ถาม:
เรามาเข้าเรื่องเรียนเลยดีกว่า การเรียนเป็นไงบ้างครับ
ตอบ: ผมเรียนจบที่มหาวิทยาลัยบรูพาครับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ
วิทยาเขตชลบุรี
ถาม:
อ้าว จบแล้วเหรอครับ (หน้าแตกเล็กน้อย) แล้วตอนเด็ก ๆ ฝันอยากเป็นวิศวะหรือไร
ตอบ: ครับ ตอนเด็ก ๆ ผมมีความฝันอยากเป็น หมอ หรือไม่ก็วิศวะ เพราะว่าตอนเด็ก
ๆ เชื่อว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี จะได้สบายครับ
ถาม:
มาแนวหวังรวยตอนโต แล้วทำไมกลายมาเป็นหนุ่มวิศวะได้ละ
ตอบ: มันมาถึงจุดแยกที่ผมไม่ชอบหมอเนี่ยแหละครับ เพราะว่าผมไม่ชอบวิชาความจำ
การเรียนหมอนี่ต้องเป็นวิชาเกี่ยวกับความจำ และผมก็ถนัดทางคณิตศาสตร์ด้วย
จึงทำให้เห็นชัดว่าเป็นวิศวะดีกว่า ผมเลยเลือกวิศวะนี่แหละ เพราะผมชอบที่จะเรียนทางด้านนี้ด้วยครับ
ถาม:
อืม... แล้วพอเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วรู้สึกอย่างไร... จากใส่ขาสั้นมาใส่ขายาว
ตอบ: ตอนแรกที่ผมได้ยินมาก็คือ ในระดับมหาวิทยาลัยนั้นจะเป็นการเรียนแบบตัวใครตัวมัน
แต่พอเข้ามาเรียนแล้วมันไม่ใช่เลย ได้ผ่านการรับน้อง เพื่อน ๆ ทุกคนมาจากต่างจังหวัดแทบทั้งนั้น
ต่างคนเลยต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความอบอุ่นเจือปนอยู่ตลอดครับ
ถาม:
มาคุยในส่วนของการเรียนบ้าง.... คณะวิศวะอุตสาหการที่ย้งเรียนนี่คืออะไร
ตอบ: จะเป็นการเรียนเกี่ยวกับการบริหารเสียเป็นส่วนใหญ่ พวกการวางแผนการผลิต
การวางฝังงาน การวางแผน เพื่อลดต้นทุนบริษัท และก่อให้เกิดคุณภาพสูงสุด จะเป็นการบริหารเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโดยตรง
ถาม:
อ้าว... ไม่ได้สร้างตึกหรอกเหรอ ถ้าอย่างนั้นมีวิชาไหนที่ย้งชอบมาก
ตอบ: แคลคูลัสครับ เพราะเป็นคนที่ชอบวิชาคณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานอยู่แล้วครับ
แล้ววิชาไหนที่มันแตกแขนงออกมาจากคณิตศาสตร์ออกมา เราจะสู้ไม่ถอยเลย เพราะเราชอบนะ
เราเก่งมาทางด้านนี้ เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะอ่านเป็นสองเท่า วิชาอื่นเราจะไม่ทุ่มเทเท่าวิชานี้
ถาม:
มีวิชาโปรดแล้ว สำหรับอาจารย์คนโปรดล่ะใครเอ่ย
ตอบ: จะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ตอนชั้นมัธยม ชื่อ อ.พูลศรี โรงเรียนบุรีรัมย์วิทยา
เพราะอาจารย์มีวิธีการสอนที่ไม่เหมือนใคร เบสิคการสอนของอาจารย์ให้แน่นมาก
วิธีการให้เราคิด จนวันนี้ยังมีติดอยู่ในหัวเลยครับ
ถาม:
มาเล่าถึงสถานการณ์ตอนที่เข้ามาในวงการบันเทิงกันสักหน่อย
ตอบ: จะเป็นช่วงใกล้จะจบแล้วครับ ช่วงปี 4 เทอมสอง ตอนนั้นเข้ามาประกวดดัชชี่
