Thaipoems

"..หมอกยามเช้าเลียบทิวเขาเคล้าไออุ่น
แสงอรุณคลี่กระจายสลายหมอก
เผยสีเขียวทิวเขาเหมือนย้อนยอก
กระไอหมอกหยอกอ้อยอิ่งเอื่อยละลาย
..เข้าเขตเหนือลมหนาวยังเบาบางอยู่
มีหมอกพรูทอดสายใยไม่สลาย
อีกเทือกเขารายรอบเหมือนอุบาย
โอบล้อมให้ไม่ห่างหายชั่วนิรันดร์ "

คำทักทาย ส่งตามสาย หายคิดถึง
ความคำนึง ซ่อนมาตาม ตัวอักษร
คำคำหนึ่ง ที่เขียนซึ้ง เป็นบทกลอน
คำคำเดียว ที่ลอยล่อง มาตามลม...

ฝากเพลงจากเมืองไทย ถึงคนไกลที่ไกลกัน
แม้ขอบฟ้าขวางกั้น เราใกล้กันด้วยเสียงเพลง
ฝากใจไปกับลม ฝากคำคมให้บรรเลง
ซ่อนไว้ในบทเพลง ช่วยบรรเลงแทนรักเรา

กี่ปีแล้วนะ...
ที่เราไม่เห็นรุ้งกินน้ำ
มันหายไปไหน ก็เคยอยู่ตรงนี้
ทุกครั้งทีฝนปรอย....ฉันเคยเห็นมันเสมอๆ
แล้ววันหนึ่งฉันก็รอเก้อ....เพราะมันไม่กลับมาอีกเลย
กี่ปีแล้วนะ....
ที่เธอหายไป จากใจฉัน
บางครั้งบางวัน ฉันก็ฝันถึงเธอ นาน....เหลือเกิน...นาน
จนถึงวันนี้....หากฉันได้เห็นรุ้งกินน้ำสักครั้ง
คงมีความสุขเหมือนวันเยาว์
จนถึง วันนี้...หากฉันได้เห็นเธอสักครั้ง
คงรู้สึกได้ ถึงความเต็มในหัวใจ
ฉันคิดถึงเธอจัง.... รุ้งกินน้ำ....และแม่...

"สวนฝัน"
หอมกลิ่นกรุ่นกรุ่นดอกไม้อยู่ปลายสวน
สวนที่ครวญครวญหาในคราฝัน
ฝันสุกใสใสกระจ่างกลางแสงจันทร์
จันทร์ในคืนคืนมีฝันพลันหอมอวล..
อวลอบอวลยวนให้พะวงหลง
หลงในกลิ่นกลิ่นคงที่ให้หวล
หวลคืนถิ่นถิ่นฝันที่เฝ้าครวญ
ครวญถึงสวนสวนฝันกลางจันทร์เพ็ญ..

อย่าเพียรหานิยามของความรัก
ใจประจักษ์รักอยู่รู้บ้างไหม
จะเฝ้าตามถามรักไปทำไม
ถ้าหัวใจไร้ซึ่งความจริงใจ
ความรักหรือก็คือความรัก
ไม่อาจจักเปรียบเปรยกับสิ่งไหน
เป็นความรักแน่แท้กว่าสิ่งใด
เป็นความใสซื่อบริสุทธิ์ยุติธรรม
อย่าเพียรหานิยามของความรัก
ถ้าใจรักก็รักเถิดคมขำ
ความรักก็คือความรักอย่างที่พร่ำ
ความรักล้ำคือนิรันดร์แห่งดวงใจ..

มีคำกลอนร่อนตามไปสายลมหนาว
ผ่านวันคืนยืนยาวหนาวหลบหาย
ส่งความรักความคิดถึงมาทักทาย
ช่วยละลายความหนาวเหน็บให้ห่างใกล..

มีสายตา มาช่วย อำนวยให้
มีสายใจ สื่อถึง ซึ้งความหมาย
มีอาทร ส่งมา ร้องทักทาย
ขอจงหาย เหนื่อยเหน็ด จากการงาน...

รอเธอมาข้ามคืน หัวใจฝืนคงไม่ไหว
รักเธอมายาวไกล เกินกว่าใจจะหักลง
รอรออยู่ตรงนี้ ทุกนาทีที่ลุ่มหลง
หากเธอสงสารจง อย่าทิ้งฉันให้ดายเดียว...

แสนคิดถึงเธอรู้บ้างไหม
หมื่นคำหวานจำได้หรือเปล่า
ร้อยคำกลอนรำพันรักเรา
พันลำนำฝากรักถึงเธอ...

