: Labyrinth :
|
|
Author
|
Nuinthelewen |
Illustion | A piece of leaf |
Disclaimer
|
All of the characters are owned by J.R.R.TOLKIEN,THE LORD OF THE RINGS.This story just a work of author imagination, which didn't mean to spoil the main story nor make any profit from it. |
Special Thanks | Nuinthelewen for this fiction it's really wonderful one!!!I love the way you write the poem it's make the story complete with the mysterious scent.I love it so much. |
" Labyrinth "
|
|
เสียงหวีดร้องอย่างตื่นตระหนกของเดลลาเว็น หัวหน้านางกำนัลและนางสนอง พระโอษฐ์คนสนิทของราชินีพรายกาลาเดรียล แม่นางแห่งป่าสีทอง ลอธลอริเอนดังขึ้นทำลายความเงียบงัน แห่งรัตติกาลเดือนมืดไปจนสิ้น เมื่อภาพที่เจ้าหล่อนเห็นเต็มตาอยู่เบื้องหน้าของตนในห้องบรรทมของ เจ้านางพรายนั้น คือ... แม่นางพรายโฉมงามผู้เป็นใหญ่แห่งลอธลอริเอนทรุดกายลงนั่งนิ่งอยู่กลางห้องบรรทมที่สว่างไสวไปด้วย แสงเทียนนับร้อยๆดวงในอากัปกิริยาที่สงบนิ่ง เรือนผมสีทองทอประกายวับวาวยามต้องแสงเทียนยาวสยายแผ่ กระจายออกไปทุกทิศทุกทางเช่นเดียวกับอาภรณ์ลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์บางเบาพริ้วที่นางสวมใส่ก็แผ่พาดคลุมพื้นห้อง ดูสว่างไสวประดุจรัศมีแห่งนางพราย ...มันคงจะเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก..ถ้าหากว่าในยามนี้ รอบๆตัวนางมิได้เต็ม ไปด้วยเศษกระจกที่แตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยรายล้อมร่างงดงามนั้นจนทั่วไปหมด และ เศษกระจกเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีสีแดงก่ำราวกับโลหิตของสิ่งมีชีวิต ..แต่ที่น่าตกตะลึงไปมากกว่านั้น คงไม่พ้นภาพ ที่เจ้านางพรายยังคงลูบไล้ชิ้นกระจกที่แตกหักออกเป็นเสี้ยวคมๆบนพื้นห้องอย่างเลื่อนลอย มิไยว่าคมกระจกแหลม ยาวนั้นจะบาดเรียวนิ้วบอบบางขาวผ่องของนางจนต้องหลั่งโลหิตสีแดงดั่งชาดให้เปรอะเปื้อนชิ้นกระจกหลายชิ้น หากแต่ดูราวกับว่า..นางพรายมิได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้นเลยแม้แต่น้อย..
เดลลาเว็นร้องเรียกเสียงหลงพร้อมกับเตรียมจะถลันเข้าไปหา หากแต่เจ้านางพราย ยกมือขึ้นห้าม
นางกำนัลคนโปรดกล่าวด้วยความ เป็นห่วงเป็นใยนายสาวยิ่งนัก ก่อนจะค่อยๆหลบฉากออกไปนอกห้องอย่างระมัดระวัง เลดี้กาลาเดรียลยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น..สองมือเรียวยาวบอบบางที่แม้บัดนี้จะเปื้อนโลหิตจนแดงฉานอย่างน่ากลัว กลับหยิบเอาเศษกระจกมายาชิ้นหนึ่งบนพื้นขึ้นมาลูบคลำอย่างครุ่นคิดพร้อมกับแววตาของนางที่ล่องลอยออกไปสู่ห้วง แห่งมโนนึก...
นางกำนัลสาวคนสนิทเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจระคนหวาดหวั่นต่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
เจ้านางพรายแย้มยิ้มน้อยๆพลางเอื้อมมือเรียวระหงออกไปค่อยๆปลด ผืนผ้าคลุมกำมะหยี่สีดำสนิทดั่งรัตติกาลให้เลื่อนหลุดลงมา เผยให้เห็นวัตถุขนาดใหญ่สีทองอร่ามเรืองรองโชติช่วง ไปทั่วห้องบรรทม.. ช่างเป็นประดิษฐกรรมที่วิจิตรพิสดารพันลึกยิ่งนักสำหรับกระจกโบราณอายุร่วมสองสหัสวรรษ มรดกตกทอดเก่าแก่มาตั้งแต่ ครั้งยุคโบราณกาล ตัวกรอบกระจกเป็นทองคำแท้สุกปลั่งเหลืองอร่ามแวววาวเจิดจรัสราวแสงสุริยันต์ดุนนูนเป็นลวดลายเครือ ไม้และเถาวัลย์พันเกี่ยวกระหวัดกันไปมาเป็นวงโค้งรูปไข่อย่างอ่อนช้อยปราณีตดั่งเทพเนรมิต ตัวบานกระจกสูงตระหง่านเท่า ตัวคน เป็นรูปไข่เช่นเดียวกับกรอบทองคำ ผิวกระจกใสสะอาดปราศจากรอยฝุ่นคราบไคลที่ทำให้มัวหมองแม้เพียงเล็กน้อย ทั้งหมดนี้ วางเด่นเป็นสง่าอยู่บนฐานไม้แกะสลักเป็นลวดลายพรรณพฤกษาซึ่งรองรับกันได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ลงตัวและงดงามหาที่ ติมิได้
เลดี้คนงามอธิบาย ยืดยาว
กาลาเดรียลออกคำสั่งแก่ผู้น้อยอย่างอ่อนโยน
เดลลาเว็นย่อกายถวายคำนับอ่อนน้อมก่อนจะค่อยๆเดินเลี่ยงออกไปจากห้องบรรทมอย่างรู้งานพร้อมกับปิดประตูด้วยความ ระมัดระวัง เมื่อเดลลาเว็นเดินลับตาไปแล้ว แม่นางพรายกาลาเดรียลก็หันเบนความสนใจของนางกลับมายังที่กระจกโบราณตรงหน้าอีกครั้ง "Miroir de la vie, Miroir de la vie, Miroir de la vie, Miroir de la vie..............." คาถาพรายแห่งกระจกมายาพรั่งพรูออก จากริมฝีปากบางรูปกระจับสีกลีบบัวของนางพญาพรายจากช้า..แล้วค่อยทวีความเร็วยิ่งขึ้น..ยิ่งขึ้น..ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ..... ".................App'erance!!!!!!!!!!!!!!!!!!!....................." สิ้นประโยคสุดท้ายของนางพราย กระจกมายาบานใหญ่ตรงหน้าก็ค่อยๆคละคลุ้งไปด้วยม่านหมอกควันสีขาวที่พวยพุ่งหมุนวนรวมกัน จนทึบทึมแล้วจึงค่อยๆจางหายไป....ปรากฏเป็นภาพของคณะพันธมิตรแห่งแหวนทั้งแปดที่เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างสุขารมณ์ภายในเรือน รับรองพิเศษที่นางได้จัดหาไว้สำหรับเป็นที่รับรองแขกพิเศษสุดจริงๆเท่านั้น
ขาดคำ..ภาพสะท้อนในกระจกเงาก็ค่อยๆเคลื่อนที่ไปหยุดตรงเตียงนอนของฮอบบิทน้อยๆทั้งสี่ที่นอนเรียงกันเป็นตับคล้ายกับลูกหมู เล็กๆที่ซุกตัวเข้าหาความอบอุ่นของกันและกันไม่ผิดเพี้ยน ม่านหมอกควันสีขาวคละคลุ้งในบานกระจกอีกครั้งก่อนจะค่อยๆเลือนหาย ไปกลายเป็นภาพของฮอบบิตัน หมู่บ้านฮอบบิทเล็กๆที่แสนจะสงบร่มรื่นของเหล่าฮอบบิทน้อยๆในแคว้นไชร์ บ้านเกิดเมืองนอนของ พวกเขาทั้งสี่คน
