ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รูปแบบ
กลอนบทละคร
ที่มาของเรื่อง
อิเหนาเป็นบทประพันธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
เรื่องนี้ได้เค้าเรื่องมาจากชวา ไทยรับเข้ามาในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ซึ่งพระธิดาคือเจ้าฟ้ากุณฑล ได้ทรงนิพนธ์เรื่องดาหลัง
(อิเหนาใหญ่)ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฏทรงนิพนธ์เรื่องอิเหนาเล็ก แต่ต่อมาได้สูญหายไป
บทละครเรื่องอิเหนาได้รับความนิยมแพร่หลายมากกว่าดาหลัง
ชื่อตัวละครก็จะคุ้นหูกว่าดาหลัง
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง อิเหนา
ซึ่งได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดแห่งกลอนบทละคร คือดีทั้งความ
ดีทั้งกระบวนกลอน ดีทั้งกระบวนสำหรับเล่นละคร
ตั้งแต่วิหยาสะกำได้ชมรูปภาพของนางบุษบาก็หลงรักนาง
และอยากได้นางมาเป็นมเหสี ท้าวกะหมังกุหนิงก็ตามใจลูกส่งทูตไปขอนางบุษบากับท้างดาหา
และเตรียมกองทัพไว้ถ้าท้าวดาหาปฏิเสธก็จะยกทัพไปตีเมืองดาหา
ท้าวกะหมังกุหนิงได้เล่าเรื่องราวและขอความช่วยเหลือจากน้องชาย คือ ระตูปาหยัง
และท้าวประหมัน ซึ่งระตูทั้งสองก็ทูลทัดทาน ขอให้ตรึกตรองดูให้ดี
เพราะท้าวดาหาเป็นวงศ์อสัญแดหวา ซึ่งมีกำลังทหารมากมาย
ทั้งไพร่พลก็ชำนาญในการสงคราม
ท้าวกะหมังกุหนิงก็บ่ายเบี่ยงเลี่ยงตอบว่าการทำสงครามครั้งนี้เป็นการช่วงชิงนางบุษบาจากจรกา
แม้พระอนุชาจะอ้างเหตุผลอย่างไรก็ตาม ท้าวกะหมังกุหนิงก็ยืนยันความตั้งใจเดิม
ไม่เปลี่ยนใจจะทำเพื่อลูก
ฝ่ายท้าวดาหาเมื่อปฏิเสธไม่ยอมยกนางบุษบาให้แล้ว
ก็มีหนังสือไปขอความช่วยเหลือไปหาท้าวกุเรปัน พระเชษฐา ท้าวกาหลังและท้าวสิงหัดส่าหรี
พระอนุชาทั้งสอง
ท้าวสิงหัดส่าหรีเมื่อทราบข่าวก็ส่งทหารไปบอกท้าวดาหาว่าไม่ต้องวิตก
จะส่งสุหรานากงไปช่วย ฝ่ายเมืองกุเรปันท้าวกุเรปันได้มีหนังสือ 2 ฉบับ
ให้ดะหมังนำไปให้อิเหนา 1ฉบับ และให้ระตูหมันหยา 1 ฉบับ แล้วให้กะหรัดตะปาตี
ยกทัพไปสมทบกับอิเหนา ช่วยท้าวดาหาทำศึก
กะหรัดตะปาตีก็ยกทัพไปคอยอิเหนาที่ชายเมืองหมันหยา
ส่วนท้าวกาหลังก็ให้ตำมะหงงกับดะหมังคุมพลยกออกจากเมืองกาหลังมาพบสุหรานากงจากเมืองสิงหัดส่าหรี
สองทัพก็สมทบกันยกไปเมืองดาหา
เมื่อท้าวดาหาปฏิเสธไม่ยอมยกนางบุษบาให้
ท้ากะหมังกุหนิงก็เตรียมจัดทัพยกไปตีเมืองดาหา ให้วิหยาสะกำเป็นกองหน้า
พระอนุชาทั้งสองเป็นกองหลัง ท้าวกะหมังกุหนิงเป็นจอมทัพ
ท้าวกะหมังกุหนิงได้ให้โหรโหรตรวจดูดวงชะตาว่าร้ายดีประกาใด
โหรทำนายว่าดวงชะตาของท้าวกะหมังกุหนิงและวิหยาสะกำนั้นถึงฆาต
ถ้ายกทัพไปในวันพรุ่งนี้จะพ่ายแพ้แก่ศัตรูแน่นอน ให้เว้นไปซัก 7 วัน
แล้วจึงจะพ้นเคราะห์ไปทำศึกได้ แต่ท้าวกะหมังกุหนิงก็มิได้เปลี่ยนความตั้งใจ
ยกทัพไปตามกำหนดที่ตั้งใจไว้