไปจ่ะ บ้ายบาย

<<Back To Feel to w-inds Fiction>>