นางพรายเจ้าครางออกมาเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบคลำภาพที่กระจกมายา สะท้อนออกมาจากเบื้องลึกแห่งจิตใจของฮอบบิททั้งสี่..มิคาดคิดว่า ฉับพลันที่ปลายนิ้วเรียวยาวสัมผัสถูกผิวกระจก ความปรารถนาและความรู้สึกนึกคิด ทั้งหลายทั้งมวลของฮอบบิทน้อยก็ได้รับการถ่ายทอดเข้ามาในตัวนางโดยสื่อไปถึงใจ อันเป็นสัมผัสที่หกนอกเหนือไปจากประสาทสัมผัส ทั้งห้าทางกายอีกด้วย ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะได้กลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของตนอีกครั้ง ความรู้สึกหวาดกลัวต่อภยันตราย ความคิดถึงบ้าน และความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา ประเดประดังกันเข้ามาพร้อมๆกับความรู้สึกรักพวกพ้อง ความท่วมท้นแห่งมิตรภาพ ความรักความ ผูกพันและความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อกันและกัน ช่างเป็นความรู้สึกที่ปะปนยิ่งนักระหว่างความสงสารและซาบซึ้งซึ่งผลลัพท์ที่ได้มาก็คือ หยาดน้ำตาที่รินไหลอาบสองแก้มอย่างไม่ได้ตั้งใจของนางพรายสาวคนงาม... ความปรารถนาของกิมลีและโบโรเมียร์นั้น...ภาพที่นางพรายเจ้าเห็นในเงาสะท้อนแห่งกระจกมายาเป็นภาพของเหมืองใต้ดินและมินาสทิริธ สองสถานที่ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของหนึ่งคนแคระและหนึ่งมนุษย์ตามลำดับ ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวงามแตะต้องบานกระจกอีกครั้ง.. Labyrinth ก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกแห่งความปรารถนาของเจ้าของมันออกมาให้นางพรายเจ้าได้รับรู้อีกครา... ปรารถนาแห่งกิมลีแทบไม่ได้ต่างอะไรไปจากเหล่าฮอบบิทน้อยเลย คนแคระร่างเตี้ยเองก็ปรารถนาจะกลับบ้านอันแสนอบอุ่นของตัวเอง เป็นที่สุดเช่นกัน หากแต่ของอีกหนึ่งสหายนามโบโรเมียร์กลับแตกต่างออกไป..ความต้องการการได้รับการยอมรับในฐานะผู้ปกครองอย่าง เต็มภาคภูมิของเมืองบ้านเกิดเป็นความปรารถนาซึ่งถูกเก็บกดมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนหยั่งรากลึกกลายเป็นแรงขับดันมหาศาลและทำให้ชาย หนุ่มชาวมนุษย์ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์อย่างเขายินยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความสัมฤทธิ์ผลของปรารถนาแห่งหัวใจ... เมื่อถึงคราวของอารากอร์น บุตรแห่งอาราธอร์น ทายาทสายตรงแห่งอิซิลดูร์ผู้เป็นว่าที่กษัตริย์กอร์นดอร์ ภาพที่ปรากฏให้แม่นางพราย เห็นกลับน่าพิศวงงงงวยนัก เพราะยามนี้บนบานกระจกมายามีเพียงรูปของทางแพร่งสองทางที่แยกห่างออกจากกันโดยมีร่างของชายคนหนึ่ง ยืนมองอยู่ตรงกลางขึ้นมาเท่านั้น ทางซ้ายมือของหล่อนมีภาพของปราสาทราชวังและมงกุฏอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นขัตติยวงศ์ปรากฏ อยู่เลือนลางณ.เบื้องหลัง ส่วนอีกทาง..เป็นสถานที่แห่งความทรงจำซึ่งเจ้านางพรายคุ้นเคยและจดจำได้แม่นยำว่าที่นี้คือ... ป่าเมิร์กวู้ด!!??
นางพรายผู้งดงามให้ติดใจสงสัยในเรื่องนี้เป็นกำลัง..ถ้าเช่นนั้น ไวเท่าความคิด..
