ฝันอันเป็นจริง ของ ธรากร สุขสมเลิศ
ย้ง-ธรากร สุขสมเลิศ แจ้งเกิดจากการประกวด ดัชชี่ บอย แอนด์ เกิร์ล จากนั้นเป็นที่รู้จัก กันกว้างขวางจากละครทีวี "ปากกา หัวใจ ไมโครโฟน" ก่อนจะก้าวเข้ามาเป็นนักร้อง ออก ผลงาน "คนของเธอ" กับค่ายโซนี่ บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด

"จริงๆ ชอบร้องเพลงมาตั้งนานแล้ว แต่เหมือนแค่ความฝัน" ผู้ชายหน้าหล่อ เหมือนหนุ่ม ญี่ปุ่นเล่ายิ้มๆ

ดังนั้นเมื่อได้เป็นดัชชี่ บอย แล้วถูกถามว่าอยากทำอะไร ย้งจึงบอกไปตั้งแต่ต้นเลยว่าอยากทำงานดนตรี แต่พอดีละครติดต่อเข้ามาก่อน

ดูจากบทซึ่งเป็นนักศึกษาที่ชอบเล่นดนตรี
ที่ตรงกับชีวิตจริงในตอนนั้นคือเป็นนักศึกษา
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
กับความอยากเป็นนักร้อง ย้งก็ตอบตกลงทันที

หลังจากนั้นเกือบๆ ปี โซนี่ซึ่งได้ฟังเขาร้องเพลง
"วันพรุ่งนี้" ประกอบในละครชอบใจจึงได้ติดต่อมา

"ความฝัน" จึงได้เวลาแปรสภาพเป็น "ความจริง"

"ผมเป็นคนชอบฟังเพลง ฟังไปเรื่อยๆ ก็อยากร้องตาม พอร้องก็รู้สึกมีความสุขในการร้อง"

นั่นคือในฐานะคนฟัง

ส่วนในฐานะนักร้อง-ก่อนจะตอบคำถามนี้ย้งขอย้อน บอกต้องเล่าความรู้สึก ตั้งแต่ครั้งที่ยัง เป็นแค่คนฟัง นั่นคือ

"ในฐานะคนฟัง เรารู้สึกดีที่มีคนร้องเพลง อยากฟังเพลง เพลงเพลงหนึ่งในขณะฟัง มีความสุขจัง ฟังเพลงนี้รู้สึกเศร้า โดนใจจัง บางทีฟังแล้วน้ำตาไหลเอง ก็อยากให้เพลง ของเราให้ความรู้สึกเหล่านั้นต่อคนฟัง ฟังแล้วพยายามร้องตาม ฟังแล้วฟังอีก"

ในวันที่ย้งสมัครตัวเข้ามาเป็นนักร้องน้องใหม่ในวงการนั้น ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่า นอกจาก ผู้ที่ยึดครองพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว แต่ละวันยังมี "น้องใหม่กว่า" เข้ามาอีกอื้อ คำถามคือ เขาจะทำอย่างไรให้ตัวเอง "ยังอยู่ได้"

ย้งนิ่งไปนิด แล้วจึงว่า

"พูดยากเหมือนกัน"

"การอยู่บนถนนเส้นนี้ การร้องเพลงในฐานะที่เป็นคนชอบฟังเพลงแล้วอยากร้องเพลงจริงๆ เริ่มแรกของเราจะเป็นงานศิลปะมากกว่าธุรกิจ แต่นานๆ ไปนี่มันต้องมีธุรกิจ เข้ามา เกี่ยวข้อง ซึ่งถึงตอนนั้นคงเป็นความรู้สึกของความเป็นส่วนตัวของเรามากกว่า"

บอกด้วยว่าในความเห็นของเขา การที่แฟนเพลงจะชอบนักร้องคนไหนน่าจะชอบในความเป็น "ตัวตน" ที่แท้จริงของนักร้องคนนั้นมากกว่า ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีการ "ปรุงแต่ง" ใดๆ

"เพราะการทำงานต้องทำเป็น 10 ปี ถ้าชอบตรงนี้รักตรงนี้อยู่ไปไม่มีปัญหา แต่ถ้าฝืน คงฝืนเป็น 10 ปีไม่ไหว เหนื่อยเหมือนกัน ผมว่าเราเป็นสไตล์ของตัวเรา ให้คนที่ชอบชอบ ที่ความเป็นเรามากกว่า มันจะส่งผลเรื่องเพลงเอง"

ฟังดูดี แต่คงเป็นไปไม่ได้ในธุรกิจดนตรี อันรู้ๆ อยู่ว่าเป็นพาณิชยศิลป์ และมีเงินทองเข้ามา เกี่ยวข้องมหาศาลขนาดไหน?

