ในโลกปัจจุบันนี้
มนุษย์ต้องอาศัยปัจจัย 4 คือ
ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม
ที่อยู่อาศัย และอาหาร
สำหรับอาหารนั้นในปัจจุบันนี้มีมากมายให้เราเลือกซื้อหารับประทานมากมาย
ทั้งพืช และสัตว์
สำหรับพืชนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง
ที่เรารู้จักกันมานานมากแล้ว
และในปัจจุบันโลกเราก็มีวิวัฒนาการมามากมาย
และที่สำคัญเรื่องหนึ่งก็คือ
การที่มนุษย์สามารถกำหนดลักษณะของสิ่งต่าง
ๆ ตามในของเราต้องการได้
และการกำหนดลักษณะของพืชที่เราจะใช้รับประทาน
ให้มีลักษณะ และคุณภาพ
ดีขึ้นมากกว่าเดิม
ที่ธรรมชาติทำขึ้นมาให้เรา
และเราก็เรียกการเปลี่ยน
แปลงลักษณะของพืชนั้นว่า "การตัดต่อสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต
หรือ GMOs (Genetically Modified Organisms)
บางครั้งเรียกว่า LMOs (Living Modified Organisms)
และคาดหมายว่าจะเป็นการปฏิวัติทางเทคโนโลยีครั้งที่สามในรอบ
100 ปี ซึ่งการปฏิวัติครั้งแรก
ได้แก่การค้นพบเทคโนโลยีนิวเคลียร์
โดยไอน์สไตน์ครั้งที่สองคือ
การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีสารสนเทศ
การปฏิวัติครั้งที่สามได้เริ่มขึ้นในปี
ค.ศ.1953 เมื่อ ดร.ฟรานซิส คริค และ ดร.เจมส์
วัตสัน
แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ได้ค้นพบโปรตีนชนิดหนึ่งของสิ่งมีชีวิต
ที่เรียกว่า "ดีเอ็นเอ" (DNA -
Deoxyribonucleic acid)
ซึ่งการค้นพบนี้ได้นำไปสู่การพัฒนาวิธีการในเทคโนโลยีชีวภาพ
หลายอย่าง
รวมทั้งเทคโนโลยีการรวมเซลล์ (cell
fusion) การโคลนนิ่ง (cloning)
และกรรมวิธีการตัดต่อยีน (gene recombination)
และการค้นพบโปรตีนที่เรียกว่า DNA
ทำให้เกิดการปรับปรุง
เปลี่ยนแปลง
ของสิ่งมีชีวิตซึ่งเกิดขึ้นดังนี้
1.สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีหน่วยพันธุกรรมที่เรียกว่า
DNA (Deoxyribonucleic acid)
เป็นตัวกำหนดลักษณะเฉพาะประจำตัว
DNA
เป็นสารเคมีมีลักษณะเกาะตัวกันเป็นเส้นสายเรียกว่า
โครโมโซม (Chromosome)
บรรจุอยู่ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต
ซึ่งมีการเรียงตัวต่างๆ กัน
และจะมีผลปรากฏออกมาเป็น
ลักษณะเฉพาะประจำตัวของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด
2.นักปรับปรุงพันธุ์อาศัยความเข้าใจในเรื่อง
DNA ไปทำการปรับปรุงพันธุ์
โดยยึดหลักการปรับเปลี่ยน DNA
ในโครโมโซม
จากพันธุ์หนึ่งถ่ายไปยังอีกพันธุ์หนึ่ง
ตัวอย่างได้แก่
การคัดเลือกสายพันธุ์ข้าวที่มีทั้งคุณภาพดีและต้านทานโรค
รวมไว้ในพันธุ์เดียวกันวิธีการเช่นนี้เป็นการปรับปรุงพันธุ์
แบบมาตรฐาน (Conventional Breeding)
ซึ่งยังใช้ได้ดี
3.เมื่อประชากรและความต้องการอาหารของโลก
เพิ่มมากขึ้น
จึงมีการพัฒนาพันธุ์พืชและสัตว์ให้มีความสามารถ
ในการให้ผลผลิตสูง คุณภาพดี
มีความต้านทานโรคแมลงมากขึ้น
นักปรับปรุงพันธุ์เห็นว่าน่าจะลองใช้
DNA จากต่างชนิดพันธุ์กัน เช่น DNA
จากบัคเตรีเติมเข้าไปในโครโมโซมพืชชั้นสูง
เป็นต้น
4.การนำ DNA
จากสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งหรือ DNA
ที่ทำขึ้นใหม่เข้ารวม
หรือร่วมอย่างถาวรกับ DNA
ของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง
แล้วทำให้เกิดลักษณะประจำตัวใหม่ที่เคยปรากฏในธรรมชาติ
เรียกว่า "การตัดต่อสารพันธุกรรม"
(Genetic Engineering) พืช สัตว์
หรือสิ่งมีชีวิต
ที่ได้นั้นเรียก "GMOs" (Genetically Modified
Organisms) หรือ "LMOs" (Living Modified Organisms)
ตัวอย่างที่ได้ทำสำเร็จแล้ว
เช่น
การปรับปรุงพันธุ์พืชให้ต้านทานโรคแมลงในฝ้าย
ข้าวโพด และมันฝรั่ง โดยใช้ DNA จาก
บัคเตรี Bacillus Thuringiensis
