"ย้ง" กับบทบาทใหม่ในอัลบั้ม "คนของเธอ"
(จากนิตยสาร Juice Vol.1 Issue: 1 March, 2003)

ย้ง ธรากร สุขสมเลิศ คงคุ้นหน้ากับหนุ่มคนนี้ในละครและพิธีกรทางหน้าจอมาพอสมควร คราวนี้เขาขอ อาสาสมัคร เป็นสมาชิกใหม่ในวงการเพลงอีกคน หลังจากที่เขารู้สึกผูกพันกับเสียงเพลง และใฝ่ฝันที่จะเป็น นักดนตรี จนถึงวันที่เขาเข้าประกวดดัชชี่บอยก็ได้หยิบเอาความสามารถทางดนตรีมาใช้ในการประกวด
จนได้รับเลือกเป็นหนุ่มดัชชี่ปี 2000 หลังจากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นสู่วงการแสดง พิธีกร จนในที่สุดความใฝ่ฝัน ของเขาก็ได้เป็นจริงเมื่อ ย้งได้มีโอกาส มาร่วมงานกับค่ายเพลง อย่างโซนี่มิวสิค บีอีซี เทโร หลังจากทุ่มเท
ให้กับการทำงานเพลงกว่า 1 ปีเต็ม เขาก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวผลงาน
อัลบั้มแรกในชีวิตกับ อัลบั้ม "ย้ง คนของเธอ" วันนี้เรามาคุยถึงความฝัน
ของหนุ่มย้งกับอัลบั้มชุดแรกในชีวิตกัน ลองมาดูกันว่ามีความเป็นมา
กันอย่างไรบ้าง

ฝันที่อยากจะทำงานเพลงมานานยัง "ผมมีความฝันที่จะทำเพลง
มานานแล้ว ก่อนเข้าวงการอีก จนวันนี้ไม่คิดว่าเราจะได้ทำตาม
ความฝันที่เคยคิดไว้ แต่ในที่สุดมันก็เป็นจริง ผมได้มีโอกาสร่วมงาน
กับโซนี่มิวสิค บีอีซี เทโร และได้ทำงานเพลงชุดแรกในชีวิต"

ใครเป็นคนคิดคอนเซปต์ในอัลบั้มนี้ "คอนเซ็ปต์ก็คุยกันกับทีมงาน
กับพี่ๆทีบริษัท โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบเพลงช้า ในอัลบั้มนี้จึงมี
เพลงช้าค่อนข้างเยอะ และก็มีความแรงของเพลง เพราะเป็นคนชอบ
อัลเทอร์เนทีฟ กีตาร์แรงๆ เลยลงตัวที่ "ป๊อบร็อค"

ย้ง มีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้มากน้อยแค่ไหน "ก็พอสมควรเหมือนกัน ในการเลือกคำร้องแบบไหน ร้องเสียงอย่างไรดี แล้วก็เรื่องหลักๆ ก็เป็นการให้ข้อมูลต่างๆ อัลบั้มนี้จึงมีความเป็นตัวของย้งเอง ทั้งนิสัยทั้งความรู้สึก เรื่องราวบวกกับประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เอามาใส่เข้าไปในนั้นเยอะเลยทีเดียว จะพูดเลยทั้งหมดมันก็ไม่ได้ เนื้อหาโดยรวมเป็นของตัวเราเอง เอาเรื่องราวเหล่านั้นถ่ายทอดเป็นเพลง 10 เพลงครับ"

ความรู้สึกในอัลบั้มชุดนี้ "รู้สึกเต็มที่ครับ ทั้งผมและทีมงานไม่ว่าฝ่ายไหนตำแหน่งไหนก็เถอะ ทุกคนเต็มที่
กับงาน และใส่ความตั้งใจกับเพลงอย่างมาก อยากให้ทุกคนลองเปิดฟังกันด้วยความตั้งใจ ที่อยากจะฟัง และฟังมันด้วยความรู้สึก ที่ว่าชอบอัลบั้มนี้ จะได้ฟังความตั้งใจที่เรามีในอัลบั้มนี้อย่างเต็มที่ครับ"

การทำอัลบั้มชุดนี้ได้อะไรบ้าง "มันได้ตั้งแต่เริ่มทีจะทำงานแล้ว เหมือนได้ทำความฝันที่เราคิดไว้มานานแล้ว ได้ฟังเพลงของคนอื่นแล้วก็รอ จนได้ทำเพลงของตัวเอง มันเหมือนการก้าวเดินไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มันก็ก้าว ไปถึงจุดที่จะเริ่มต้นฝันของตัวเองที่กำลังดำเนินแล้ว"

