อินเตอร์เน็ต

              อินเตอร์เน็ต (internet) นับได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งของในยุคของสังคมข่าวสารอย่างเช่น
ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตเป็นอภิมหาเครือข่ายระดับโลกที่มีกำลังการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนนักวิชาการ
หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการคอมพิวเตอร์ ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า “ อินเตอร์เน็ต  จะเป็นเครือข่ายเดียวที่ใช้สำหรับ
เชื่อมโยงคนทั่วทุกมุมโลกให้สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส   ทำลายพรมแดนที่ขวางกั้น
ระหว่างประเทศ   ไร้ซึ่งคำว่า   ระยะทางกับเวลามาเกี่ยวข้อง 

ความหมายของอินเตอร์เน็ต

            อินเตอร์เน็ต  เป็นระบบเครือข่าย  (Network)  ที่เชื่อมโยงเครือข่ายมากมายหลากหลายเครือข่าย
เข้าด้วยกัน  อินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลในทุกๆด้านให้ผู้ที่สนใจเข้าไปค้นคว้าหามา
ใช้ได้อย่างสะดวก  รวดเร็ว  และง่ายดาย
            อินเตอร์เน็ต  คือเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับยุคของโลกไร้พรมแดนที่กำลังทวีความสำคัญยิ่งใน
หน่วยงานต่างๆ และวงการศึกษา  รวมไปถึงบุคคลภายนอกที่สนใจอย่างแท้จริง(ธรรมรัตน์  ศานติวรนันท์,
2542, หน้า 28 )
       อินเตอร์เน็ต  คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดมหึมาที่เชื่อมโยงเอาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ย่อยๆ
ทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน  (ฟิลิปปา วินเกต, 2540,หน้า 4)
       Internet  คือ อินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายสากล  คำว่า Internet  ที่เขียนขึ้นต้นด้วย I เป็นเครือข่ายสากล
 (Internet) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก  ประกอบด้วย 3 ระดับคือ  back-bone  networks  (เช่น NSFNET, MILNET) ,
 mid-level network  และเน็ตเวิร์กย่อย Internet มีลักษณะเป็นเครือข่ายแบบหลายโปรโตคอล (multipro-
tocol)  (สุพิทย์ กาญจนพันธุ์, 2541, หน้า 134)

ประวัติความเป็นมา

           เครือข่ายอินเตอร์เน็ต  ได้ถือกำเนิดมาในยุคของสงครามเย็นระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจคือ  สหรัฐ
อเมริกา และรัสเซีย  เนื่องจากกระทรวงกลาโหมของอเมริกาได้เกิดแนวความคิดที่ต้องการอยากจะให้ระบบ
เครือข่ายในเรื่องคอมพิวเตอร์ของตนสามารถทำงาน    และสั่งการได้เร็ว   โดยไร้ซึ่งคนดูแล   หากถูกข้าศึก
โจมตีด้วยระเบิดปรมาณู ณ เมืองใดเมืองหนึ่ง    หรือเกือบทั้งหมดก็ตาม  ระบบคอมพิวเตอร์บางส่วนอาจ
ถูกทำลายไป  แต่ส่วนที่เหลือยังคงต้องสามารถปฏิบัติงานต่อเองได้  ด้วยเป้าหมายนี้เองจึงได้เกิดเป็นโครงการ
วิจัยและพัฒนาระบบเครือข่ายดังกล่าวขึ้นมีชื่อเรียกว่า  อาร์พา  ARPA (Advanced Research 
Project Agency)  และได้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายมาเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอย่างที่รู้จัก
กันดีในปัจจุบัน
           ต้นกำเนิดของอินเตอร์เน็ตได้พัฒนามาจาก  อาร์พาเน็ต  เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้
การรับผิดชอบและควบคุมดูแลของอาร์พา  สังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาอินเตอร์เน็ต
เป็นทั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของเครือข่าย  ภายในประกอบไปด้วยเครือข่ายย่อยๆ เป็นจำนวน
มากต่อเชื่อมกันอยู่ โดยใช้มาตรฐานเดียวกันหมด คือ TCP/IP  (Transmission Control Protocol /
 Internet protocol) เป็นมาตรฐานที่ใช้สำหรับรองรับสายสื่อสารและฮาร์ดแวร์อันหลากหลายรูปแบบ  
รวมไปถึงสามารถรองรับโฮสต์จำนวนมากได้อย่างสบายๆ

ประวัติอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย

          ประเทศไทยได้เริ่มเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535  ซึ่งมีจุด
กำเนิดมาจากการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในระหว่างรั้วมหาวิทยาลัย  โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยี
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติหรือมักจะนิยมเรียกกันสั้นๆว่า เนคเทค (NECTEC) เดิมทีจะเป็น
การใช้งานเฉพาะอีเมล โดยเริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  วิทยาเขตหาดใหญ่  เมื่อปี พ.ศ. 2530
  ต่อมาก็สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียภายใต้ความร่วมมือระหว่างไทยกับออสเตรเลีย  ขณะนั้นยังไม่มีการเชื่อม
ต่อกันอย่างโดยตรง (Online) ในปีต่อมาก็ได้เชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาเพิ่มขึ้นมาอีก 4 แห่ง  ได้แก่
 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง  และกระทรวงวิทยาศาสตร์  นับจากนั้น
อีกไม่นานก็ได้เชื่อมต่อกับสถาบันอุดมศึกษาส่วนที่เหลือ  ซึ่งก็มี  ธรรมศาสตร์  มหิดล  เกษตรศาสตร์ 
 พระจอมเกล้าธนบุรี  พระจอมเกล้าพระนครเหนือ สุโขทัยธรรมาธิราช  เชียงใหม่  และขอนแก่น

การเชื่อมต่อด้วยระบบอินเตอร์เน็ต

          การนำระบบเครื่องของเราเข้าเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ตจะทำได้ 2 ลักษณะ  คือ
         1. การเชื่อมต่อโดยตรง
         2. การเชื่อมต่อผ่านทางผู้ให้บริการ
            2.1 การเชื่อมต่อแบบองค์กร  (Corporate User Services)
            2.2 การเชื่อต่อส่วนบุคคล  (Individual User Services)

ภาษาสื่อสารหลักในอินเตอร์เน็ต

         การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบ จะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้นจำต้องมี
 ภาษาสื่อสาร ที่เรียกว่า  โปรโตคอล  (Protocol)  เช่นเดียวกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจ
กันได้ ภาษาสื่อสารในคอมพิวเตอร์มีอยู่มากมายต่างกันตามระบบที่ใช้  ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง
ที่อยู่ในระบบ จะต้องใช้ภาษาสื่อสารเดียวกันจึงจะติดต่อสื่อสารกันได้
        ในระบบอินเตอร์เน็ต  จะใช้ภาษาสื่อสารมาตรฐานที่ชื่อว่า  TCP/IP  (อ่านว่า ที ซี พี ไอ พี  ซึ่งย่อมาจาก
คำว่าTransmission Control Protocol / Internet protocol  เป็นภาษาหลัก   ดังนั้น  หากเครื่อง
คอมพิวเตอร์ใดไม่ว่าจะเป็นเครื่อง PC, MAC , หรือเครื่องระดับมินิ  จนไปถึงเมนเฟรม  หากมี  TCP/IP 
 นี้อยู่  ก็จะสามารถเชื่อมโยงเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้

 SLIP/PPP  ช่วยสื่อสารผ่านสายโทรศัพท์

       ในการส่งข้อมูลในระบบอินเตอร์เน็ตนั้น จำเป็นต้องส่งผ่านทั้งในระบบสายสัญญาณ (สายในระบบแลน)
และระบบสายโทรศัพท์ประกอบกัน  ดังนั้นเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่นจึงต้องมีโปรโตคอลเพิ่มเติม
ขึ้นอีก  ซึ่งได้แก่  โปรโตคอล SLIP (Serial Line Internet Protocol)  และ PPP (Point-to-point protocol)
 ซึ่งทำงานบน  TPCP/IP อีกทีหนึ่ง