ซึ่งการทำงานและการเรียนเนี่ยสุดยอดครับ เรียนที่ชลบุรี แต่ต้องมาทำงานในกรุงเทพ
แต่สิ่งสำคัญที่ช่วยผมไว้ก็คืออาจารย์ คือบางวิชาไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้
คือขออาจารย์ว่าอ.ครับผมมีงานไม่สามารถจะเข้าเรียนได้ แต่เราต้องมีความรับผิดชอบตัวเองด้วย
ทำให้เราต้องเหนื่อยกว่าเพื่อน เพราะเราต้องอ่านเอง เราต้องแบ่งเวลาดี ๆ
ครับ
ถาม:
แล้วเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรบ้างครับ โดนให้เลี้ยงข้าวบ่อยไหม
ตอบ: ไม่ครับ จะแซว ๆ มากกว่า และก็จะมาช่วยเหลือกันมากกว่าครับ เพราะตอนใกล้จบเราต้องทำโปรเจคกัน
เพื่อน ๆ เลยช่วยผมได้เยอะเลยละครับ
ถาม:
ว่าง่าย ๆ รอดเพราะเพื่อนช่วย เออ...แล้วย้งคิดอย่างไรระหว่างมหาวิทยาลัยเอกชนกับรัฐบาล
ตอบ:
มันต่างกันแค่ค่าใช้จ่ายเท่านั้นละครับ ความรู้ผมว่าทั้งสองทีให้เท่ากัน
แต่ว่าผู้รับนะรับได้เท่าไรมากกว่า ถ้าเราตั้งใจเรียนจริง ๆ เรียนที่ไหนก็ได้
ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ ว่าคนที่เรียนในรัฐบาลจะเก่งกว่าเอกชน มันไม่เกี่ยวกันหรอกครับ
มันอยู่ที่ตัวคนเรียนมากกว่าครับ และข้อสำคัญเราควรเรียนเกี่ยวกับการที่จะเอาไปใช้จริง
ๆ ในชีวิต แล้วเราจะมีความสุขกับการเรียน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็เถอะ ต้องหาตรงนั้นให้เจอ
ถาม:
คำถามสุดท้ายแล้ว (ดีใจเล็กน้อย) ถ้าน้องเขาอยากเรียนวิศวะ ย้งอยากจะบอกเขาว่า
ตอบ: ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นคณะไหนก็ตาม คุณต้องอ่านหนังสือให้มากไว้ก่อน แต่ผมว่าน่าจะเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยนะครับ
พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ใช่วันไปสอบไม่สบาย เรื่องสุขภาพจิตใจ ต้องไม่เครียดกับมันจนเกินไป
ทำเท่าที่ทำได้ ทำให้เต็มที่ ได้ไม่ได้ไม่เป็นไร แต่เราต้องทำให้เต็มที่ก่อน
และความรู้ที่เราอ่านเข้าไป เราต้องอ่านให้ถูกวิธีด้วย ไม่ใช่อัดอ่านให้จบไปเท่านั้น
แต่เราต้องอ่านให้เข้าใจ ไม่ใช่แค่ท่องให้จำได้ ต้องมีสมาธิในการอ่าน ต่อให้อ่านจบแต่ไม่รู้เรื่องมันก็จบ
ผมยอมได้ 1 ดีกว่าได้ 0
เอาละครับน้อง
ๆ เพื่อน ๆ คงได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับแนวทางการเรียนของชายหนุ่มหน้าตี๋หล่อคนนี้แล้ว
ใครจะนำไปเลียนแบบ ย้งก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์ แต่จะได้ผลหรือไม่อันนี้ย้งเขาไม่รับประกันการคืนเงินนะครับ
ขอบคุณ ข้อมูลจาก http://student.siam2you.com/interview/index.asp?thread=yong
|