เนื้อเรื่อง
ลองคิดดูละกันครับว่าขนาดแค่ภาษาไทยที่ใช้กันอยู่ในแต่ละภาคยังแตกต่างกันเลย แล้วภาษาอังกฤษที่ใช้
ในอังกฤษ(British English) กับภาษาอังกฤษที่ใช้ในอเมริกา (American English) นี่จะต่างกันขนาดไหน เพราะทั้งสองประเทศอยู่ห่างกันคนละทวีปโลก แถมยังเป็นคนละประเทศกันมาตั้งสองร้อยกว่าปีแล้ว สองภาษานี้ถึงจะไม่ต่างกันถึงขนาดพูดหรือฟังกันไม่รู้เรื่อง แต่ก็ต่างกันมากพอจะบอกได้ทันทีที่อ่านหรือฟังว่าเป็นภาษาอังกฤษแบบไหน

   คราวนี้กลับมาเรื่องภาษาอังกฤษในไทยมั่ง ประเทศไทยเองติดต่อค้าขายกับประเทศอังกฤษมาตั้งแต่หลายร้อยปีมาแล้ว รวมทั้งสมัยก่อนเราก็นิยมส่งคนไปเรียนวิชาการที่อังกฤษ ภาษาอังกฤษที่เรารับมาในตอนนั้นเลยเป็นภาษาอังกฤษแบบอังกฤษล้วนๆ จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่อเมริกาเริ่มมีบทบาทในสังคมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยเองก็ไม่น้อยหน้า ตั้งแต่ช่วงสงครามเวียดนาม ที่เราเปิดมีค่ายทหารอเมริกันในไทยอยู่หลายต่อหลายแห่ง และยังมีการติดต่อการค้ากันอีกมาก ทำให้ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันเริ่มเข้ามาแทรกไปกับภาษาอังกฤษของอังกฤษแบบเดิม สังเกตุว่าช่วงหลายสิบปีมานี่ คนไทยจากที่เคยนิยมส่งลูกหลานไปเรียนอังกฤษ ก็หันมานิยมส่งลูกหลานไปเรียนที่อเมริกากันมากขึ้น ทำให้ภาษาอังกฤษในไทยเลยปนกันไปทั้งแบบอังกฤษและแบบอเมริกัน

.เวลาเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียน ส่วนมากเราจะเรียนภาษาอังกฤษแบบอังกฤษเพราะหลักสูตรเป็นอย่างนั้นมานานแล้ว แต่พอเรามาดูหนังหรืออ่านหนังสือทั่วๆไป เรามักเจอภาษาอังกฤษแบบอเมริกันซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วทำไงดีล่ะครับ... ผลก็เลยกลายเป็นคนไทยใช้ภาษาอังกฤษปนกันทั้งสองแบบซะเลย เรื่องนึงที่เห็นง่ายๆเลยคือเวลาเขียนคำที่ลงท้ายด้วย -ise หรือ -ize เราจะเห็นคนเขียนทั้งสองแบบโดยไม่ได้สนใจว่าจะเป็นภาษาอังกฤษแบบไหนเลย แถมบางคนยังสะกดทั้งสองแบบในวรรค เดียวกันเลยก็มี จริงๆมันก็ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ แต่มันจะดูแปลกๆ แบบมันแหม่งๆอยู่เหมือนกัน

  ครับ ที่พูดมาซะยาวก็ไม่ได้ต้องการให้ใช้ภาษาอังกฤษแยกแต่ละแบบเป๊ะๆหรอกครับ เพราะบางทีฝรั่งเองเค้ายังใช้ปนๆกันก็มี หรือพจนานุกรมของทั้งสองประเทศก็มักให้คำศัพท์ของอีกประเทศนึงไว้ด้วย เอาเป็นว่ารู้ไว้ใช่ว่าละกันครับ ว่าสองภาษานี่หลักๆแล้วเค้าต่างกันตรงไหนบ้าง
1. สะกดต่างกัน (ความหมายเดียวกัน)
อังกฤษ
อเมริกัน
-er (adviser)
-or (advisor)
-our (amour, behaviour, favour)
-or (amor, behavior, favor)
-ise ( civilise, optimise) -ize (civilize, optimize)
-re (centre, fibre, litre) -er (center, fiber, liter)
-ce (defence, licence, practise)
-se (defense, license, practice)
-l (fulfil, skilful) -ll (fulfill, skilfull)
-loque (cataloque, monoloque) -log (catalog, monolog)
-wards (upwards, towards) -ward (upward, toward)
aero- (aeroplane) air- (airplane)
2. ใช้คำศัพท์ไม่เหมือนกัน (ความหมายเดียวกัน)
อังกฤษ
อเมริกัน
accelerator pedal
aerial antenna
bandage gauge
cinema, film movie
clever smart
curriculum vitae resume
flat apartment
full stop period
footbal soccer
holiday vacation
jumper sweater
lift elevator
lonely lonesome
nought zero
penfriend penpal
petrol gas
phamarcy drug store
post, postbox, postman mail, mailbox, mailman
queue line
railway railroad
surname lastname
tram street car
underground subway
  เรามาลองเล่นอะไรกันดูสักหน่อยไหมว่าภาษาอังกฤษของคุณเองพื้นฐานค่อนไปทางอังกฤษ หรือ อเมริกา วิธีง่ายๆครับ หาปากกากับกระดาษมาสักแผ่นแล้ว ไล่ตั้งแต่ข้อ1ข้างบนลงมาทีละบรรทัด ถ้าดูแล้วบรรทัดนั้นคุณคุ้นกับคำหรือวิธีสะกดที่อยู่ทางซ้ายก็ขีดเส้นในกระดาษของคุณไว้ทางซ้ายมือ ถ้าคุ้นกับคำหรือลักษณะการสะกดทางขวา ก็ขีดไว้ทางขวา แค่นี้ล่ะครับ ขีดไปทีละบรรทัดจนหมดทั้งสองข้อ แล้วลองรวมจำนวนขีดทั้งหมดของทั้งทางซ้ายและขวาในกระดาษที่ขีดไว้ ผลออกมาคุณขีดทางไหนมีมากกว่าก็แสดงว่าภาษาอังกฤษของคุณค่อนไปทางนั้นแหละครับ (ซ้าย=อังกฤษ, ขวา=อเมริกัน)
  วันนี้เราดูเรื่องการสะกดกับการใช้คำคร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ วันหลังจะมาพูดถึงเรื่องการออกเสียงนะ

หาคำศัพท์เฉพาะในส่วน "มาคุยกัน"

อังกฤษหรืออเมริกัน