การที่เราเป็นนักแสดงแล้วมาเป็นศิลปินมีความยากง่ายตรงไหนบ้าง "จริงๆความยากง่ายเป็นรูปแบบของศิลปะ เหมือนกับการแสดงกับร้องเพลง ส่วนที่ต่างกันคือ ความชอบ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราชอบมากกว่า อะไรที่เรารัก และทำให้มีความสุขกับการทำงานตลอดเวลา ละครมันเป็นอะไรใหม่ๆที่ทำและสนุกกับมันจริง แต่งานเพลง มันเป็นตัวของตัวเองมากกว่า ในละครจะเล่นเป็นใครก็ได้ แต่งานเพลงเป็นตัวเรา ความหมายของเพลง ก็เป็นตัวเรา แล้วเรารู้สึกสนุกที่ได้ถ่ายทอดมันออกไป"

เห็นว่าได้นำเอาเพลงของ F4 มาร้องด้วย "เพลงดอกหญ้ากับพายุ
ผมว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายนะ เพลงนี้มันเป็นเพลงที่มีเมโลดี้ไพเราะ
มากและก็มีความหมายดีมากๆ ได้ฟังแล้วขนลุก พอใส่เนื้อร้อง
Version ภาษาไทย ร้องยากมาก เพราะว่าเสียงตั้งแต่ต้นเพลง
จะต่ำพอร้องต่อไปมันต้องใช้เสียงที่สูงมาก คือ มันใช้ความสามารถ
ทั้งหมดในการเป็นนักร้องในขณะนี้"

ความหมายของเพลงนี้เป็นยังไงบ้าง "มันเหมือนเป็นการให้กำลังใจ
ของชายคนหนึ่ง ที่รู้สึกถึงการท้อแท้สิ้นหวังเหน็ดเหนื่อย ทำให้รู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียว อยากจะบอกว่า ยังมีอีกคนนะ ที่อยู่ข้างๆเธอ คอยจับมือและร่วมฝ่าฟันไปกับเธอ และอย่าคิดว่าเธออยู่คนเดียว"

ความรู้สึกที่ได้เป็นศิลปินเดี่ยว "ผมว่ามันเป็นความสนุกมากกว่า เราได้ทำอะไรที่เรารัก ไม่ได้สนว่าจะเป็น ศิลปินเดี่ยว หรือกลุ่มอย่างไร เรามองว่าสนุกกับงาน ทำอะไรที่ฝันมานานแล้วก็มีความสุข ที่จะได้ร้องเพลง ให้คนอื่นฟังด้วยเพลงของตัวเองบ้าง"

การทำงานมีอุปสรรคไหม "อุปสรรคส่วนใหญ่ไม่ค่อยมี ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ
เกี่ยวกับเทคนิคในห้องอัด เพราะเราไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่ก็ได้พี่ๆทีมงานช่วยเหลืออยู่ตลอด เวลาอยู่แล้ว"

อยากแนะนำเพลงไหนบ้างให้แฟนๆได้ฟังกันบ้าง "ผมว่าในอัลบั้มนี้ต้องโดนมากกว่า 2 เพลงแน่ๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเพลงอะไร เพราะแต่ละคนเราไม่รู้ว่าความรู้สึกยังไง เหมือนเรารึเปล่าก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ อัลบั้มชุด นี้เนื้อหาเป็นตัวของย้งเอง ประสบการณ์ ความรู้สึกแบบนี้ แต่เรื่องราวอาจไม่เหมือนกับเพลง แต่ความคิดเดียวกัน ก็อยากให้ฟังดู"

คาดหวังอย่างไรกับอัลบั้มนี้ "ย้ง หวังว่าอยากให้คนฟัง ฟังด้วยความรู้สึกของคนฟังงานเพลง ไม่ใช่ชอบเรา
หรือว่าปกสวย หรืออะไรก็ตาม อยากให้มองที่เราเป็นนักร้องอย่าติดภาพนักแสดง ให้มองให้ฟังในส่วน ของงานเพลงจริงๆ เหมือนฟังจากศิลปินคนอื่นๆ ฟังด้วยความรู้สึกชอบบทเพลง รู้สึกซึมซับความรู้สึก ในการถ่ายทอดออกมา มากกว่าฟังๆไปอย่างนั้นแหละ"

สุดท้ายฝากผลงานเพลงกับแฟนๆหน่อย "ย้ง ก็อยากบอกเพื่อนๆว่านี้คือจุดที่เราฝันไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
ก่อนเข้าวงการบันเทิง และนี้คือตัวตนของเราจริงๆ ไม่ได้เล่นบทคนอื่น เราไม่ได้พูดอะไรที่เราไม่อยาก พูดเหมือนในละคร อยากให้ลองฟังกันดู อาจจะชอบอัลบั้มนี้บ้างก็ได้นะครับ"

ขอบคุณ นิตยสาร Juice และน้องม่อน แฟนคลับที่นั่งหลังขดหลังแข็งพิมพ์ให้