วัดไชยวัฒนาราม
ตั้งอยู่ริมแม่นํ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตรงข้ามกับพระตําหนักสิริยาลัย เป็นวัดที่สมเด็จ
พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๑๗๓ - ๒๑๙๘) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น
ในบริเวณที่เป็นนิวาสสถาน
ของพระราชชนนี เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๑๗๓ และสถาปนาสมณศักดิ์เจ้าอธิการวัดนี้ เป็นพระอชิตเถร
พระราชาคณะฝ่ายอรัญวาสี ลักษณะแบบ แผน การก่อสร้าง วัด ไชยวัฒนาราม แตกต่างไปจากวัดอื่นๆ
ที่ก่อสร้างในระยะเวลานั้น คือหันกลับไปสร้างวัดที่มีพระปรางค์ เป็นประธานของ
วัดตามแบบ อย่างของวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธาตอนต้น เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระราม
โดยมีปรางค์ทิศ ปรางค์ราย เมรุทิศ เมรุราย ระเบียงคต ล้อมรอบทั้งหมด ที่กล่าวมาเป็น
ส่วนที่สำคัญที่สุดของวัดที่เรียกว่า พุทธาวาส ตั้งอยู่ส่วนหน้าของวัด สังฆาวาส
ตั้งอยู่ด้านหลังวัด ทั้งหมดอยู่ในวงกำแพง ล้อมรอบ ๓ ชั้น ซึ่งลักษณะการก่อสร้าง
ดังกล่าวคือ การสร้างเขาพระ สุเมรุ อันเป็นแกนกลาง
ของจักรวาลเป็นแบบอย่างคตินิยมที่ได้รับมาจากปราสาทขอม ลักษณะทาง สถาปัตยกรรม
ที่พบในการก่อสร้างวัดไชยวัฒนาราม มีสถาปัตยกรรม ที่มีการ ก่อสร้างเป็นลักษณะ
เฉพาะตัว คือ เมรุทิศก่อสร้างเป็นทรงปราสาทเป็น ลักษณะเฉพาะ ของรัชกาลนี้ และการ
ก่อสร้าง เจดีย์ที่เรียกว่าเจดีย์ แบบย่อมุมไม้ ๑๒ ก็เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรก
ในสมัยรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ที่ปรากฏในวัดนี้งานด้านประติมากรรมที่ วัดไชยวัฒนาราม
ที่น่าสนใจที่สุดเห็น จะได้แก่ พระพุทธรูป
ที่ประดิษฐานภายในเมรุทิศ และพระพุทธรูป รายล้อม ศาลาราย เป็น พระพุทธรูปปูนปั้นทรงเครื่องลงรักปิดทอง
ที่มีความงดงามยิ่ง ภายในในเมรุทิศ ทุกองค์ ปรากฏร่องรอยลวดลายเขียนสี ซึ่งเป็นจิตรกรรม
ที่ เขียนขึ้นในการสร้างวัด และ ฝ้าเพดาน ทำด้วยไม้ แกะสลักลวดลายดาวเพดานทาชาด
ลงรัก ปิดทอง งดงามมาก ลวดลายปูนปั้น ที่ประดับอยู่ภายนอก ของ เมรุทิศทั้ง ๓
องค์ เป็นเรื่องราวของ พระพุทธประวัติ กล่าวเริ่มเรื่อง ตั้งแต่ตอนที่องค์ สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า ยังเป็นพระโพธิสัตว์ ประทับ อยู่บนสวรรค์ ชั้นดุสิต (ในเมรุองค์กลาง
ด้านหน้า) เสด็จลงมา ตรัสรู้ เรื่องราวจบลงตอนที่ พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์
(ที่เมรุทิศมุม ตะวันออกเฉียงเหนือ) ปรากฏ ในพระราชพงศาวดารว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
โปรดวัด ไชยวัฒนารามมาก และมักเสด็จฯ มาบำเพ็ญพระราชกุศล อยู่เสมอ และเมื่อคราวที่
พระโหราธฺบดีกราบทูลว่าจะเกิดเพลิง ไหม้ในพระราชวัง ก็ทรงขนของไป ลอยเรืออยู่ที่หน้าวัด
นี้ วัดไชยวัฒนาราม นั้นปรากฏว่าเป็นสถาน ที่ ที่ทำการ พระศพ ของ พระบรมวงศานุวงศ์
ตลอดสมัย อยุธยาหลายพระองค์รวมทั้งบรรดาขุนนางชั้นสูง เรื่องราวใน พระราช พงศาวดาร
ตอนรัชกาลสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวบรมโกศ กล่าวว่า
เจ้าฟ้ากุ้งกับเจ้าฟ้าสังวาลย์
ซึ่งลักลอบเป็นชู้กันก็นำ ศพมาฝังไว้ที่ วัดไชยวัฒนาราม
ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาคราว
พม่าล้อมกรุงในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ สมเด็จ พระเจ้าเอกทัศทรงให้ทัพทหารอาสา ๖ เหล่า ออกไปตั้งรับศึกพม่า
ที่วัด ไชยวัฒนาราม จนต่อมาถูกทัพ ของ เนเมียวสีหบดีตีแตกในที่สุด และ วัดไชยวัฒนาราม
ก็ถูกทิ้งร้าง ตั้งแต่นั้น ต่อมาจนถึง ปี พ.ศ.๒๕๓๐ กรมศิลปกร จึงเข้าทำการบูรณะแล้วเสร็จ
ในปี พ.ศ.๒๕๓๖