กองพันทหารราบที่ ๒ กรมทหารราบที่ ๙
. ประวัติความเป็นมา
...........เมื่อประมาณ
๒๔ ปีที่ผ่านมาใน วันที่
๓, ๕ และ ๕ สิงหาคม ๒๕๑๓ ร.๑
พัน.๒ พล.อสส.
ซึ่งเป็นกำลังใน
ผลัดที่ ๓ ส่วนที่ ๑
ของกำลังพล พล.อสส.มีจำนวนนายทหาร
๔๒ นาย นายสิบและพลทหาร
รวม ๘๕๒ นาย รวมทั้งสิ้น
๘๙๔ นาย
ได้ออกเดินทางจากประเทศไทยไปปฏิบัติ
ราชการสงคราม ณ
ประเทศสาธารณรัฐเวียดนามใต้
ร.๑ พัน.๒ พล.อสส.
ได้ปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบทุกประการ
และสามารถปฏิบัติได้เป็นผลอย่างดียิ่งสมความมุ่งหมายของหน่วยเหนือตลอดมาจนครบระยะเวลาที่กำหนด
๑ ปี ร.๑ พัน.๒ พล.อสส.
จึงได้ส่งมอบหน้าที่ให้กับกำลัง
พล.อสส.ผลัดที่ ๓ ส่วนที่
๒
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
และเดินทางกลับประเทศไทย
บ้านเกิดเมืองนอนของกำลังพลทุกนาย
ใน วันที่ ๖, ๗ สิงหาคม
๒๕๑๔
............เนื่องจากกำลังพล
พล.อสส.ผลัดที่ ๓ ส่วนที่
๑
เป็นผลัดสุดท้ายที่ทุกหน่วยจะต้องนำอาวุธยุทโธปกรณ์กลับมาใช้ในราชการในประเทศไทย
ดังนั้นกองทัพบก
จึงได้อนุมัติให้จัดตั้งกองพลขึ้นใหม่โดยขนานนามกองพลนี้ว่า
" กองพลที่ ๙
ค่ายกาญจนบุรี "
ซึ่งมีที่ตั้งปกติอยู่บริเวณตำบลลาดหญ้า
อำเภอเมือง จังหวัด
กาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๙
มิถุนายน ๒๕๑๔
ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นกองพลที่กำเนิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลปัจจุบันและตรงกับวันรัชดาภิเษกเสด็จขึ้นเถลิงวัลยราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฯ รัชกาลปัจจุบัน
ด้วยส่วนอัตราการจัดและอาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยนี้ใช้อัตราเดิมที่เคยปฏิบัติราชการสงครามในประเทศสาธารณรัฐเวียดนามใต้ทุกประการ
...........ดังนั้น ร.๑ พัน.๒ พล.อสส.
จึงแปรสภาพมาเป็น ร.๙
พัน.๒ ในปัจจุบัน
ตั้งแต่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๔
เป็นต้นมา
และมีที่ตั้งปกติถาวรอยู่ในค่ายสุรสีห์
บริเวณ ตำบล ลาดหญ้า
อำเภอ เมือง จังหวัด
กาญจนบุรี โดยอาศัยโรงเรือนเดิมที่ใช้เป็นที่พักอาศัย
และที่ทำงานขณะทำการฝึกก่อนไปปฏิบัติการรบในประเทศสาธารณรัฐเวียดนามใต้เป็นที่ตั้งกองพันชั่วคราว
แต่ปัจจุบันนี้หน่วยได้พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ
เช่น อาคารกองร้อย และสาธารณูโภคต่างๆ
ก็ได้รับงบประมาณการก่อสร้างขึ้นที่ทันสมัยเป็นเรือนโรงถาวรแล้ว
เนื่องจากกำลังส่วนพลใหญ่ของ
ร.๑ พัน.๒ พล.อสส.
ในอดีตบรรจุจากกองทัพภาคที่
๒ จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งมีรูปปั้นจำลองของ
ท่านท้าวสุรนารี
วีรสตรีที่กล้าหาญ
เด็ดเดี่ยว เป็นที่สักการะบูชาและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของกำลังพลทุกนายจึงมีนามเรียกกองพันนี้อีกนามว่า"กองพันย่าโม"
ดังนั้นกำลังพลดังกล่าวจึงพร้อมใจกันจัดตั้งศาลของท้านท้าวสุรนารีขึ้นบริเวณสนามฝึกของกองพัน
เมื่อปี ๒๕๑๔
และต่อมาแปรสภาพเป็น ร.๙
พัน.๒ จนถึงปัจจุบัน