ลังจากการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้ว พระยาอู่ทองจึงเสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระองค์แรกโดยใช้ชื่อ พระรามาธิปดีที่ ๑ (กษัตริย์ที่ขึ้นครองกรุงศรีอยุธยาคงใช้ชื่อ ลักษณะเช่นนี้ ต่อๆกันมา ในอีกหลาย รัชสมัย) หลังจากนั้น พระ รามาธิปดีที่ ๑ ได้ขยายอาณา เขตของราชอาณาจักร แห่งใหม่นี้ออกไปอย่าง มากมาย ซึ่งรวมไป ถึงส่วนที่เหลือของ อาณาจักรสุโขทัย ในเวลานั้นกรุงสุโขทัย ยังคง มีกษัคริย์ (พระเจ้าลิไท)ปกครองแต่ราชอำนาจ ได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจ ของ กรุงศรีอยุธยา อย่างถาวร แล้วนอกจากนี้ เป็นที่ยืนยันได้ ว่าพระองค์ได้ขยาย อาณาเขตของกรุงศรีอยุธยา ออกไป ทางตะวันตก ทางใต้ ถึงลพบุรี ราชบุรี เพชรบุรี นครศรีธรรมราช สงขลา ทวาย ทาง ตะวันออก ไปถึง จันทร์บูรณ์ ทั้งยัง ถือได้ว่า พระรามาธิปดีที ๑ เป็นกษัตริย์สยาม พระองค์แรกที่ได้ขยายอาณาเขต และปกครอง รัฐมาเล ผู้ที่เคยได้มี โอกาส ไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในปัจจุบันซากกรุงเก่าที่ท่านได้เห็น ไม่ว่าจะเป็น กำแพงเมือง ป้อมปราการ วัดวาอาราม เจดีย์ แม้กระทั่ง พระบรมมหาปราสาท ราชวัง แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่บ่งให้เห็น ถึงความยิ่งใหญ่สง่างาม แห่งกรุงศรีอยุธยาราชธานี สิ่งนี้มิได้มีมาใน สมัยที่ พระรามาธิปดีที ๑ ขึ้น ครองราชย์ ในสมัยเริ่มการ ก่อตั้งราชธานี กรุงศรีอยุธยายังคงเป็นเมืองเล็กๆ กำแพงเมืองก่อขึ้น จาก มูลดิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมทั้งพระบรม มหาราชวัง สร้างจากไม้ ซากกำแพงเมืองที่สร้าง ด้วยอิฐ และยังคงหลงเหลือ
ให้เห็นในปัจจุบันนี้ ได้ถูกสร้างในสมัยพระมหาจักรพรรดิ์ (ปี พ.ศ.๒๐๙๑) พระบรมมหาราชวัง (ยังคง ปรากฎซาก ที่ตั้งในปัจจุบัน) สร้าง โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ (พ.ศ.๑๙๙๑) ในช่วงต้นของรัชกาลพระรามาธิปดีที่ ๑ ในฐานะ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์ได้ทรงแต่งตั้ง ราชบุตรเขย อีกองค์ หนึ่งของพระยาอู่ทอง คนก่อนซึ่งมี ชื่อว่า ขุนหลวงพระงั่ว(P'angoa) ให้เป็นผู้ครองเมืองสุพรรณบุรี โดยใช้ชื่อว่า ท้าวบรมราชา และได้แต่งตั้งราชโอรสชื่อเจ้าราเมศวรให้ไปปกครองเมืองลพบุรี ในเวลานั้น พระรามาธิปดีที่ ๑ เพิ่งมีพระชน มายุ ๓๗ พรรษา ดังนั้นเจ้าราเมศวร น่าจะมีพระชนมายุยังน้อยมาก ดูเหมือนว่า พระรามาธิปดีที่ ๑ (นับตั้งแต่ ครั้งที่ ยังครองเมืองอู่ทอง) ต้องการที่จะ หยั่งเชิงทดสอบและประลอง กำลัง ความ เข็มแข็ง ของอาณาจักรขอม ที่ยัง คงเหลือ ในขณะนั้น พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า อาณาจักรขอมกำลัง เสื่อมอำนาจลงจากแหลมสุวรรณภูมิในไม่ช้าและแล้วใน ปี พ.ศ.