ไม้ดอกไม้ประดับไทย


 กล้วยไม้สกุลเข็ม ชื่อวิทยาศาสตร์ Ascocentrum sp. ชื่อภาษาอังกฤษ Orchidaceae ต้นขนาดเล็ก ดอกมีสีสดใส ช่อดอกตั้งตรงรูปทรงกระ บอกมีดอกย่อยแน่นช่อ ให้ดอกพร้อมกันทีละหลายช่อ กลีบ วงนอกและ วงในมีรูปร่างคล้ายกัน ปากติดกับโคนเส้าเกสร หูกระเป๋า (side - lobe) ตั้ง มีขนาดเล็ก แผ่นปากยาวกว่าหู ปลายปากมน รูปร่างคล้ายลิ้น ปากมีเดือยเป็นถุงยาวโคน เดือยคอดปลายขยายใหญ่ ออกดอกตลอดปี พบตามป่าทั่วไปในประเทศไทย ขยายพันธุ์โดยการตัด ยอดชำแยกหน่อ และการเพาะเม็ด


กล้วยไม้สกุลคัทลียา ชื่อวิทยาศาสตร์ Cattleya sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE กล้วยไม้กลุ่มนี้ได้รับความนิยมมาก จัดว่ามีดอกขนาด ใหญ่ที่สุดมีเหง้าแนบไปตามเครื่องปลูกใบเกิดตามปลายลำ ใบหนาแข็งมีกาบหุ้มลำลูกกล้วยบาง ๆ ออกดอกเป็นช่อที่ ปลายลำลูกกล้วย ช่อหนึ่ง อาจมีดอกเดียวหรือหลายดอก กลีบนอก 3 กลีบ ขนาดเท่ากัน กลีบในมักจะใหญ่กว่ากลีบ นอกปากมีขนาดใหญ่ ริมปากมักหยักหรือเป็นคลื่น ขยาย พันธุ์โดยการตัดแยกลำหน้าลำหลัง การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และการเพาะเมล็ด กล้วยไม้กลุ่มนี้ได้รับความนิยมมาก จัดว่ามีดอกขนาด ใหญ่ที่สุด มีเหง้าแนบไปตามเครื่องปลูกใบเกิดตามปลายลำ ใบหนาแข็ง มีกาบหุ้มลำลูกกล้วยบาง ๆ ออกดอกเป็นช่อ ที่ปลายลำลูกกล้วย ช่อหนึ่ง อาจมีดอกเดียวหรือหลายดอก กลีบนอก 3 กลีบขนาดเท่ากัน กลีบในมักจะใหญ่กว่ากลีบนอก ปากมีขนาดใหญ่ ริมปากมักหยักหรือเป็นคลื่น ขยายพันธุ์โดยการตัดแยกลำหน้าลำหลัง การเพาะเลี้ยง เนื้อเยื่อ และการเพาะเมล็ด


กล้วยไม้สกุลช้าง, เขาแกะ ชื่อวิทยาศาสตร์ Rhynchostylis sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE ลำต้นสั้นเป็นไม้อากาศ ใบแข็งหนา อวบน้ำ หน้าตัด ของใบเป็นรูปตัววี ปลายใบเว้าหรือเป็นฟันแหลมไม่เท่ากัน ผิวใบมีทางยาว ๆ สีเขียว แก่ตามความยาวของใบ ช่อดอก ตั้งหรือช่อห้อย โค้งลงรูปทรงกระบอก ดอกแน่นช่อ กลีบ ดอกวงนอกโตกว่าวงใน อาจมีจุดสีม่วงหรือน้ำเงิน หรือไม่มี ปากเชื่อมต่อกับฐานเส้าเกสร เดือยดอกชี้ไปข้างหลัง เส้า เกสรสั้นมีก้อนเกสร 2 ก้อน มีกลิ่นหอม ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตัดยอดชำและการ แยกหน่อ


กล้วยไม้สกุลฟาเลนนอปซิส ชื่อวิทยาศาสตร์ Phalaenopsis sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE ทรงต้นเตี้ย ใบน้อยเรียงสลับตรงข้ามกัน ตามลำต้นใบ กว้างแบนหรือกลม อวบน้ำส่วนกว้างที่สุดของใบอยู่ตอนกลาง หรือค่อนไปทางปลายใบ ดอกมีทั้งขนาดเล็กจนึงใหญ่ มีสีสัน ต่าง ๆ ปากมี 3 แฉก เส้าเกสรค่อนข้างเรียวยาว เกสรตัวผู้มี 2 เม็ด สีเหลือง มีต้นกำเนิดทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ขยายพันธุ์โดยการตัดยอดชำ การแยกหน่อ และการเพาะเมล็ด


กล้วยไม้สกุลแมลงปอ ชื่อวิทยาศาสตร์ Arachnis sp. ชื่อภาษาอังกฤษ Scorpion Orcdid ต้นทรงสูง ชอบไต่ต้นไม้หรือเกาะหลัก ต้นแตกแขนงตาม ข้อข้าง ๆ ลำต้นได้ ปล้องยาว ใบรูปยาวปลายมน ใบห่าง ช่อ ดอกยาว อาจเหยียดตรงหรือโค้งงอ ช่อดอกอาจแตกแขนงได้ กลีบดอกเหนียวและทนทาน กลีบดอกวงนอกและวงในมีรูปร่าง คล้ายคลึงกัน กลีบดอกเล็กแคบ ปลายกลีบขยายใหญ่ ปากเล็ก ติดอยู่กับฐานเส้าเกสรรูปทรงดอกคล้ายแมลงปอ หรือคล้าย แมลงป่อง เจริญเติบโตในที่กลางแจ้งได้ ขยายพันธุ์โดยการตัดยอดชำ การแยกหน่อและการเพาะเมล็ด


กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี ชื่อวิทยาศาสตร์ Paphiopedilum sp. ชื่อภาษาอังกฤษ Lady Slipper เป็นกล้วยไม้ที่สวยงาม แตกกอได้ แต่ไม่มีลำลูกกล้วย หน่อ ใหม่จะแตกตาที่โคนต้นเก่าแต่ไม่มีลำลูกกล้วย หน่อใหม่จะแตก ตาที่โคนต้นเก่า ลำต้นสั้น ใบยาวรีมีสีเขียวหรือใบมีลาย ดอกมี ทั้งดอกเดี่ยวและออกเป็นช่อ ดอกมีรูปร่างกลม กลีบดอกชั้น นอก กลีบบนมักจะใหญ่สะดุดตา กลีบดอกล่าง หรือที่เรียกว่า ปากหรือกระเป๋า มีรูปร่างคล้ายกับรองเท้า ขยายพันธุ์โดยการตัดแยกลำหน้าลำหลังแยกกอ


กล้วยไม้สกุลแวนด้า ชื่อวิทยาศาสตร์ Vanda sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE ต้นและใบเจริญเติบโตออกไปทางปลายยอดเรื่อย ๆ ช่อ ดอกจะออกตามข้อสลับกับใบ ช่อดอกตั้งหรือค่อนข้างตั้ง ก้านช่อดอกยาวและแข็งแรง ดอกมีขนาดค่อนข้างใหญ่และ บานทน กลีบนอก (Sepals) กลีบใน (petals) มีรูปร่าง คล้ายกัน กลีบนอกคู่ล่างมักใหญ่กว่ากลีบอื่นเล็กน้อยโคนกลีบ ดอกคอด ปากมีเดือยสั้น ๆ มีต้นกำเนิดในเขตร้อนชื้น รวมทั้งประเทศไทยขยายพันธุ์โดย การตัดยอดชำ แยกหน่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อและการเพาะ เมล็ด


กล้วยไม้สกุลออนซิเดียม ชื่อวิทยาศาสตร์ Oncidium sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE กล้วยไม้กลุ่มนี้มีลักษณะทรงต้น 2 แบบ คือ มีลำลูกกล้วย กับไม่มีลำลูกกล้วย แต่จะมีแต่ลำต้น เล็ก ๆ สั้น ๆ และมีกาบใบ หุ้มอยู่จนมิด ส่วนยอดลำต้นสั้น ใบมีขนาดใหญ่ ติดอยู่ตามส่วน ยอดลำ ดอกส่วนมากจะมีสีเหลือง หรือพื้นเหลืองลายน้ำตาล เส้าเกสรมีปีกยื่นออกทั้ง 2 ข้าง มีตุ่มไฝที่โคนปากปลายปากใหญ่ เป็นจุดเด่นของดอก มีต้นกำเนิดในเขตอเมริกากลางถึงอเมริกาใต้ ขยายพันธุ์โดยการ ตัดแยกลำหน้าลำหลัง และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ


ล้วยไม้สกุลเอื้องกุหลาบ ชื่อวิทยาศาสตร์ Aerides sp. ชื่อภาษาอังกฤษ Scorpion Orcdid ต้นมีขนาดเล็กกระทัดรัด มีรากอากาศ ใบมีทั้งที่มีลักษณะ กลมและแบนดอกออกเป็นช่อขนาดค่อนข้างเล็กช่อดอกห้อง โค้งงอลง รูปทรงกระบอกมีบางชนิดมีช่อดอกตั้ง ดอกย่อย สวยงาม สีชมพูสด ม่วง เหลือง แดง ขาวอาจประจุดหรือแต้มสีต่าง ๆ เดือยดอกเรียวแหลม กลีบนอกคู่ล่างมักใหญ่ กว่ากลีบอื่นเล็กน้อย มีกลิ่นหอมคล้ายกุหลาบหรือกลิ่นตะไคร้ ขยายพันธุ์โดยการตัดยอดชำและการแยกหน่อ


กล้วยไม้สกุลหวาย ชื่อวิทยาศาสตร์Dendrobium sp. ชื่อภาษาอังกฤษ ORCHIDACEAE เป็นกล้วยไม้สกุลที่ใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ลักษณะ ลำต้นแตกต่างกันไปมากมาย ลักษณะดอกก็แตกต่างกันมาก ดอกมีกลีบนอกบนและกลีบนอกคู่ล่างยาวพอ ๆ กันแต่กลีบ นอกบนอยู่เป็นอิสระ กลีบนอกคู่ล่างจะติดกับฐานของเส้า เกสรซึ่งมีลักษณะยื่นออกมาเรียกว่า "เดือย" (mentum) กลุ่ม เกสรตัวผู้มี 4 เม็ด สีเหลือง พบขึ้นทั่วไปทั้งในป่าโปร่งและป่าทึบของไทย ขยายพันธุ์ โดยการตัดลำแก่ชำ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