
โรคต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
![]()
การตรวจพิเศษทางเอ็กซเรย์ เพื่อตรวจไต ( IVP )
การตรวจพิเศษทางเอ็กซเรย์ เพื่อตรวจไต คืออะไร
เป็นการตรวจพิเศษ โดยแพทย์จะฉีดสารทึบรังสี (CONTRAST MEDIA) เข้าไปทางหลอด เลือดดำ สาร ทึบรังสีจะถูกขับออกมาทางไต ขณะที่สารทึบรังสีอยู่ในเนื้อไต จะทำให้เห็นขอบเขต และเนื้อไตได้ชัดเจนขึ้น เมื่อสารทึบรังสีถูกขับออกมาทางปัสสาวะ อยุ่ในกรวยไต ท่อไต และกระเพาะปัสสาวะ จะทำให้เห็นอวัยวะเหล่านั้นได้
ผู้ป่วยที่มาตรวจไต ควรจะต้อง งดอาหารประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง ก่อนการตรวจ เนื่องจากผู้ป่วยที่ได้รับสารทึบรังสี อาจทำให้เกิดอาการแพ้คลื่นไส้ อาเจียนได้ (ดูรายละเอียดได้ในเรื่องสารทึบรังสี) นอกจากนี้ยังมีความจำเป็น จะต้องทำให้ลำไส้ใหญ่สะอาดปราศจากอุจจาระ เพราะลำไส้ใหญ่วางพาดอยู่หน้าไต ถ้ามีอุจจาระอยู่จะทำให้เห็นไต และกรวยไตได้ไม่ชัดเจน การทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ อาจจะใช้ยาระบายหรือการสวนอุจจาระ ก่อนที่จะฉีดสารทึบรังสี เจ้าหน้าที่รังสี หรือแพทย์จะวักประวัติเกี่ยวกัลอาการแพ้ และโรคบางชนิด เพื่อพิจารณาในการเลือกใช้สารทึบรังสี ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ IONIC CONTRAST MEDIA และ NONIONIC CONTRAST MEDIA ดูรายละเอียดได้ในเรื่องสารทึบรังสี) เพื่อลดอัตราอันตรายที่เกิดกับผู้ป่วย
ยาฉีดที่ใช้ในการตรวจเอ็กซเรย์ เช่นการตรวจไต การตรวจหลอดเลือด การทำซีทีสแกน ฯลฯ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า " สี " จริงๆ แล้ว เป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะดูดซึมรังสี X ไว้ทำให้เกิดความทึบในฟิล์มมากขึ้น การฉีดสารทึบรังสี เพื่อประโยชน์ในการแสดงภาพอวัยวะแสดงการทำงานของอวัยวะต่างๆ หรือช่วยในการวินิจฉัย และแยกโรคต่างๆ
สารทึบรังสีที่ใช้ฉีดเข้าในหลอดเลือดดำ ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ชนิด เรียกว่า
คันตามตัว
ร้อนไปตามตัว
มึนศรีษะ
มีผื่นขึ้นตามตัว
อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่จะหายไปเอง แต่ในบางครั้ง เช่นถ้ามีอาการผื่นขึ้น แพทย์อาจจะให้ยาแก่แพ้ร่วมด้วยสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่อาจมีอาการแพ้ได้มากกว่าผู้ป่วยทั่วๆ ไป ได้แก่
อาการผู้ป่วย |
IONIC |
NONIONIC |
| ปกติ | 0.18 % |
0.03 % |
| ไม่มีประวัติแพ้สารทึบรังสี | 0.13 % |
0.03 % |
| มีประวัติแพ้สารทึบรังสี | 0.73 % |
0.18 % |
| มีประวัติแพ้อื่น ๆ | 0.53 % |
0.10 % |
| หอบหึด | 1.88 % |
0.23 % |
| โรคไต | 0.20 % |
0.04 % |
| โรคเบาหวาน | 0.22 % |
0.05 % |
| โรคหัวใจ | 0.53 % |
0.10 % |
| คลื่นไส้ | 4.58 % |
1.04 % |
| ร้อน | 2.29 % |
0.92 % |
| อาเจียน | 2.97 % |
0.45 % |
| ผื่น | 3.16 % |
0.47 % |