๑๘๙๕ พระองค์ได้ทำสงคราม กับ อาณาจักรขอม กษัตริย์หนุ่มซึ่งเพิ่งขึ้นครองราชย์ขื่อ Boroma Lamp' ongsaraja พระรามาธิบดีที่ ๑ เห็นเป็นโอกาสดี ที่จะขยาย อาณาจักร ทางทิศ ตะวันออกพระองค์ จึงได้แต่งตั้งให้ พระราชโอรส เจ้าราเมศวรเป็นแม่ทัพ ยกไปตีอาณาจักรขอม แต่ในไม่ช้าเจ้าราเมศวร ซึ่งครั้งนั้นไม่มีความชำนาญ ในการควบคุมสั่งการ กองทัพได้อย่างรอบคอบ พระองค์ได้จัด แบ่งกองทัพเป็น ๒ กอง โดยกองทัพหน้า มีกำลังพล ๕,๐๐๐ คน ซึ่งก็ถูกลอบโจมตีจากกองกำลังขอม ซึ่งนำ ทัพโดย เจ้าฟ้าองค์ รัชทายาทของ อาณาจักรขอม (องค์น้อง) ทำให้การเดินทัพ ของ กรุงศรีอยุธยาเป็นไปอย่างยากลำบาก ข่าวคราวสงคราม ในทางลบนี้ เป็นสาเหตุให้ชาวกรุงศรีอยุธยา เกิด ความ เสียขวัญ ท้าวบรม ราชาได้เร่งรีบเดินทัพไปช่วย เข้าโจมตี ได้ขับไล่กองทัพเขมรและเดินทัพต่อเข้าปิดล้อม เมืองหลวง ของ อาณาจักร ขอม หลังจากการเข้า ปิดล้อมเป็น เวลา เกือบหนึ่งปี เข้าตีเมืองไว้ได้ ระหว่างการปิดล้อม นั้นกษัตริย์ ขอม ก็ได้สวรรคตลง หลังจาก ยึดอาณาจักร ขอมได้ ได้ ตั้งเจ้าชายชอมองค์หนึ่งขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยใช้ชื่อว่า พระสัตย์ (P'asat) เหตุการณ์ครั้งนี้ถือได้ว่า อาณาจักร ขอม ได้ถึง การอวสารลงและตกอยู่ภายใต้ การปกครอง ของ กรุงศรีอยุธยาในฐานะประเทศราช เป็นครั้งแรก
ในปี พ.ศ. ๑๗๘๐ พระเจ้าเลอไท(Loet'ai) กษัตริย์ ของอาณาจักรสุโขทัย สิ้นพระชนม์ลงจาก การสวรรคต ชองพระองค์ติดตาม มาด้วยปัญหาการกระด้างกระเดื่องตามหัวเมืองชายแดน ทางด้านเหนือ ของ อาณาจักรสุโขทัย พระรามาธิปดี ที่ ๑ เห็นเป็นโอกาสดีจึงส่งกองกำลังเข้ายึดเมืองชัยนารถ กษัตริย์องค์ใหม่ ของสุโขทัยคือ พระธรรมราชาลิไท ไม่ได้ใช้กองกำลังเข้า ต่อต้าน แต่พระองค์ส่งราชฑูต มาขอ ร้องให้ พระรามาธิปดีที่๑ คืนเมืองชัยนารถให้พระรามาธิปดีที่ ๑ ก็ทรง ยินยอมคืน(ประวัติศาสตร์ช่วงนี้ ไม่ได้ กล่าวถึงเงื่อนไข ในการ ยินยอมครั้งนี้ไว้) ในปี พ.ศ.๑๘๙๐ สองเจ้าชาย แห่งกรุงศรีอยุธยา คือ เจ้าแก้ว(Keo) และ เจ้าไท(Tai) ได้เสียชีวิต ด้วยโรค มาลาเรีย มีการกล่าวกันว่าเป็น การบันทึกข้อมูล โรคมาลาเรียครั้งแรกในสยาม นอกจากนี้พระรามาธิปดีที่ ๑ ทรงพระปรีชาสามารถ ในการ ตรา กฎหมาย ที่สำคัญขึ้นใช้ในกรุงศรีอยุธยา (เราคาดว่าคนไทนำกฎหมายต่างๆ ของอาณาจักรน่าน มาด้วย ในช่วงของการอพยพ เพื่อหาที่จะก่อตั้ง อาณาจักรแห่งใหม่ ของคนไท ในแหลมสุวรรณภูมิแห่งนี้ โดยนับตั้งแต่อาณาจักรสุโขทัย ก็ได้มีการตรา กฎหมาย ขึ้นใช้แล้ว) จำนวนหลายฉบับ แต่จะไม่นำ มากล่าวใน รายละเอียด ณ ที่นี้และนับได้ว่า กฎหมาย ดังกล่าวนี้เป็นแบบฉบับ และบาง ฉบับยัง คงสืบทอด มาถึงสมัยปัจจุบัน พระรามาธิปดีที่ ๑ สวรรคต ในปี พ.ศ.๑๙๑๒ ด้วยพระชนมายุ ๕๗ พรรษา
ราไม่สามารถ จะไปเปรียบเทียบได้ กับที่แห่งใดๆ ในโลกปัจจุบัน ถึงความ ยิ่งใหญ่ของ กษัตริย์ของ คนไท พระองค์ แรกที่ก่อตั้งราชอาณาจักรอยุธยา โดยที่พวกเราไม่สามารถ สืบค้นประวัติ ความ เป็น มาของพระองค์ ก่อนหน้านี้ เช่น พระองค์มีชื่อเดิมว่าอะไร? ใครเป็นพระราชบิดา? พระองค์ประสูติ ที่ไหน? ราชประวัติก่อนหน้าที่พระองค์ได้มา ก่อตั้ง อาณาจักร ไม่มีในสมัย ปัจจุบัน ได้ทราบเลย

[BACK] [HOME]

1