: In between :
|
|
Author
|
liamm |
Disclaimer
|
All of the characters are owned by J.R.R.TOLKIEN,THE LORD OF THE RINGS.This story just a work of author imagination, which didn't mean to spoil the main story or make any profit from it. |
Special Thanks | liamm for this story, this one is a bit hotter than 'In imagine' so I can't decide which I should post, so I post both version to let ppl. share your imagination. |
" In between"
|
|
ค่ำคืนนี้ดวงดาราแห่งเออาเรนดิลส่องแสงสว่างเป็นพิเศษกว่าคืนไหนๆด้วยเป็นคืนแห่งการเฉลิมฉลองของเหล่าพรายจากอิมลาดริส เสียงหัวร่อต่อกระซิกเบาๆดังมาเป็นระยะๆจากใจกลางอุทยานของมินาส ทิริธ นครสีขาวแห่งกอนดอร์ คืนนี้คงจะเป็นคืนที่สุขสันต์ของใครหลายคนแต่คงไม่ใช่เจ้าชายพรายแห่งป่าเมิร์กวูดเป็นแน่แท้ เขาพึ่งกลับมาจากการไปเยือนป่านอกเมืองเมื่อสักครู่นี้เอง งานอภิเษกยังไม่เริ่มขึ้นหากนี่เป็นงานฉลองพิเศษจากเหล่าพรายให้กับอาร์เวน
อีเวนสตาร์ ผู้เป็นธิดาแห่งเอลรอนด์
เมื่อเจ้าชายพรายย่างเท้าเข้าไปในบริเวณลานนั้นก็เห็นคบไฟน้อยๆถูกจุดไว้ห่างอยู่รอบลานกว้าง เสียงขับลำนำแผ่วหวานคลอกับเสียงพิณจากมือของใครบางคนดังกังวานอยู่เบาๆ พรายหนุ่มเหลียวหาสหายคนอื่นๆแล้วก็พบว่าฮอบบิททั้งสี่คนมะรุมมะตุ้มอยู่ที่โต๊ะอาหารโดยมีคนแคระกิมลีร่วมวงอยู่ด้วย ท่าทางของกิมลีรื่นเริงและกำลังหันไปกล่าวอะไรบางอย่างกับโฟรโดที่กำลังตักอาหารเข้าปากอยู่หากเขาไม่เห็นเงาของพ่อมดแกนดาล์ฟในละแวกนั้นเลย เอลรอนด์ผู้รอบรู้นั่งอยู่ตรงกลางเคียงข้างด้วยธิดาคนเดียวของเขาและองค์กษัตริย์ ดวงพักตร์งามหมดจดของอาร์เวนมีรอยยิ้มอย่างเป็นสุขแต่งแต้มอยู่ตลอดเวลา สายตาอ่อนหวานของนางมักแลเลยไปทางบุรุษที่นั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของบิดาอยู่บ่อยๆ
เสียงเพลงพิณแปรเปลี่ยนเป็นรื่นเริงสนุกสนาน พรายหลายคนรอบๆตัวเขาละจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ในทันทีและตรงเข้าไปรวมกลุ่มอยู่ที่กลางลานนั้น ณ ใจกลางพื้นหญ้าเขียวที่สว่างด้วยแสงจากคบไฟและแสงดาว กิ่งไม้ยาวตรงตั้งอยู่กลางลานประดับประดาด้วยดอกไม้เล็กๆสีขาวนวลสลับกับใบเขียวสดของสนป่าพาดพันตลอดความยาวของกิ่งนั้น บนปลายสุดของกิ่งสีน้ำตาลประกอบไปด้วยช่อดอกไม้ชนิดเดียวกันแซมด้วยใบสนและช่อไม้หอมช่อใหญ่ แถบผ้าไหมบางๆสีต่างๆกันทิ้งชายยาวพลิ้วลงมาจากช่อไม้จนจรดพื้น
