Architecture

ARCHITECTURE...

>> สถาปัตยกรรม/โครงสร้างของ Client-Server
>> สถาปัตยกรรม/โครงสร้างของ Host-Terminal
>> สรุปความแตกต่างระหว่าง Client-Server กับ Host-Terminal ทางด้าน
สถาปัตยกรรม/โครงสร้าง (comment)

@ สถาปัตยกรรม/โครงสร้างของ Client-Server
โ ครงสร้างของ Client-Server มีการกระจายงานด้านการประมวลผลข้อมูลแก่คอมพิวเตอร์
หลาย ๆ เครื่อง มีการแบ่งงานออกเป็นสองส่วนให้สองระบบคือ client กับ database server
ระบบ client-server ไม่เหมือนกับฐานข้อมูลพีซีโดยทั่วไป ความเร็วของ workstation ส่วนใหญ่
ของของงานฐานข้อมูลกระทำที่ระบบส่วนหลัง workstation เพียงแต่ทำหน้าที่รัน software
ส่วนหน้า มีการเก็บโปรแกรมส่วนที่ทำหน้าที่สอบถามไว้ที่ server โดยจัดเก็บเป็น routine มาตรฐาน
เพื่อให้ผู้พัฒนา application สามารถเรียกใช้ได้ เมื่อต้องการปรับแก้การสอบถามก็สามารถทำ
เพียงที่เดียวเท่านั้น (ที่ server)
รู ปทางขวาแสดงถึงแต่ละส่วนของ hardware ที่เชื่อม
ต่อสู่เครือข่ายเป็นคอมพิวเตอร์ในตัวเอง (ซึ่ง dumb
terminals ไม่สามารทำได้เพราะคอมพิวเตอร์ทุกๆ
ตัวนั้นต้องมีโครงสร้างที่มีคุณสมบัติด้านการ
ประมวลผล) " DBMS " ชนิดพิเศษเรียกว่า database
server รันบนคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่กระจายข้อมูล
software จะรับข้อมูลที่มีการร้องขอจากคอมพิวเตอร์
เครื่องอื่นบนเครือข่าย(client) และส่งผลกลับไปให้
client computer สามารถประมวลผลข้อมูลได้
อย่างสมบูรณ์รวมถึงการแสดงผล output ออกทาง
จอภาพของ client computer ได้อีกด้วย
ส ถาปัตยกรรม client-sever นั้นสามารถสนับสนุนการทำงานแบบกระจาย เช่น การจัดการไลบรารีของ
โปรแกรมต่าง ๆ ที่เก็บกระจายกันอยู่, การจัดการข้อมูลที่เก็บอยู่ตามที่ต่าง ๅ, การตรวจสอบ และเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ, การสำรองข้อมูลที่เก็บอยู่อย่างกระจายในระบบ
วั ตถุประสงค์หลักของสถาปัตยกรรม client-server คือการอนุญาตให้ application ของผู้ขอใช้บริการ
เข้ามาเรียกใช้ข้อมูลที่ถูกจัดการโดยผู้ให้บริการได้ ผู้ให้บริการสามารถที่จะรันอยู่ในเครื่องที่ตั้งอยู่ห่างไกล
ด้วยเหตุนี้ application ของ client-server จึงมักจะมีความเกี่ยวเนื่องกับคำว่า "การประมวลผลแบบกระจาย
Distributed Processing" อยู่เสมอ มีผู้ขอใช้บริการที่แยกอยู่คนละเครื่องจากผู้ให้บริการนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ
การประมวลผลแบบกระจาย แต่ว่าทั้งการแยกกันอยู่คนละเครื่อง หรือการประมวลผลฐานข้อมูลแบบกระจาย
ต่างไม่ได้เป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องมีของ client-sever แต่อย่างใด การประมวลผลแบบกระจาย
เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของการกระจายการประมวลผลไปตามหน่วยต่าง ๆ ให้สามารถทำการประมวลผลได้