มีเธออยู่ข้างใจในความคิด
เป็นเพื่อนจิตยามเหงาไม่เศร้ามาก
มีเธออยู่ยามใจแสนลำบาก
มีค่ามากกว่าเชยชมจนสมใจ
ค่ำคืนนี้ดาวพราวนภากว้าง
เธออยู่กลางดวงตาที่สุกใส
เหมือนมีดาวล้านดวงคอยห่วงใย
เหมือนมีใครคนหนึ่งคอยปลอบโยน
มีเธออยู่ตรงนี้แล้วที่รัก
ฉันก็จักเดินทางไม่สับสน
ถึงพายุกระหน่ำซ้ำไม่อับจน
เพราะมีคนรู้ใจให้นำทาง

รอเธอมาข้ามคืน หัวใจฝืนคงไม่ไหว
รักเธอมายาวไกล เกินกว่าใจจะหักลง
รอรออยู่ตรงนี้ ทุกนาทีที่ลุ่มหลง
หากเธอสงสารจง อย่าทิ้งฉันให้ดายเดียว...

ขอคิดถึงเธอบ้างได้ไหมคนดี
อยากให้รู้ว่าฉันคิดอย่างไร
แต่ตอนนี้ขอเก็บไว้ในใจ
รอเวลาว่าเมื่อไรจะได้บอกเธอ


ห่างฟ้า ห่างฝน ห่างหนาว ห่างเขา
ห่างแล้ว ห่างหาย ห่างมาก ห่างทาง
ห่างกาย ห่างใจ ห่างสุข ห่างเรา

เรื่องน้ำเน่าขอให้บอกสู้มิถอย
ไม่มีจ๋อยถึงน้องนางมิแยแส
ป้อนทุกวันด้วยกลอนสดมิเปลี่ยนแปร
ถึงไม่แลก็ต้องมองด้วยหางตา
หมั่นป้อนนางด้วยหนมหวานที่ปั้นเอง
ไม่ต้องเกรงไอ้หน้าไหนแค่นกกา
อย่าถือสาตัวเจ้าเองนั้นไม่บ้า
ไม่มีถ้าหากจะคิดได้ใจเธอ
ปั้นหนมหวานจากกลอนน้อยให้เป็นก้อน
เอาไว้อ้อนป้อนปากเธอให้ใจอ่อน
หวังให้เธอได้เอ็นจอยนะบังอร
กับความหอมบวกความหวานปานน้ำผึ้ง
อย่าเพิ่งทึ่งในความเน่าของพี่นะ
เป็นไงคะกับจานนี้ถึงกับอึ้ง
แต่อย่าเพิ่งนอนใจมีอีกเพียบ
มิอาจเทียบกับใจพี่ที่ให้เธอ

อยากมีเธออยู่ใกล้ใกล้ในชีวิต อยากจุมพิตเธอทุกเช้าคราวตื่นฝัน
อยากลืมตาแล้วเห็นเธอทุกวัน อยากจะฝันเรื่องของเราทุกคราวคืน
อยากกอดเธออย่างนี้ทั้งชีวิต อยากมีสิทธิ์จูบแก้มนวลที่ชวนชื่น
อยากจะเอ่ยว่ารักเธออย่างยั่งยืน อยากมีคืนและวัน...เป็นของเรา...

ลม รักแผ่วทักทายที่ปลายฝัน
ปาก…… บอกมั่นคำสัญญาว่ารักยิ่ง
เพียง ครั้งหนึ่งที่ได้ใจรักจริง
แผ่ว ผ่าวผิงไออวลรัญจวนใจ
แผ่ว คำรักซึ้งซ่านยังซ่านซึ้ง
แว่ว หวานตรึงใจอยู่รู้บ้างไหม
ว่า ทุกคำมีค่าต่อหัวใจ
รัก เอย..ใครว่ารักร้ายไม่จริงเลย

คิด บ้างไหมว่าใครเขามารอ
จะ ให้ง้อกว่านี้คงไม่ไหว
โกรธ กันจริงหรือแกล้งทำให้ช้ำใจ
นาน เกินไปใจดวงล้าก็ราแรง
แค่ คิดเย้าไม่เคยคิดทำผิดไป
ไหน ว่ามิตรที่ให้ใช่คำแต่ง
คะ เนใจเพื่อนได้ว่าราคาแพง
นี่ อย่าแกล้ง…เรามาง้อขอคืนดี

ร้อยวาจามิอาจเท่าใจเจ้าคิด........
ร้อยจริตมิอาจเท่าใจเจ้าใฝ่....
ร้อยวจีมิอาจเท่าเจ้าเข้าใจ....
ร้อยหัวใจมิอยากได้ใคร่ใจเดียว
ข้าเพียงหวังได้พลังใจจากเจ้า
ข้าอาจเขลาดูโง่เง่าไร้เฉลียว
แต่ข้าหวังได้รักจากเจ้าคนเดียว
จะกอดเก็บใจไว้แนบนิรันดร์..........

ยามเหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย
ข้างกายหามีใครไม่ เศร้า
เศร้า เหงา เหงา หัวใจ
ไร้ซึ่ง ใคร ใคร เหลียวแล
ใกล้ ใกล้ น้ำตาไหลเอ่อ
เผลอ เผลอ จะแอบร้องไห้
แสนเศร้าเพียงเขาจากไป
ใส ใส น้ำไหลจากตา
ใครเลยจะไม่เคยเศร้า
ความเหงาไม่เคยมาหา
อย่างน้อยก็มีบางครา
ต้องมานั่งเศร้าเหงาทรวง
ถึงแม้โลกนี้จะเศร้าแต่
เรายังคงมีหวัง อย่างน้อยใช่เราลำพัง
ต้องนั่งเศร้าเหงาคนเดียว

ดาวบนฟ้าไกล
รู้บ้างใหมว่าฉันเหงา
ทุกคืนฉันคอยเฝ้า
นั่งนับดาวเผื่อเขาทุกวัน


ฝันว่าไปดูหนังกะสาวสาว
ฝันว่าไปสอยดาวกะเพื่อนฝูง
ฝันว่าไปดูปลาหางนกยูง
ฝันว่าฝูงค้างคาวมารุมกัน

ฤดูฝนเริ่มจางหาย..
แต่รู้ไหมได้พัดพาใจใครไปบ้าง
เหลือเพียงแต่หัวใจที่มีแต่รักร้าง
รักเลือนลางไปกับฝน
ฤดูหนาวเริ่มย่างกลาย..
แต่หัวใจยังร้อนรนสับสน..
เฝ้าแต่คิดถึงคนเคยรักบางคน
ที่เขาคอยชะโลมให้หัวใจฉ่ำเย็น
ย่างเข้าฤดูไหน ไหน..
หน้าเธอฉันคงไม่ได้เห็น
เพราะตอนนี้เธอมีเพียงหัวใจที่เลือดเย็น
เธอก็คงเป็นได้แค่ฤดูกาล..

รักคนไกลเอาใจแสนลำบาก
แฟนเขามาเราไม่รู้ดูไม่เห็น
รักของเขาเหมือนลายน้ำเมื่อยามเย็น
พอไม่เห็นหน้าเราเขาก็ลืม

คืนค่ำค่อนพระจันทร์
คนหลับฝันเห็นฉันไหม
แอบหลบอยู่ข้างใจ
กับจันทร์ไงเห็นไหมเธอ
หลับแล้วจะอิงอุ่น
จะแอบหนุนตักเสมอ
แล้วบอกว่า...รักเธอ
แม้ละเมอหรือลืมตา...

รู้นะทำอะไรอยู่..เจ็บนะ..ที่ได้รู้
เห็นนะยังเห็นอยู่..เจ็บนะ..ที่ยังเห็น
คิดนะยังคิดอยู่..เจ็บนะ..ที่ยังคิด
ห่วงนะยังห่วงอยู่..เจ็บนะ..ที่ยังห่วง
เฉยนะแกล้งทำเฉย..เจ็บนะ..ที่ยังเฉย
แคร์นะยังแคร์อยู่..เจ็บนะ..ที่ยังแคร์
แต่ที่รู้เธอไม่เคยรู้สึกอย่างฉันเลย

"หนาว"
ลมหนาวพริ้วลิ่วมาข้ามฟ้าใส
เมฆขาวพราววิไลไกลสุดสอย
สายเย็นหมอกรัดรุมคลุมทั่วดอย
อิ่งอ้อยส้อยอาวรณ์ซ่อนซึมเซา
แดดอ่อนอ่อนฉายสีเหลืองอร่าม
ทอดวาววามระยับซับความเหงา
เกล็ดน้ำค้างบนหญ้าเห็นเป็นรื้นเงา
หมอกสีเทาค่อยจางบางลงไป
คิดถึงคนจากดอยคอยเฝ้าหา
สองหนาวมาคนหลังนั่งร่ำไห้
ลืมเสียสิ้นหลงถิ่นแสงสีไฟ
ทิ้งคนไกลสุดเหน็บ..หนาวเจ็บทรวง

