|คำขวัญอำเภอหนองเรือ ...หนองเรือตระการ ...จักสานไม้ไผ่ ...ไก่ย่างทางพาด ...ตลาดกะหล่ำ ...เลิศล้ำพลอยเจียรไน ...พระใหญ่ภูเม็งทอง
    
 

แนะนำอำเภอหนองเรือ

อำเภอหนองเรือ
แผนที่อำเภอหนองเรือ
แหล่งท่องเที่ยวหนองเรือ
  หาดหินกองหนองเรือ
ล่องแพ

แนะนำ กศน.หนองเรือ

ผู้บริหารศูนย์ฯกศน.หนองเรือ
แนะนำ ครู กศน.หนองเรือ
โครงการศูนย์การเรียนชุมชน
  โครงการศูนย์อินเตอร์เน็ตชุมชน
โครงการกลุ่มพัฒนาอาชีพ
โครงการบ้านหวาง
กศน.กับงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น
กศน.กับเกษตรธรรมชาติ
กศน.กับท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
 

เว็บไซต์ใน อ.หนองเรือ

ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ต.บ้านผือ
หนองเรือของเรา
สนง.ประถมศึกษา อ.หนองเรือ
  โรงเรียนหนองเรือวิทยา
  โรงเรียนจระเข้วิทยายน
สถานีตำรวจภูธร อ.หนองเรือ
     
 

เบ็ดเตล็ดทั่วไป

เรื่องควรรู้สำหรับครู กศน.
บทความที่น่าสนใจ
   
     
     


การเป็น "นักบริหารที่ดี" เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท

โดย..พัชรินทร์ เศวตสุทธิพันธ์


     จุดมุ่งหมายของการบริหารงานโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน จะมุ่งใช้ทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่อย่างประหยัด แต่ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเต็มที่ ในจำนวนทรัพยากรการบริหาร ซึ่งได้แก่ คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ และวิธีการจัดการนั้น "คนหรือทรัพยากรมนุษย์" นับว่าสำคัญที่สุด เพราะแม้ส่วนอื่นๆจะขาดแคลนบกพร่องไปบ้าง แต่ถ้า "คน" ดีก็อาจจะทำให้การบริหารงานบรรลุจุดมุ่งหมายได้ เนื่องจากขั้นตอนต่างๆของการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการวางแผน การจัดองค์กร การประสานงานหรือแม้แต่การควบคุมงาน ย่อมต้องใช้คนปฏิบัติทั้งสิ้น

     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นนักบริหารชั้นเลิศในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการบริหารงานบุคคล ทรงตระหนักถึงการใช้คนให้ปฏิบัติงานด้วยความพึงพอใจอย่างเต็มกำลังความสามารถ และร่วมกันทำงานอย่างมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยมุ่งความสำเร็จของงานเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้พลังของการทำงานสูงขึ้น อันหมายถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานนั้นๆ

     ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธีชัยพัฒนา และเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร.ผู้ซึ่งปฏิบัติงานสนองเบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิดมานาน กล่าวถึงการบริหารงานบุคคลของพระองค์ท่านจากพระราชจริยวัตร ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดีของนักบริหารว่า

     นักบริหารจะต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ต้องหมั่นบริหารร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่

     - สภาพจิตใจจะต้องพร้อม คือพร้อมที่จะปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ ไม่มุ่งผลประโยชน์ใดๆ

     - ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ในการปฏิบัติงานไม่ต้องพะวงว่าจะทำไปเพื่ออะไรหรือทำเพื่อใคร แต่ให้ทำในลักษณะการทำสังฆทานไม่เจาะจงผู้รับ ถ้าสามารถทำประโยชน์ให้แก่ผู้ใดได้ จะต้องรีบกระทำในทันที

     - ตัดอัตตา คือไม่ยึดติดในตนเอง แต่มีความสามัคคีในหมู่คณะและมีเอกภาพในการทำงาน

     - มีความเมตตาต่อผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเสมอหน้าและถ้วนหน้า หมั่นดูแลทุกข์สุขการเจ็บไข้ได้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ

     - มีความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ก้มหน้าก้มตาทำงานให้งานคือความสุข โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนอื่น นอกจากความสำเร็จของงานนั้นๆ

     - มีความประหยัด พยายามหาวิธีใช้ของที่มีค่าน้อยที่สุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างอย่างคุ้มทุน ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย

     นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังมีพระราชดำรัสบ่อยครั้งถึงการ "รู้ รัก สามัคคี"ในการทำงาน

     "รู้" ในชีวิตการทำงาน จะต้องเริ่มจากคำว่า "รู้" การจะเข้าไปแก้ไขปัญหาในเรื่องใดๆ จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆก่อนอย่างละเอียดลึกซึ้ง ซึ่งก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระราชดำรัสในเรื่องใด จะทรงศึกษาข้อมูลข่าวสารอย่างมากมาย เพื่อให้ทรง "รู้" ในเรื่องนั้นอย่างละเอียดและลึกซึ้ง

     เมื่อ "รู้" แล้ว จะต้องมีคำที่ 2 ตามมาคือ "รัก"

     "รัก" คือ ความต้องการ ความปรารถนาที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหานั้นๆ ขณะที่เรารู้ว่าปัญหาคืออะไร และทางแก้ไขคืออะไร เราต้องมีความต้องการ ความปรารถนาที่จะเข้าไปแก้ไข

     แต่การเข้าไปแก้ไขแต่เพียงลำพัง คงไม่สามารถดำเนินการใดๆให้ลุล่วงไปด้วยดี จึงต้องมีคำที่ 3

     "สามัคคี" คือการรวมพลังกันเข้าไปแก้ปัญหา ตามความรู้ ความรักที่มีอยู่

     ดังนั้นการ "รู้ รัก สามัคคี" จึงเป็นหลักการบริหารที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวัน ชีวิตข้าราชการ หรือแม้แต่ชีวิตในองค์กร เป็นข้อความที่เรียบง่าย แต่มีความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก

     คุณสมบัติของการเป็นนักบริหารที่ดีเหล่านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประพฤติปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างให้ข้าราชบริพารและผู้ปฏิบัติงานถวาย ได้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ยึดถือ ไม่ยึดติดกับสิ่งใด มุ่งเพียงความสำเร็จของงานที่ทำ ขณะเดียวกันก็ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างสมถะประหยัดมัธยัสถ์ตัดความปรารถนาในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจนหมด มีความถ่อมเนื้อถ่อมตัว รู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความเป็นประชาธิปไตยในการทำงานสูงมาก โปรดที่จะซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่นอยู่เสมอ หากพระองค์ท่านมีแนวพระราชดำริในเรื่องใด แต่มีผู้ไม่เห็นด้วยจะทรงอธิบายอย่างละเอียด เพื่อชี้แจงโน้มน้าวให้บุคคลเหล่านั้นให้ความร่วมมือ เพื่อผลสำเร็จของงาน แม้แต่การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ต่างๆ บางครั้งชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับลงกับพื้นแล้วทรงกางแผนที่ประกอบคำอธิบายจนชาวบ้านฟังเข้าใจ และบางครั้งพระองค์จะทรงรับความคิดเห็นของชาวบ้าน หากเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยทรงคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ อันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของนักบริหาร

จาก นิตยสาร THE EXECUTIVE ปีที่ 6 ฉบับที่ 61 ธันวาคม 2538 หน้า 18 - 20.

 
  ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอหนองเรือ โทร.043294291, 043294856
สังกัด ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดขอนแก่น กรมการศึกษานอกโรงเรียน

จัดทำโดย..ทีมงาน กศน.หนองเรือ ...ติดต่อ surin1@thai.com