@ สถาปัตยกรรม/โครงสร้างของ Host-Terminal
H ost-Terminal สามารถจำแนกตามลำดับชั้นได้ 3 ประเภทใหญ่ (นักคอมพิวเตอร์บางท่านแบ่งถึง 6 ประเภท)
คือ เทอร์มินอลแบบง่ายสุด (Simple Terminal / DumpTerminal) , แบบประสิทธิภาพสูง
(Sophisticated Terminal / Smart Terminal) และแบบมีสมอง (Intelligent Terminal)
- Dumb terminal จะเป็นหน้าจอเพื่อแสดงง และ input เพื่อส่งข้อมูลเท่านั้นโดยจะเชื่อมต่อกับตัวแม่
(host) การ process ทั้งหมดจะอยู่ที่ mainframe เท่านั้น terminal แบบนี้จะไม่มีหน่วยความจำ
สำรอง แต่ระบบการทำงานจะอยู่ในลักษณะไม่เชื่อมโยงกับระบบ (Off-line data storage)
- Smart terminal จะมี buffer คือตัวมััน สามารถส่งผ่านข้อมูลแบบซิงโคนัสหรืออะซิงโคนัส
ด้วยความเร็วสูง terminal เหล่านี้จะใช้กฎการสื่อสารในระดับสูง มี hardwired(เก็บใน store area)
คือโปรแกรมที่ทำเป็น hardware แล้ว แล้วทำการตรวจสอบ data validation เป็นหลัก
เช่น การตรวจสอบลักษณะ numeric data (เพื่อลดภาระของ mainframe)
- Intelligent terminal มีลักษณะเป็น mmicroprocessor สามารถทำการคำนวณการ process
ต่าง ๆ และติดต่อกับตัวแม่ได้ด้วย (เป็น client)
ส ถาปัตยกรรมฐานข้อมูลของ Host-Terminal เป็นระบบแบบรวมศูนย์ คือทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด
จะรันบน host computer ทั้งนี้รวมทั้งระบบจัดการฐานข้อมูล รวมทั้ง application ต่าง ๆ
ที่ใช้เรียกฐานข้อมูล และรวมทั้งการติดต่อสื่อสารที่ทำหน้าที่รับและส่งข้อมูลจาก terminal ของผู้ใช้
รู ปด้านล่างแสดงถึงสถาปัตยกรรมของระบบฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ ผู้ใช้สามารถเข้าใช้ฐาน
ข้อมูลโดยผ่าน terminal ที่ต่อแบบ local สำหรับ Internal users และต่อแบบ remote
(telephone lines) สำหรับ External users โดยทั่วไป terminal สามารถทำการประมวลผล
ได้เพียงเล็กน้อยหรือทำไม่ได้เลย terminal ประกอบด้วยจอภาพ แป้นคีย์บอร์ด และ hardware
ที่ทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารกับ host

@ สรุปความแตกต่างระหว่าง Client-Server กับ Host-Terminal ทางด้าน
สถาปัตยกรรม/โครงสร้าง
ส ถาปัตยกรรมแบบ Client-Server ได้ทำให้สมรรถนะการทำงานของฐานข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยการทำ
แยกส่วนที่เป็นระบบจัดการฐานข้อมูลออกจากส่วนที่เป็น application ฐานข้อมูล ส่วนที่เป็น application
ทำงานที่คอมพิวเตอร์ที่เป็น workstation (ปกติมักเป็นเครื่องพีซี) และทำการติดต่อสื่อสารกับระบบ
จัดการฐานข้อมูลหนึ่งระบบหรือมากกว่าหนึ่งระบบ ซึ่งระบบเหล่านี้จะทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใน
network ระบบฐานข้อมูลแบบ client-server เป็นระบบที่มีความซับซ้อนสูงมาก แต่ว่าก็เป็นระบบ
ฐานข้อมูลที่มีสมรรถนะสูงสุดในปัจจุบันนี้
ส ถาปัตยกรรมแบบ Host-Terminal เป็นระบบการใช้ฐานข้อมูลร่วมกันระหว่างคอมพิวเตอร์ในระยะ
แรก ๆ ซึ่งมีโครงสร้างไม่ซับซ้อน มีความสามารถในการจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมาก มีความปลอดภัย
ของข้อมูลมาก เพราะมีโครงสร้างเป็นแบบรวมศูนย์ แต่ระบบนี้ก็มีข้อเสียอยู่มากเช่นกัน ทั้งทางด้าน
ความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งปัจจุบันนี้มีความต้องการทางด้านการประมวลผลข้อมูลสูงมาก
ดังนั้นการทำงานแบบรวมศูนย์อาจทำให้เกิดความล่าช้าได้