ยังไม่ทันจะขาดคำดีเลย พลันแสงสีแดงร้อนแรงก็พุ่งสว่างวาบขึ้นในกระจกตรงหน้าของนางพราย ความร้อนที่พวยพุ่งออกมานอกกระจกทำให้กาลาเดรียลถึงกับ ผงะถอยหลังห่างออกไปเล็กน้อยด้วยความตกใจ และความตกใจก็ยิ่งทวีขึ้นกลายเป็นความตกตะลึงพรึงเพริด..เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า อย่างชัดเจน... เนื้อแนบเนื้อโอ้เนื้อถึงหนัง ฤทธิ์รักเร่าร้อนล้วนเสน่หา รุกรับเริงรื่นล้ำชุ่มฉ่ำนัก ภาพนั้น...แม้นแสนล้านถ้อยคำก็มิอาจใช้บรรยายได้หมด..สีแดงเพลิงแห่งอารมณ์ปรารถนาแรงกล้าสะท้อนตัดกับสีผิวขาวเนียน ละเอียดซึ่งบัดนี้เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อเล็กๆผุดพราวจากกามกิจที่กำลังดำเนินไปอย่างเร่าร้อนถึงแก่น..เครื่องเคราแห่งความปรารถนา ถูกผนึกเข้าหากันจนผสานเป็นหนึ่งเดียว แรงกระแทกกระทั้นแห่งอารมณ์ดำกฤษณาสร้างความเจ็บปวดระคนสุขสันต์สุดยอดแก่ร่างบางที่ตก เป็นฝ่ายรับมาตลอดจนต้องบิดกายเร่าๆพร้อมกับร้องครวญครางออกมาด้วยความกระสันเสียว...ดวงตาสีแมกไม้คลอชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ใสๆซึ่งค่อยๆไหลรินอาบใบหน้าเนียนขาวช้าๆ..แววตาที่จ้องมองมาที่เจ้านางพรายนั้นดูน่าประหลาดยิ่ง..ดูไม่ออกว่า เจ้าของสายตาสีมรกตคู่ งามนี้ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่... กาลาเดรียลไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองเลยแม้แต่น้อยถึงความสัมพันธ์ล้ำลึกเกินกว่าคำว่าสหายระหว่างมนุษย์กับพรายคู่นี้
คำถามร้อยแปดพันเก้าถาโถมเข้ามาในความคิดคำนึงของเจ้านางพรายจนที่สุดแล้ว..นางได้ตัดสินใจสัมผัสบานกระจกตรงหน้าซึ่ง ยังคงลุกโชนโชติช่วงไปด้วยสีแดงร้อนแรงแห่งเพลิงตัณหาและภาพปริศนานั้นไว้อีกครั้งเพื่อรับการถ่ายทอดความรู้สึกแห่งปรารถนาอัน เร่าร้อนของพรายเจ้าเข้ามาสู่ใจตน... ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวยาวขาวละมุนต้องผิวหน้ากระจกมายาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น... เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! กระจกมายาทั้งบานแตกกระจายเสียงดังเปรื่องปร่างแหลกละเอียดลงต่อหน้าต่อตาผู้สัมผัส สร้างความตกตะลึงให้แก่นางพรายเจ้าเป็นอย่างมาก เศษกระจกที่ปลิวอัดออกมาบางส่วนยังได้บาดเอานิ้วมือเรียวขาวบอบบางข้างที่สัมผัสกระจกนั้นเต็มแรงจนโลหิตสีแดงก่ำไหลโกรกเป็น ทางยาว.. ทว่า..หลังจากที่ได้เห็นโลหิตสีแดงฉานน่าสยดสยองของตนเองแล้ว กาลาเดรียลกลับคลายความตกตะลึงให้หายสิ้นไปอย่างน่า อัศจรรย์ใจ สิ่งที่นางทำต่อไป..คือทรุดกายลงนั่งท่ามกลางกองเศษกระจกสีแดงเพลิงโดยไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อยว่าเนื้อหนังมังสา ของร่างกายที่บอบบางงดงามเช่นนางอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ สองมือเรียวระหงของนางพรายกวาดเอาชิ้นกระจกบางส่วนเข้ามา ใกล้ตัวพลางลูบคลำพินิจพิจารณาอย่างเพ่งพิเคราะห์ราวกับจะค้นหาสัจธรรมอะไรบางอย่างกลางกองเศษแก้วที่ดูไร้ค่านั่น... แล้วนาง..ก็ได้พบกับสิ่งที่ต้องการ..