การพัฒนาพันธุ์มะเขือเทศที่สุกงอมช้าเก็บไว้ได้นาน
และการพัฒนาสายพันธุ์จุลินทรีย์ให้สามารถกำจัดคราบน้ำมัน
เป็นต้น
ทำให้เกิดพืชพันธุ์ที่มีลักษณะหลายสายพันธุ์เกิดขึ้นมากมาย
ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบลักษณะพันธุ์พืชต่าง
ๆ
เหล่านั้นว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมไปในทางที่ดีหรือไม่
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคที่จำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเหล่านั้นเข้าไปโดยอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองรับประทานอาหารที่เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมาหรือไม่
และประชาชนทุกคนก็มีสิทธิที่จะรับรู้ด้วยว่าของที่นำมาจำหน่ายเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือไม่ด้วย
การเปลี่ยนแปลงพันธุพืชทางการเกษตรเช่น
ทำให้มีภูมิต้านทานโรคและแมลง
ต้านทานวัชพืช
ก่อให้เกิดกระแสการต่อต้านโดยใช้ข้อกำหนดในด้านความปลอดภัยทางชีวภาพขึ้นทั้งในและนอกประเทศ
ซึ่งนำไปสู่มาตรการในการส่งสินค้าทางการเกษตรสู่สหภาพยุโรปและประเทศญี่ปุ่นในเดือนเมษายน
ค.ศ. 2000
โดยต้องมีการระบุว่าเป็นผลิตภัณฑ์
GMOs หรือไม่
ในปัจจุบันนี้ก็มีหลายสถาบันที่สามารถตรวจสอบได้และอีกสถาบันหนึ่งก็คือ
สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ และ คือ
สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ
จึงได้จัดตั้งโครงการพิเศษ DNA TECHNOLOGY
SERVICE LABORATORY
ที่สามารถตรวจสอบตัวอย่างพืชผลหรืออาหารแปรรูป
ว่ามาจากขบวนการตัดแต่งยีน (GMO)
หรือไม่
ขณะนี้อยู่ระหว่างขอรับรองมาตรฐาน
ISO14000
มาตรฐานและข้อกำหนดการตรวจสอบ GMOs
การตรวจ GMOs
จะใช้มาตรฐานเดียวกับการตรวจสอบในกลุ่มประเทศยุโรป
ให้ผลแบบมี หรือไม่มี GMOs ปน
ยีนที่ได้รับการตกแต่งจะประกอบด้วย
3 ส่วนที่สำคัญคือ
1.Transgene 2.Promoter 3.Terminator
ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงชิ้นส่วนวัตถุดิบ
และผลิตภัณฑ์แปรรูป GMOs หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญที่เรียกว่า
Selectable และ Reporter genes เช่น NPTII, HPT และGUS
เป็นต้น
เพื่อให้ทราบเซลล์ที่ได้รับการถ่ายยีน
ขั้นตอนในการตรวจสอบชิ้นส่วน
วัตถุดิบ
และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพืชที่ได้รับ
การตกแต่งยีน
1.การสกัดดีเอ็นเอจากชิ้นส่วน
วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์แปรรูป
จากพืชด้วยวิธีที่เหมาะสม
2.ตรวจสอบดีเอ็นเอตัวอย่างด้วยเทคนิค
PCR
3.ตรวจสอบผลจาก PCR โดยใช้ gel
electrophoresis
เพื่อประเมินวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์เป็น
GMOs หรือไม่
ข้าวโพดเป็นพืชสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศจากอดีตถึงปัจจุบันมีความต้องการใช้อย่างสูงภายในประเทศ
ทำให้ธุรกิจเมล็ดมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วการผลิตเมล็ดพันธุ์จึงมีการแข่งขันกันทั้งในด้านคุณภาพของสินค้า
รวมทั้งการลดต้นทุนการผลิตให้ได้มากที่สุด
การประยุกต์ใช้ตัวเครื่องหมาย DNA
มาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง
ทำให้ลดปัญหาต่างๆของการผลิตและการตรวจคุณภาพสิน
ตรวจการเปลี่ยนแปลง GMOs
พันธุ์ข้าวโพดลูกผสมการค้า
คุณภาพของเมล็ดพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ตัวเครื่องหมาย DNA
เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงที่ให้ความถูกต้องแน่นอนสูงและทำได้รวดเร็ว
โดยไม่จำเป็นต้องปลูกทดสอบในแปลง
ปัจจุบันการใช้ตัวเครื่องหมาย DNA
เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการรับรองพันธุ์