| เจ็บตามหลอดเลือด | 0.40 % |
0.05 % |
| หน้าแดง | 1.12 % |
0.16 % |
| ไอ | 0.58 % |
0.15 % |
| หายใจขัด | 0.17 % |
0.04 % |
![]()
เตะขาเหยียดตรง
งอเข่า เข้า - ออก
เตะขาขึ้นตรง ๆ
หมายเหตุ : ทุกๆ ท่าเมื่อมีอาการดีขึ้น อาจใช้น้ำหนักถ่วงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้น
หยุดทันทีเมื่อปวดเพิ่มขึ้น
นั่งแตะขาขึ้นค้างไว้ นับ 1 - 2 - 3 ปล่อย ควรหาที่จับที่มั่นคง แล้วจึงค่อยๆ ย่อตัว(ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่อ้วนมากๆ หรือผู้ที่กล้ามเนื้อเข่าไม่แข็งแรงพอ เพราะอาจพลาดหกล้มได้)
หมายเหตุ : ในขณะที่มีอาการปวด ควรหลีกเลี่ยง ท่านั่งสมาธิ , คุกเข่าพับเพียบ , นั่งยองๆ และขึ้นลงบันได และทางลาด ควรทำเท่าที่จำเป็น
สิ่งที่ควรรู้
ในผู้ป่วยโรคเข่าทั้งหมด ส่วนใหญ่เราจะพบผู้ป่วยที่ปวดเข่าจากเข่าเสื่อมมาก เพราะใช้งานมานาน มักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทยที่ต้องคุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ เป็นท่าที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดในข้อเข่าไม่ดี และเอ็นกล้ามเนื้อถูกยืดมาก ประกอบกับรูปร่างอ้วนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ยาที่จะรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมให้หายขาดนั้น ไม่มี เพราะเกิดจากความเสื่อมของข้อต่อ แต่ช่วยระงับปวดบวม ทำให้อาการดีขึ้น สามารถขยับเขยื้อนได้ แต่ถ้าเราออกกำลังให้กล้ามเนื้อรอบหัวเข่าแข็งแรง กระชับข้อต่อ จะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด การยืน , เดิน , วิ่ง ไม่ใช้การออกกำลังกายที่ดีของเข่า คุณจึงควรได้รับคำแนะนำการออกกำลังกายข้อเข่าที่ถูกต้อง
![]()
อะไรทำให้ต่อมลูกหมากโต
ฮอร์โมนเพศชาย (DHT) เป็นตัวกระตุ้นให้เนื้อเยื่อของต่อมลูกหมากโตขึ้นเป็นเหตุให้รูท่อปัสสาวะเบียดแคบลง อีกทั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อต่อมลูกหมากเข้าผสม ทำให้ท่อปัสสาวะถูกรัดให้แคบเพิ่มขึ้นไปอีก การขับถ่ายปัสสาวะจึงเกิดมีปัญหาขึ้น
การรักษาของต่อมลูกหมาก
ต่อมลูกหมากโตได้ทุกทิศทาง หาดโตออกทางด้านนอกจะตรวจพบได้จาการตรวจทางทวารหนัก โตเบียดเข้าในท่อปัสสาวะ หรือโตเข้าไปกระเพาะปัสสาวะ จะทราบได้จากการตรวจส่องท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ หากโตไปทางด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ ไปกดท่อไตเข้าก็จะทราบได้จากการตรวจทางรังสีดูการทำงานของไต
อาการของโรคต่อมลูกหมากโต
การรักษา
คะแนน 8 19 ส่วนใหญ่จะใช้การรักษาทางยา
คะแนน 20 ส่วนใหญ่จะใช้การรักษาด้วยการผ่าตัด
ความรู้สึกทางเพศอาจลดลงบ้าง อาจมีอาการใจสั่น , หน้ามืด จะเป็นลมเวลาลุกเดิน
ข้อเสีย
ต้องรับประทานเป็นระยะเวลานานกว่าอาการจะดีขึ้น เมื่ออาการดีขึ้นแล้วหากหยุดยาจะกลับคืนมา
การรักษาทางศัลยกรรม
![]()
![]()