แต่ละชิ้นของเศษแก้วกระจกมายาที่ถูกกวาดมากองรวมกันสะท้อนกับแสงเทียนระยิบระยับในห้องเกิดเป็นเหลี่ยมเป็นมุมต่างๆพร่างพราว นับไม่ถ้วน คล้ายกับจะช่วยอุทธรณ์ให้แทนเจ้าชายพรายว่า จงอย่าได้มองความปรารถนาในเรื่องความรักของข้าแต่เพียงด้านเดียว.... ทุกชิ้นส่วนที่สองมือนางพรายไล้ลูบลดเลี้ยวผ่าน จิตวิญญาณของกาลาเดรียลสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาล้ำลึกแห่งหัวใจพรายเจ้า...
เศษกระจกมายา Labyrinth ในอีกมุมตกกระทบหนึ่งก็ยังพร้อมใจกันถ่ายทอดเรื่องราวความเศร้าโศกทุกข์ระทมในเบื้องลึกแห่งจิตใจเจ้า ชายพรายให้แก่แม่นางพรายเจ้าได้รับรู้ในฐานะของผู้ที่มีหัวอกเดียวกันว่า พราย คือสิ่งมีชีวิตที่งดงามราวเทพสวรรค์ซึ่งราวกับได้รวมเอา ทั้งคำพรและคำสาปไว้รวมกันเป็นรางวัลและโทษทัณฑ์ก็มิปาน คำพรอันแสนประเสริฐยิ่งนัก คือ การมีชีวิตนิรันดร์ ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย อัน เป็นสุดยอดปรารถนาแห่งชนทุกผู้ทุกเหล่า เพียงแต่ว่าชีวิตนิรันดร์จะมีคุณค่าอันใดเล่าถ้าปราศจากผู้เป็นที่รักอยู่เคียงข้าง นี่กระมังที่เรียก ว่าเป็นคำสาปแสนร้ายกาจ เพราะแม้แต่พรายด้วยกันยังยากนักที่จะได้ครองคู่กันอย่างสุขสมหวังสมดังใฝ่ฝัน ยิ่งหากเป็นการข้ามเผ่าพันธุ์อันเป็นสิ่งต้องห้ามแล้ว คำว่าเป็นไปได้แทบจะสิ้นสูญไปเลยทีเดียว เหมือนกับที่หัวใจของเจ้าชายพรายต้องประสบในยามนี้...ความรักต่างเผ่าพันธุ์กับเพศเดียวกัน กับมนุษย์ผู้ชายที่หัวใจมีพันธะสัญญากับธิดาพรายไปแล้วครึ่งใจ ความรักที่ต้องแอบซ่อนเร้นแม้จะผูกพันกันแล้วทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ มันช่างทรมานเสียยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็น!!! แต่ในขณะเดียวกัน อีกแง่มุมหนึ่งที่ Labyrinth สะท้อนออกมาพร้อมๆกันก็ได้ส่งผ่านความรู้สึกดีๆเข้ามาด้วยเช่นกัน...
ใช่...เหมือนอย่างที่เจ้าชายพรายกำลังทำอยู่..เขาเลือกที่จะเป็นผู้เสียสละ เลือกที่จะเจ็บปวดเจียนตายเสียเองโดยยอมเป็นผู้หลีกทางให้ โดยดีเพื่อให้ราชันย์มนุษย์ได้ครองคู่เคียงธิดาพรายอาร์เว็นได้โดยไม่ลำบากใจ..โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของตนเลย...
ความรักความเสียสละที่น่าประทับใจนี้แม้แต่กระจกมายาที่สามารถล้วงลึกถึงปรารถนาของจิตใจผู้คนก็ถึงกับยอมทำลายตัวเองเพียงเพื่อต้องการ จะสื่อผ่านให้นางพรายได้รับรู้และสัมผัสลึกถึงนิยามความรักแห่งใจพรายว่ามีฤทธานุภาพเปี่ยมล้นเพียงใด หยดน้ำตาใสๆร่วงพรูลงมาจาก ดวงตาคู่งามอย่างไม่ขาดสาย ทำไมนางพรายเจ้าจะไม่รู้ซึ้งและ จะไม่เข้าใจ ว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นอย่างไร......ในเมื่อเรื่องราวรันทดใจนี้เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว...
|
|
Thank you for reading.
|
|
This homepage is owned by noname since 1999.All rights reserved.