สายตาของกษัตริย์หนุ่มแห่งกอนดอร์กวาดมาทางที่เจ้าชายพรายยืนนิ่งอยู่ ฉับพลันที่สายตาทั้งคู่พบกันท่ามกลางเสียงสรวลเสเฮฮาของผู้คนรอบข้าง เมื่อดวงตาสีเทาเข้มลึกล้ำประสานกับดวงเนตรสีฟ้าใสแฝงแววเศร้าราวกับท้องฟ้ามีเมฆบดบัง สิ่งต่างๆรอบกายก็เลือนรางไปเหมือนอยู่ในม่านหมอกคลื่นความร้อนก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ณ จุดใดจุดหนึ่งในร่างของพรายหนุ่มรูปงาม สายตาของเอลเลสซาร์มีพลังหลอมละลายร่างของเขาอย่างประหลาดทุกครั้ง
เสียงหัวเราะของเหล่าพรายคนอื่นๆดังอยู่ไกลๆราวกับอยู่ในห้วงความฝัน พรายสาวนางหนึ่งตรงเข้าไปฉุดมือของอาร์เวนให้ออกมาร่วมเต้นรำด้วยกัน รอยยิ้มของนางร่าเริงแจ่มใสนักในขณะที่เอลเลสซาร์ก็ถูกรุนหลังให้เข้ามาร่วมวงด้วย ใครบางคนฉวยมือของเลโกลัสแล้วลากเขาเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น ภาพแห่งความเป็นจริงกลับคืนมาสู่สำนึกของเจ้าชายพรายแห่งเมิร์กวูดอีกครั้งหนึ่ง เลโกลัสเป็นส่วนหนึ่งของวงกลมชั้นนอกที่ล้อมรอบกิ่งไม้สูงกลางลานกว้าง มือของเขามีแถบผ้าไหมอยู่ในมือเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
เท้าของเลโกลัสรู้งานดีว่าจะต้องทำอย่างไรในขณะที่สายตาของเขาสอดส่ายหาเจ้าของดวงตาสีเทาคู่นั้น
เจ้าของไหล่กว้างนั้นยังไม่ยอมหมุนตัวจากไปแต่กลับคล้องแขนของพรายหนุ่มให้ไปทางเดียวกันกับเขา
เลโกลัสดึงแขนที่คล้องกันอยู่ออกก่อนจะส่งแถบผ้าสีสวยให้กับพรายสาวนางหนึ่งที่ผ่านมาแล้วหมุนตัวเข้าไปอยู่ในวงกลมชั้นใน
ดวงตาของเจ้าชายแห่งป่าเมิร์กวูดปิดลง หากเท้าทั้งสองยังคงรักษาจังหวะไว้ ผมสีทองสุกปลั่งกระทบแสงดาวเป็นประกายยามเคลื่อนตัวตามเสียงเพลง เอลเลสซาร์จ้องมองร่างที่หมุนห่างออกไปอย่างร้าวราน
ดวงตาของพรายหนุ่มลืมกว้างขึ้นอีกครา เอลเลสซาร์อยู่อีกฝั่งหนึ่งของวงกลมแล้วในขณะนี้
ร่างสูงของเอลเลสซาร์ย้อนกลับมาอยู่ที่ด้านหลังของเลโกลัส มือหนึ่งของเขายังจับแถบไหมเส้นยาวไว้ในขณะที่อีกมือหนึ่งรั้งเอวของคนตรงหน้าให้เข้ามาชิด พรายหนุ่มรูปงามสะท้านไปทั้งร่างรู้สึกถึงความร้อนตลอดทุกส่วนที่ทาบติดกันอยู่
ริมฝีปากร้อนรุ่มฉวยโอกาสแตะที่ซอกคอขาวนวลอย่างรวดเร็วในขณะที่มือหยาบกร้านของอดีตพรานป่าลูบลงต่ำกว่าเอวเล็กน้อย ถึงแม้จะมีเนื้อผ้ากั้นกลางหากสัมผัสนั้นทำให้ร่างเพรียวของเจ้าชายพรายเกร็งขึ้นทันที
วงกลมทั้งสองขยายขึ้นอีกครั้ง ร่างสองร่างแยกห่างออกจากกันและหมุนไปคนละทิศทาง
ในจิตใจของเลโกลัสโหยหาเพียงสัมผัสที่เขาคุ้นเคย มีเพียงแต่ความปรารถนาในตัวของอดีตพรานป่าชาวดูนาดาน
เอลเลสซาร์จ้องผ่านผู้คนที่กั้นกลางระหว่างเขาและเจ้าชายพราย มองลึกลงไปในดวงตาสีฟ้าที่เลื่อนลอย
เขาจำรสสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มคู่นั้นได้ดี เรียวปากชุ่มชื้นและเรียกร้องเมื่อพบกับปากของเขา
กลิ่นกายหอมกรุ่นติดจมูก เสียงครวญครางแผ่วเบาราวเสียงดนตรีในขณะที่เขาเคลื่อนมือไปบนร่างงดงามขาวนวล
พรายหนุ่มรูปงามรู้สึกเหมือนความว่างเปล่าเข้าจู่โจมจนท่วมร่าง เบาหวิวไปหมดจนมือแข็งแรงคู่นั้นยื่นมาประคองไว้
เจ้าของเสียงส่งสายตาปรามไม่ให้เอ่ยอะไรออกมาในขณะที่เดินนำพรายป่าออกมาจากงานฉลองนั้น
คำกระซิบนั้นแฝงแววคาดคั้นไว้ เรียวปากอุ่นจัดกดลงที่ริมฝีปากของเจ้าชายพราย
เริ่มจากเบาๆในครั้งแรกหากหนักหน่วงขึ้นด้วยอารมณ์ภายใน พรายหนุ่มตอบสนองด้วยอาการที่ไม่ต่างกันนักหากสุดท้ายก็เป็นฝ่ายผลักร่างสูงนั้นให้ห่างออกไป
เสียงของพรายหนุ่มรูปงามแผ่วลงหากอีกฝ่ายไม่ฟังเสียงอะไรทั้งสิ้น ดวงตาสีเทาเข้มวาวโรจน์
มือของเอลเลสซาร์กดร่างของคนตรงหน้าลงบนเตียงนุ่ม ผิวผ่องของเจ้าชายพรายร้อนระอุ ร่างของพรายงดงามนักไม่ว่าชายหรือหญิงแต่สำหรับเอลเลสซาร์แล้ว ไม่มีความงดงามใดจะเทียบได้กับเจ้าของเรือนร่างที่ทอดอยู่เคียงข้างเขาในขณะนี้ เขาสูดดมความหอมหวานจากร่างเพรียวอย่างคุ้นเคยในขณะที่ร่างกายของพรายหนุ่มก็ตอบสนองต่อสัมผัสนั้นโดยไม่เชื่อฟังความคิดเลยแม้แต่น้อย เลโกลัสกระหายสัมผัสอบอุ่นของเอลเลสซาร์และไม่สามารถปฏิเสธมันได้หากในบางซอกมุมของหัวใจเขารู้ว่าเขาจะไม่มีสิทธิในตัวบุรุษผู้นี้อีกแล้วนับจากนี้ตลอดไป
กระแสเสียงแผ่วต่ำวิงวอนอยู่ข้างหู ร่างของเจ้าชายพรายที่อยู่ใต้ร่างแข็งแกร่งสะท้านเมื่อกษัตริย์หนุ่มแทรกเข้าไปในกายของเขาอย่างช้าๆ
เลโกลัสหลับตาลงทั้งความรักและความต้องการปฏิเสธผสมปนเปกันอยู่ในสีหน้าของเขา เสียงครางลึกๆจากเอลเลสซาร์ผสมกลมกลืนกับเสียงไพเราะราวกับดนตรีของเลโกลัสอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้
เมื่อเอลเลสซาร์พลิกร่างเพรียวให้เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าใบหน้างดงามของอีกฝ่ายหนึ่งมีหยาดน้ำตาไหลริน
เจ้าชายพรายแห่งเมิร์กวูดส่ายหน้าช้าๆ
ร่างสูงเพรียวของพรายหนุ่มอิงแอบอยู่ในอ้อมอกกว้างของบุรุษผู้เป็นแสงสว่างในชีวิตของเขาเพียงชั่วครู่แล้วถอยออกห่างออกมา
ใบหน้างดงามมีรอยยิ้มกึ่งเศร้าของพรายหนุ่มแห่งเมิร์กวูดหันมาหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย
เพียงแค่กระพริบตา เงาร่างนั้นก็หายไปราวกับสายลมฤดูร้อนที่พัดผ่านมาเพียงให้ความชุ่มชื่นชั่วขณะแล้วก็จากไป ทิ้งให้กษัตริย์หนุ่มแห่งกอนดอร์นิ่งงันอยู่ภายในห้องกว้างนั้นเพียงผู้เดียว
|
|
Thank you for reading.
|
|
This homepage is owned by noname since 1999.All rights reserved.