เดทแรกไม่เคยลืมเลือน

รู้สึกว่าช่วงนั้นจะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 ที่ ม.บูรพา นะ ผู้หญิงคนนั้นเค๊าเป็นเพื่อนต่างคณะครับ มีเพื่อนของเพื่อนแนะนำให้ผมรู้จัก ตัวเค้าเรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ เอกสังคมศาสตร์ ตอนแรกที่เจอเค๊าก็น่ารักดี คือ หน้าเค๊าจะหวานๆ ออกสไตล์หมวยขาว เค้าเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะมนุษย์ด้วย ผมไม่มีสเป็คนะ ถ้าเห็นแล้วชอบก็คือชอบ ส่นใหญ่ผมจะชอบคนที่นิสัย แล้วก็บุคลิกมากกว่า รูปร่าง หน้าตาจะเป็นแค่ส่วนประกอบ นิสัยของเค้า น่ารักนะครับ หวานๆเหมือนกับหน้าเลย ทำอะไรนุ่มนิ่ม เสียงพูดของเค้าจะเพราะๆหน่อย คำพูดก็เพราะ เค้าไม่ใช่สาวมั่นอะไรมากมาย คือ อยู่ในระดับที่พอดีๆอะครับ คณะเค้ามีผู้หญิงเยอะ แล้วก็หน้าตาดีเกือบทุกคน (หัวเราะ) เพื่อนๆก็เชียร์ว่าน่ารักดี แล้วผมเป็นคนที่เฟรนด์ลี่ สนิทกับคนง่ายอยู่แล้วด้วย เวลาเจอผมก็พยายามหาเรื่องคุยให้มันเยอะๆเข้าไว้ ผมเป็นคนคุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ เพื่อเค้าชวนคุย เพื่อนผมชวนคุยบ้าง ช่วยๆกัน

ความจริงผมจะบอกว่าเค้าเป็นฝ่ายมาปลื้มผมนะครับ พอรู้ก็โอเค แต่ก็ทำตัวไม่ถูกในระดับนึง ผมก็เลยทำให้เหมือนว่าเป็นเพื่อนกัน เวลาคุยจะได้สบายใจด้วย ที่รู้ว่าเค้าปลื้มผม เพราะว่าเพื่อนเค้ามาบอก คือ เค้าสังเกตเรามาก่อนหน้านี้ นานมากแล้ว เห็นว่าเรากินก๋วยเตี๋ยว เวลาไหน แล้วจะไปดักดูเราได้ยังไง (หัวเราะ) เค้าทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัว จนกระทั่งรู้จักกันเค้าถึงเพิ่งจะมาบอก มาเล่าให้เราฟัง เราก็อ๋อเหรอ ตอนนั้นก็รู้สึกดีด้วย แล้วก็เขินด้วย

สำหรับเดทครั้งแรกของผมกับเค้า จำได้ว่าวันนั้นก็ชวนๆกันไปเที่ยว เป็นสถานที่พักผ่อนทางธรรมชาติ ที่วัยรุ่นเค้าชอบไปกัน คือ เขาสามมุกที่บางแสน เราขึ้นไปดูวิวกัน จุดที่ผมขึ้นไปจะเป็นอะไรที่สวยมาก มองไปเห็นแหลมแท่น ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ไปที่นั่น มีไฟที่เกิดจากร้านขายของเต็มไปหมด มีหินโผล่ขึ้นมาจากน้ำ คือ พูดง่ายๆ ที่นี่จะเป็นสถานที่คลาสสิกของหนุ่มสาวมหาวิทยาลัยที่จะขึ้นไปโรแมนติกกันอยู่แล้ว (หัวเราะ) วันนั้นเราไปช่วงประมาณตอนเย็นๆแล้วละครับ ที่ขึ้นไปเวลานี้เพราะว่ามองลงไปเห็นทะเลกับเกาะแล้วสวยมาก เราทั้งคู่คุยกันอยู่นานจนพระอาทิตย์เริ่มตก สักพักผมมองเห็นเส้นทะเลมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหมือนเห็นชัด แต่พอใกล้เข้ามาแล้ว มันจะเบลอๆวิ่งเป็นเส้นตรงเข้ามาหาเรา คือ ความจริงแล้วฝนมันตกไล่มา แต่เรามองไม่เห็นสายฝน เห็นแต่เม็ดผนที่ลกลงในน้ำทะเล พอใกล้เข้ามาอีกหน่อยถึงได้รู้ว่าฝนตก ผมก็เลยต้องรีบลงจากเขา แต่หันมาอีกที คือ เพื่อมันซิ่งไปก่อนแล้ว คือ ตอนมาเราขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นมาสองคันไงครับ ผมก็มากับเพื่อน เค้าก็มากับเพื่อนเค้า แต่ตอนนี้นเพื่อนผมกับเพื่อนเค้าหนีลงไปแล้ว เหลือแค่ผมกับเค้าสองคน ทำไงล่ะ เค้าก็ต้องนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ตากฝนลงมาจากเข้ากับผม ระยะทางไกลพอสมควรเลยนะ แล้วผนก็ตกหนักด้วย ท้องฟ้ามืดมาก ทางก็ชัน รอบๆตัวเป็นป่า อากาศมันก็ค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว ตัวสั่นเลยครับ หนาวมาก

แต่ด้วยความที่เค้านั่งอยู่ข้างหลังเรา แล้วเราก็เป็นผู้ชาย จะมาทำเป็นหนาว ตัวสั่นมันก็ไม่ได้ไงครับ ต้องเก๊กแมนนิดนึง (หัวเราะ) เป็นอะไรที่ได้ฟิลมาก ผมประทับใจมากเลยนะกับเดทครั้งนี้น เหมือนในหนังเลย (หัวเราะ) ผมขับลงมาเรื่อยๆแล้วก็มาหาที่หลบฝน ขับต่อไม่ไหว มันหนายครับ หลบอยู่ซักพักไม่นานเท่าไหร่ฝนก็เริ่มซา ตกหนักแต่ว่าแค่แป๊บเดียว เหมือนฝนตกไล่ช้างอะครับ พอฝนตกปรอยๆไหนก็เปียกแล้ว เราก็เลยตกลงกันว่ากลับเถอะ ผมก็ขับรถไปส่งเค้าที่หอ เสร็จแล้วก็กลับมาที่ห้อง พอเจอเพื่อก็เออๆดี ...... รู้งาน เอ้ย! ไม่ช่ายยยย... (หัวเราะ) ก็บอกว่าแกล้งกันเหรอ ซิ่งมาตอนไหนไม่ยอมบอกเลย

เราคบกันอยู่ประมาณปีกว่า แล้วทุกอย่างก็จบ เค้าเป็นฝ่ายให้มากขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกว่า เริ่มไม่ใช่แล้ว ตอนแรกผมก็ฝืนอยู่เหมือนกันนะ เพราะว่าสงสารเค้า เพราะเค้าก็ดีกับผม แต่เมื่อมันถึงเวลาก็ไม่มีใครไม่เสียใจหรอก ตอนนั้นตัวผมเองก็เสียใจเหมือนกันที่ทำให้เค้าต้องเสียใจ

 
นิตยสาร i-spy No.116