ยังไงก็ขอบใจกับความรัก
ที่เธอมักนำมามอบให้ฉัน
คือหัวใจที่มีสายสัมพันธ์
เป็นของขวัญที่มีค่ากว่าสิ่งใด

ในกลางคืน จันทร์ส่องแสง ในใจฉัน
ในกลางวัน ตะวันฉาย ไม่คลายเหงา
เฝ้าคิดถึง คืนวัน อันมีเรา
โอ้.....เจ้า ตอนนี้ อยู่หลใด


กลอนสื่อแต่คำเศร้า........กลัวพี่เจ้าจะเศร้าสร้อย
จึงเก็บความด่างพร้อย.....และรอคอยให้สร่างเบา
คืนนี้จันทร์แย้มฟ้า..........หมู่ดาราต่างเหงียบเหงา
ปล่อยจันทร์ส่งแสงเงา.......สุกสกาวทั่วเท่าฟ้า
เหมือนฉันในคืนก่อน.........แรงเหนื่อยอ่อนจึงหนีหน้า
เป็นดาวที่หลับตา.............หลบแสงจ้า จากดวงจันทร์

จะรักใครก้อจงรักหากไม่ผิด
ทำชีวิตของใครให้เศร้าหมอง
รักจะดีสุขสมอารมณ์ปอง
ใจจะต้องรับรู้อยู่ด้วยกัน

แว่วสำเนียงเสียงพร่ำฝากคำบอก
ดั่งระลอกคลื่นครวญกำศวรเศร้า
แทนความโศกซวนเซทะเลเหงา
โอ้อกเรายามเดียวห่อเหี่ยวใจ
เดินโดดเดี่ยวเดียวดายไร้คู่คิด
สะเทือนจิตอาวรณ์หม่นหมองไหม้
สะท้านทรวงค้างคาน้ำตาใจ
คำสัญญาผ่านไปอย่างไร้แวว
ตัวสำรองสำหรับคอยรับส่ง
ถึงมั่นคงอย่างไรคงไม่แคล้ว
แค่คนหนึ่งเลยผ่านหลบหลีกแนว
คนสุดท้ายปลายแถวนั้นคือเรา


เธอคือนายแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่
ฉันเป็นเพียงไกด์พาท่องเที่ยว
ระหว่างเราเดินทางไม่เป็นสายเดียว
และดูเหมือนจะไม่มีทางเลี้ยวเข้าหากัน
ไม่มากไปใช่ไหม
ถ้าไกด์คนนี้จะพาเธอไปเที่ยวในความฝัน
ขอแค่ในฝันเรามีกัน
ภาพความจริงเป็นอย่างไรนั้น...ฉันไม่แคร์


ฉันจะเก็บวันเวลาที่ดีไว้
ให้อยู่ในหัวใจฉันเสมอ
เผื่อสักวันมีโอกาสมาพบเจอ
จะบอกเธอว่ารักเธอสุดหัวใจ

คิดถึงเธอรู้บ้างไหม
ตอนนี้อยู่ห่างไกลหนักหนา
อยากให้เธอรับรู้ตามกาลเวลา
ยังมั่นคงเสมอมาและรอคอย
มองคุณอยู่ไกล ๆ
แอบสนใจอยุ่ห่าง ๆ
อยากสบตาเมื่อเดินสวนทาง
อยากจะทักบ้าง เมื่อคุณหันมอง
เจ็บนักหัวใจดวงนี้
ที่ขาดคนดีเฝ้าห่วงหา
เจ็บช้ำเมื่อเธอมาบอกลา
หลั่งน้ำตาเมื่อคุณไม่หันมอง
นั่งอยู่กับความอ้างว้าง
ขาดคนเคียงข้างเหว่ว้า
อยู่กับความเหงาของกาลเวลา
อยู่กับน้ำตาที่คอยเตือนใจ
คิดถึงกันบ้างได้ไหม
ยามอ้างว้างห่างไกลอย่างนี้
ส่งความรู้สึกที่ดีดี
หนึ่งใจที่ฉันมีคงเพียงพอ

ดาวบนฟ้าไกล
รู้บ้างใหมว่าฉันเหงา
ทุกคืนฉันคอยเฝ้า
นั่งนับดาวเผื่อเขาทุกวัน

[ back ]