7. สรุปผลการวิเคราะห์

จากค่าความเค้นหลักสูงสุดและต่ำสุดที่ได้จากการวิเคราะห์ตามรูปที่ 6 ถึง 11ได้ค่าความเค้นอัดและ ความเค้นดึงตามบริเวณที่น่าสนใจ ขององค์พระธาตุ แสดงในตารางที่1

ตารางที่ 1 ความเค้นอัดและความเค้นดึงในองค์พระธาตุหริภุญชัย

สรุปได้ว่าการแบกรับน้ำหนักตัวเอง ขององค์พระธาตุหริภุญชัยมีความปลอดภัย แรงกระทำเนื่องจากน้ำหนักองค์พระธาตุ กับแรงแผ่นดินไหว จะมีผลต่อ โครงสร้างองค์พระธาตุมากกว่า แรงกระทำเนื่องจากน้ำหนักองค์พระธาตุกับแรงลม ในกรณีที่กระทำในทิศทางเดียวกัน ความเค้นอัดสูงสุดและความเค้นดึงสูงสุดของวัสดุที่เกิดขึ้นในกรณี น้ำหนักองค์พระธาตุและแรงแผ่นดินไหว เมื่อเทียบกับความเค้นอัดและดึงของกำแพงอิฐที่ยอมให้ มีค่าความปลอดภัยเท่ากับ 5.3 และ 2.1 ตามลำดับ โดยที่ภายในองค์พระธาตุมีความชื้นสูง วัสดุประสานกับอิฐเมื่อได้รับแรงดึงเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดการแตกร้าวขึ้นได้ การทำนุบำรุงรักษาจึงควรเพิ่มความแข็งแรงบริเวณชั้นต่างๆ ที่เกิดความเค้นดึง รวมทั้งการจัดการเรื่องการระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชื้นขึ้นภายในอิฐ

เอกสารอ้างอิง

1. สิงฆะ วรรณสัย, ตำนานพระธาตุหริภุญชัย งานทำบุญครบ ๕ รอบ พระมหาเจติยารักษ์ (ไพบูลย์) ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๐

2. ฐิติพันธ์ งานประเสริฐสกุล ดำรงค์ ปึ้งสุวรรณ และปรัชญา วงศ์จักร์, การวิเคราะห์โครงสร้างพระธาตุหริภุญชัย เนื่องจากน้ำหนักของ องค์พระธาตุเจดีย์ แรงลม และ แรงแผ่นดินไหว, รายงานการวิจัยในกระบวนวิชา 251499 โครงการลำดับที่ 13/2541 ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2541

3. ธีรพงษ์ สว่างปัญญางกูร และนพดล เถื่อนศิริ, กำลังของผนังรับน้ำหนัก, รายงานการวิจัยในกระบวนวิชา 251420โครงการลำดับที่ 014/2522 ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2522

4. คุณพัทธ อาจองค์ และสุรพล อนวัชพงศ์พันธ์, รวมกฎหมายการควบคุมอาคาร เล่มที่ 1, คณะอนุกรรมการสาขากฎหมายโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพฯ, หน้า84, 2538

5. เป็นหนึ่ง วานิชชัย, ความเสี่ยงภัยจากแผ่นดินไหวของประเทศไทย, การอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเรื่อง"การ ออกแบบอาคารต้านแรงแผ่นดินไหว ครั้งที่ 2, จัดโดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ วันที่14-15 กุมภาพันธ์ 2540, หน้า 105-123, 2540