***ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นปัจจัยที่หก
สำหรับการดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยไปเสียแล้ว จากตัวเลขยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่สูงขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย
ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ไม่ว่าจะเป็นแบบแอนะล็อกอย่าง Cellular 900 หรือ WorldPhone 800 อาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยาย
สถานีฐาน (Base Station) ให้มีจำนวนมากขึ้นจนครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วไทยนี่เอง
จึงกล่าวได้ว่าโทรศัพท์มือถือแบบแอนะล็อกพร้อมสำหรับการให้บริการ ยังไม่เพียงแต่เท่านี้ยังได้ขยับขยายการให้บริการเพิ่มมากขึ้นอีกเพื่อสนองตอบผู้ใช้บริการ
ในระบบ
NMT 470 ซึ่งเป็นแบบแอนะล็อก ดำเนินงานโดยองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จากเดิมที่เป็นแบบกระเป๋าหิ้ว
มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ก็หันมาใช้เป็นแบบพกพาซึ่งมีขนาดเล็กลง เพื่อดึงดูดให้มาใช้บริการที่จะใช
้บริการยังมีมาก WorldPhone 800 จึงหันไปเปิดเลขหมายในระบบ N-AMPS ซึ่งสามารถขยายสัญญาณ
ได้มากขึ้นถึง 3 เท่าตัว เป็นการช่วยขยายการให้บริการได้อีกทางหนึ่ง
***หลักจากที่บ้านเราได้เริ่มเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือดิจิทัลมานานมากกว่า
5 ปี ทั้งในระบบ
GSM 900 ในย่านความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ เปิดให้บริการโดยบริษัท แอดวานซ์
อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด
(AIS) และระบบ WorldPhone 1800 ในย่านความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ เปิดให้บริการโอยบริษัท
โทเทิ่ล แอ็คแซ็ส
คอมมูนิเกชั่น จำกัด (TAC) และล่าสุดเป็นระบบ GSM 1800 ในย่านความถี่ 1800
เมกะเฮิรตซ
์(เดิมทีเป็นของบริษัท ดิจิตอล โฟน ปัจจุบันเป็นของค่าย GSM 900) ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งสองค่ายต่างก็โหมทำตลาดแย่งชิงผู้ใช้บริการโดยเสนอแคมเปญต่างๆ
เช่น
โทรฯ ฟรีครึ่งปี โทรฯนาทีละบาททั่วไทยฯลฯโทรศัพท์มือถือดิจิทัลถือได้ว่าเป็นทางเลือกใหม่ของ
การใช้บริการ โทรศัพท์มือถือที่จะมาแทนโทรศัพท์เคลื่อนที่แอนะล็อก ซึ่งมีขีดจำกัดในด้านการขยาย
เลขหมายเพราะในแบบแอนะล็อกนั้น ถ้าหากผู้ใช้บริการมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด
ก็จะรองรับการใช้งานกับจำนวนเลขหมายได้เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น และด้วยข้อจำกัดของการส่งสัญญาณในแบบแอนะล็อกนั้นมีสัญญาณรบกวนค่อนข้างมาก
ดังนั้นข้อได้เปรียบของแบบดิจิทัลที่ดีกว่าแบบแอนะล็อกก็คือ ให้คุณภาพเสียงชัดเจน
มีช่องสัญญาณ
ในการให้บริการเพิ่มมากขึ้น สามารถป้องกันการดักฟังและแอบลักลอบใช้เครื่องโทรศัพท์
อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับบริการสื่อสารดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ที่จะมีต่อไปในอนาคต
|