และการประมูลเมล็ดพันธุ์
DNA
เทคโนโลยีเพื่อการผลิตพันธุ์ลูกผสม
ความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์พ่อแม่นับว่าสำคัญอย่างยิ่งของการผลิตพันธุ์ลูกผสม
เพื่อให้มีความตรงตามพันธุ์
สายพันธุ์พ่อแม่ต้องมี
ความสม่ำเสมอ
ซึ่งการใช้ลักษณะภายนอกที่มองเห็นมีความไม่แน่นอน
เครื่องหมาย DNA
สามารถทำให้ขั้นตอนการคัดเลือกต้นพันธุ์ที่ถูกต้องทำได้ง่ายและรวดเร็ว
จึงเป็นการลดต้นทุนการผลิตและได้พันธุ์ที่ตรงตามพันธุ์มากขึ้น
ฐานข้อมูลลายพิมพ์ดีเอ็นเอของพันธุ์ข้าวโพด
การบอกความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตที่ดีที่สุดด้วยการใช้
DNA fingerprint
ทำให้สามารถเป็นหลักฐานอ้างอิงเฉพาะสำหรับสิ่งมีชีวิตหนึ่งๆ
โดยมีการสร้างตัวมาตราฐานขึ้นมาและถูกใช้เป็นมาตราฐานเดียวกันในหลายประเทศ
นอกจากนี้ฐานข้อมูลยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการคัดเลือกฐานทางพันธุกรรมเพื่อการปรับปรุงพันธุ์
จดสิทธิบัตรสายพันธุ์แท้
และพันธุ์ลูกผสม
ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสิ่งที่ต้องมีการคุ้มครอง
สิ่งประดิษฐ์ต่างๆรวมทั้งพันธุ์พืชใหม่ๆก็เช่นกัน
การใช้ลายพิมพ์ดีเอ็นเอก็เป็นวิธีการบอกเอกลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่มีความเฉพาะเจาะจงสูง
ซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบพันธุ์พืชในกรณีที่มีการฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์พันธุ์พืช
ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ปลูกมากทางภาคใต้ของประเทศไทย
พันธุ์ปาล์มที่นิยมปลูกคือพันธุ์
Tenera ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์
Dura และ Pisifra
เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตน้ำมันสูง
พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ปลูกเป็นพันธุ์ที่ผู้จำหน่ายพันธุ์ซื้อเมล็ดมาจากต่างประเทศ
และมีการเพาะจำหน่ายสู่เกษตรกร
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจสอบสายพันธุ์เมล็ดที่นำเข้าได้โดยตรง
ทางราชการต้องปลูกเพื่อตรวจสอบทางสัณฐานวิทยาเท่านั้นซึ่งต้องใช้เวลานานและไม่แม่นยำ
พันธุ์ปาล์มที่ไม่ดีจะส่งผลถึงเกษตรกรผู้ปลูกต่อไป
ดังนั้นเครื่องหมาย DNA
จึงมีความสำคัญอย่างมากในการตรวจสอบพันธุ์
โดยเฉพาะในระดับเมล็ด
การพัฒนา เครื่องหมาย DNA ( DNA Marker )
เครื่องหมาย DNA
ที่ได้พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคนิค SSLP
ซึ่งมีความจำเพาะสูง
สามารถให้ความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ปาล์มน้ำมันได้อย่างชัดเจน
และที่สำคัญสามารถแสดงความแตกต่างระหว่างลูกผสมกับสายพันธุ์พ่อแม่ได้อย่างแม่นยำ
การสร้างฐานข้อมูลลายพิมพ์ดีเอ็นเอของพันธุ์ปาล์มน้ำมัน(DNA
Fingerprinting)
ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ ( DNA Fingerprinting )
เป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้อ้างอิงลักษณะทางพันธุกรรมที่มีความเฉพาะเจาะจง
สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการคัดเลือกฐานพันธุกรรม
เพื่อการปรับปรุงพันธุ์
ปัญหาการเปลี่ยนแปลง GMOsในข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ
105 เป็นปัญหาที่สำคัญ
ไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้นแต่ได้กระจายไปยังต่างประเทศด้วย
ซึ่งอาจนำมาสู่การสูญเสียภาพพจน์ของการค้าข้าวขาวดอกมะลิของไทย
การเปลี่ยนแปลง GMOs
ในข้าวมีหลายระดับ ดังนี้
ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงพันธุ์ข้าวก่อนปลูก
,
การเปลี่ยนแปลงเมล็ดข้าวเปลือกในขณะเก็บเกี่ยว