หากย้งยังคงยืนยันว่าสำหรับเขาแล้ว "ถ้าฝืนจนเกินไป ก็คงอยู่ไม่ได้ มันจะไม่ใช่งานอิสระ แล้ว เพราะการร้องเพลงเป็นงานที่ค่อนข้างใช้ความเป็นตัวเรา ถ้าคิดจะฝืนเราจริงๆ ก็ให้คนอื่นร้องก็ได้ ไม่ต้องให้ผมร้องหรอก ใช่ไหม"

ถึงตอนนี้เทปของย้งวางแผงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไร คำตอบของเขา คือพอใช้ได้

"แต่สิ่งที่ผมอยากได้มากกว่าคือความรู้สึกดีๆ เรื่องรายได้ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วน ที่อยากได้คือความรู้สึกดีๆ ทำงานแล้วคนยอมรับในงานของเรา ตรงนั้นมากกว่า"

กับบรรดาแฟนานุแฟนนั้น ย้งบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นใจ เพราะนับวันจำนวนก็ยิ่งทวีขึ้น

"เวลาเจอพวกเขาผมจะพยายามคุยดี เพราะเมื่อก่อนเคยเจอศิลปินบางคน คือผมไม่ใช่ คนกรี๊ดศิลปิน หรือเข้าไปขอลายเซ็น แต่จะเห็นมีคนเข้าไป แล้วก็เขา ครับ ขอบคุณครับ แล้วก็ไปเลย ต่างคนต่างอยู่ ความรู้สึกของเราคือทำไม ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ถ้ามีเวลาก็น่าจะคุย"

ด้วยเหตุนั้นเมื่อมาเป็น "ศิลปิน" เสียเอง ย้งจึงยึดถือปฏิบัติอย่างที่คิดเสมอมา ยกเว้นแต่ว่า ไม่มีเวลาจริงๆ ก็จำเป็นต้อง ครับ ขอบคุณครับ แล้วไป

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงนี้ ย้งบอกว่า หลายๆ สิ่งที่พบเจอเป็นเรื่อง ที่เขาพอคาดเดาได้ แต่อีกหลายเรื่องก็เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

"เช่นเรื่องแฟนๆ บางคนชอบเรามาก ตามไปทุกที่ ไปที่ไหนก็เจอ ในกรุงเทพฯ หาดใหญ่ อย่างไปอยุธยาเขานั่งรถไฟตามมาจากกรุงเทพฯ ถ่ายรูป 2 ทีแล้วก็กลับ โอ๊ย...ประทับใจ คาดไม่ถึง"


ย้ง กับ "ของไม่ฮิต"

"ผมค่อนข้างบ้าเกม แต่จะเล่นเกมที่ไม่ค่อยฮิต"

"เวลาซื้อเทปเพลงมาฟังก็จะฟังเพลงที่ไม่ดัง เพราะเพลงที่ดังจะได้ฟังบ่อยแล้วทางวิทยุ จริงๆ ผมว่าคนทำเพลงเขาตั้งใจทำทุกเพลง อยากให้คนฟังชอบทุกเพลง ดังนั้นก็จะมีเพลง อื่นที่อยู่ในอัลบั้มซึ่งผมจะซื้อมาแล้วฟังเพลงเหล่านั้น"

เป็นคนประหลาดนี่นา

ย้งยิ้มรับคำแซว แล้วว่า

"ในอัลบั้มนี้มีเพลงเพลงหนึ่งชื่อว่าคนส่วนน้อย เป็นคนทำอะไรที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกัน ซึ่งเป็นนิสัยเราเหมือนกัน เนื้อเพลงจะบอกเลยว่า การลองอะไรใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าเราเป็นคน ประหลาดหรือว่าแหวกแนวคนอื่น แต่อาจจะมีทางใหม่ที่ดีกว่าที่ทุกคนทำก็ได้ แล้วถ้ามัน ไม่ดีจริง จะได้รู้ว่าไม่ดีเพราะอะไร"

หนังสือพิมพ์มติชน หน้า 25 วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9223