       SLIP
       โปรโตคอล  SLIP  ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ TCP/IP สามารถสื่อสารผ่านสายโทรศัพท์เพื่อส่งผ่านข้อมูล
ระหว่างระบบแลน  (LAN)  กับระบบแวน  (WAN)  ได้  ซึ่งก็ได้รับความนิยมแลเป็นที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
 โดยเฉพาะในระบบ UNIX  ได้นำโปรโตคอลที่ติดตั้งไว้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเลย นั่นหมายความว่า  
ทุกเครื่องที่ใช้ระบบ  UNIX  จะมีโปรโตคอล  SLIP  นี้อยู่ในตัวและสามารถใช้งานได้ทันที

        PPP
       เนื่องจากปรากฏว่าโปรโตคอล SLIP เกิดมีปัญหาไม่เข้ากันกับโปรโตคอลบางตัวที่ระบบแลนนั้นใช้อยู่เดิม
จึงได้ทำการพัฒนาโปรโตคอลขึ้นมาใหม่ในชื่อ  PPP เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว  ดังนั้น  PPP จึงเป็นโปรโตคอล
ที่สามารถใช้ร่วมกับโปรโตคอลอื่นๆ ได้ดี  อีกทั้งยังเพิ่มระบบการตรวจสอบข้อมูล  การรักษาความปลอดภัย 
 และการบีบจัดข้อมูล  ซึ่งทำงานได้ดีกว่า  SLIP  และคงถูกใช้เป็นมาตรฐานต่อไป

ผู้ดูแลอินเตอร์เน็ต

       หลักในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะอาศัยการบริหารงานแบบกระจายอำนาจ จึงไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ
อย่างแท้จริง  เครือข่ายแต่ละที่ต่างก็บริหารงานของตนอย่างเป็นอิสระ  โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ใช้ติดตั้ง
ระบบและค่าเช่าวงจรสื่อสารเองทั้งหมด  ถือว่าช่วยๆกันเพื่อคุณประโยชน์ส่วนรวมแต่ในทางปฏิบัติจริงๆ
แล้วก็มีองค์การระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อประสานความร่วมมือกันระหว่างสมาชิก   องค์การที่ว่านี้มีชื่อ
เรียกว่า ไอซอค (ISOC)  หรือสมาคมอินเตอร์เน็ต  (Internet Society)  มีนโยบายหลักสนับสนุนการใช้
งานอินเตอร์เน็ตโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน หรือแสวงหาผลกำไร  อีกทั้งยังทำหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้
ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้กับบุคคลที่สนใจทั่วไปภายในไอซอค  จะมีคณะทำงานอาสาสมัครร่วมกัน 
 ออกแบบพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำนำสมัย  บ้างก็วางแนวทางในการพัฒนาอินเตอร์เน็ต
ให้สมาชิกยึดถือปฏิบัติ

บริการในอินเตอร์เน็ต

        อินเตอร์เน็ต  เปรียบเสมือนสังคมขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้ามาใช้ร่วมกันมากมายในระบบจึงมีการจัดเตรียม
บริการต่างๆ ไว้ให้เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาใช้งานต่างๆ ที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
        บริการที่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ต  จะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้
                1. บริการข้อมูลมัลติมิเดีย ด้วย World Wide Web
         2. บริการรับ-ส่งข่าวสารด้วยอีเมล
               3. บริการส่งผ่านไฟล์ข้อมูลด้วย 
               4. บริการค้นหาข้อมูลด้วย Archic, Gopher, Veronica  และ  WAIS
         5. บริการประกาศข่าวสารด้วย  UseNet
         6.บริการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องด้วย Telnet





เอกสารอ้างอิง

ธรรมรัตน์ ศานติวรนันท์.  (2542).  อะเมซิ่ง อินเทอร์เน็ต.  กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
วินเกต, ฟิลิปปา.  (2540).  อินเตอร์ : The Internet for Beginners.  กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์.
สุพิทย์ กาญจนพันธุ์.  (2541).  รวมศัพท์เทคโนโลยีและสื่อสารเพื่อการศึกษา.  กรุงเทพฯ : 
        ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สิทธิชัย ประสานวงศ์.  (2540).  Internet ปฏิบัติด้วย Netscape Communicator 4.  
กรุงเทพฯ :   ซอฟท์เพรส
 
# ## ### #### ### ## #