,
การเปลี่ยนแปลงเมล็ดข้าวเปลือกและข้าวสารในโรงสี
รวมทั้งการเปลี่ยนแปลง GMOsโดยตั้งใจ
การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง GMOs
ในอดีต
ในอดีตการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง
GMOsนั้นกระทำโดยใช้เกณฑ์ทางด้านคุณสมบัติทางกายภาพของเมล็ดข้าวสาร
เช่น ความยาว, ความกว้าง,
สัดส่วนความกว้าง/ความยาว
และความใส
แต่วิธีการดังกล่าวไม่สามารถแยกข้าวพันธุ์อื่นที่มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกับของข้าวขาวดอกมะลิ
105 ได้
การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง GMOs
โดยคุณสมบัติทางเคมี
อาศัยความแตกต่างทางคุณสมบัติการหุงต้มระหว่างข้าวขาวดอกมะลิ
105 กับข้าวพันธุ์อื่น ๆ เช่น
เปอร์เซ็นต์แป้งอะมัยโลส
ความคงตัวและอุณหภูมิของแป้งสุก
การตรวจสอบโดยวิธีนี้ไม่สามารถระบุพันธุ์ข้าว
และประเมินสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงได้
ทางเลือกใหม่ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง
GMOs ในข้าวสาร
เครื่องหมาย DNA ที่มีความจำเพาะ
แม่นยำและความไวสูง
ได้รับการพัฒนาจนสามารถนำไปใช้
ในการตรวจสอบหาการเปลี่ยนแปลง GMOs
ของข้าวทุกพันธุ์ได้ในทุกระดับอย่างแม่นยำ
การทดสอบการเปลี่ยนแปลง GMOs มี 4
ระดับ
มีการเปลี่ยนแปลง GMOsหรือไม่
เปลี่ยนแปลง GMOs จากพันธุ์อะไร
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง GMOs
คุณภาพหุงต้มของพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลง
GMOs
หลังจากการตรวจแล้วก็จะมีการประกาศว่าสินค้าชนิดใดมี
GMOs หรือไม่ แล้วก็จะติดฉลาก GMOs
ไว้ข้างภาชนะที่บรรจุด้วย
เพื่อที่จะให้ประชาชนทั่ว ๆ
ไปรู้
แล้วยังจะสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้อีกด้วย
โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปมีกฏหมายบังคับว่าจะต้องแสดงฉลากสินค้าด้วยว่าผลิตภัณฑ์นั้นเกิดจาก
GMOs หรือไม่
มนุษย์เราสามารถที่จะบังคับสิ่งมีชีวิตให้เป็นไปตามที่ใจเราต้องการได้ เพื่อให้เกิดผลผลิตที่มีคุณภาพมากที่สุดไม่ว่าจะเป็น
GMOs หรืออย่างอื่นอีกมากมาย นี้เป็นสาเหตุหลักต่างหากที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
แต่การตรวจสอบก็เพื่อที่จะตรวจจับว่ามนุษย์เราเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างแล้วไปมากมายเพียงใดหรือว่าไม่เหลือเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตดั้งเดิมเหลืออยู่แล้ว
มันอาจจะสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้วก็ได้ สำหรับ GMOs เป็นเทคโนโลยีชีวภาพแตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น
ตรงที่มีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องโยงใย กับประเด็นต่างๆ หลายด้านทั้งในด้านศีลธรรม
จริยธรรม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม เทคโนโลยีชีวภาพ ได้รับการยกย่องเชิดชูว่าจะช่วยแก้ปัญหาข้อร้อยแปดพันประการ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการขาดแคลนอาหาร ปัญหาคุณภาพอาหาร ปัญหาการเน่าเสียของสินค้า
ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาโรคพืช และศัตรูพืช ฯลฯ ซึ่งในความเป็นจริงปัญหาต่างๆ เหล่านี้
ล้วนแต่เป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับ ประเด็นทางสังคมหลายด้าน ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีชีวภาพเพียงอย่างเดียวไม่อาจแก้ปัญหาทั้งหมดได้
Nobody perfect ลืมเลือนกันไปได้เลย ในโลกอนาคต
ถ้าต้องการ download เอกสาร click ได้เลยครับ gmo.doc
52kb หรือว่า gmo.zip
12kb จะเร็วกว่า ..
บรรณานุกรม