ในบรรดาอุปกรณ์แคมปิ้งที่ผมมีครอบครองอยู่นั้น เตาสนามดูเหมือนจะเป็นเสียงข้างมากในสภาอันเนื่อง
จากความชอบเป็นส่วนตัว บวกความหลังฝังใจที่ต้องสรรหาเตามืออาชีพมาใช้งาน... เรื่องมันมีอยู่ว่าใน
สมัยที่เต็นท์โดมยังไม่เป็นที่แพร่หลาย พวกผม(รวมทั้งตาเกิ้นด้วยหล่ะ..อิ อิ) เคยไปกางเต็นท์โดมเด่นเป็น
สง่า 2 หลังอยู่ท่ามกลางเต็นท์สามเหลี่ยมบนเขาหลวงสุโขทัย จนใครที่เดินผ่านเต็นท์ไปมาถึงกับออกปาก
ชมว่าเป็น "พวกนักเดินทางมืออาชีพ" แต่ในเช้าวันนั้น "พวกมืออาชีพ"ก็หอบแฮกๆกับความพยายามใน
การเก็บฟืนที่เปียกชื้นจากน้ำค้างมาก่อกองไฟเพื่อต้มมาม่ากินแต่ก็จุดไม่ติด สุดท้าย แก๊งค์"มืออาชีพ" ทั้ง
หลายก็ต้องแบกหน้าไปขอใช้เตาถ่านที่นักเดินทางท่านอื่นใจดีเอื้อเฟื้อให้....ตั้งแต่นั้นผมก็ถือคติว่า
"อย่าหวังฟืนแห้งๆ ที่กางเต้นท์หน้า" หันมาเสริมบารมีความเป็นนักเดินทาง"มืออาชีพ(ลูกจ้างบริษัท)" ด้วย
การหาเตาสนามมาพกติดตัวใช้งานไม่ให้เสียฟอร์ม
หากจะทำจัดแบ่งเตาสนาม หรือเตาแคมปิ้งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายนั้น เราสามารถจัดแบ่งได้เป็น 2
ประเภทหลักๆ ได้แก่เตาแก๊สกระป๋อง หรือ Canister Stove และเตาน้ำมันหรือ Liquid Fuel Stove เจ้า
เตาน้ำมันเนี่ยก็ยังแบ่งออกหลากหลายชนิดตามชนิดน้ำมันที่ใช้อันได้แก่ เตาน้ำมันก๊าด (Kerosene),
เตาน้ำมันเบนซินเบนซินไร้สารตะกั่ว, เตาสารพัดเขมือบ หรือ Multi-Fuel Stove แต่ในภาคแรกนี้ ผมจะ
ขอเสนอพระเอกสามหนุ่มสามมุมของผม อันได้แก่เตาน้ำมันฟู่เบนซิน 3 รุ่นครับ ส่วนภาคสองจะเป็นเตา
แก๊สกระป๋อง และภาคสุดท้าย ถ้า บก.ตาเก้นยังคงยินยอมให้ตีพิมพ์อยู่ ผมจะขอเสนอเตาสนามที่พระเอก
สุดคลาสสิก ที่เป็นที่พิมพ์นิยมเสมือน Leica M ในโลกของกล้อง นั่นคือเตาฟู่น้ำมันก๊าด Primus และ
Optimus นั่นเอง
หลักการทำงานของเตาฟู่น้ำมันเบนซิน
เตาน้ำมันสนามเกือบทั้งหมดจะเป็นเตาฟู่ หรือ Pressurized Liquid Fuel Stove เนื่องจากเตาฟู่จะให้
พลังงานความร้อนที่สูงกว่าเตาน้ำมันธรรมดา หลักการเริ่มต้นของเตาฟู่คือการสร้างแรงดันในถังน้ำมัน
โดยใช้ความร้อนจาก"ตัวล่อ" หรือแรงคน(ปั๊มสูบลม)เพื่อให้เตาฉีดฝอยน้ำมันออกมาที่หัวเตา และเมื่อทำ
การจุดละอองน้ำมันให้ติดไฟแล้ว เตาก็จะใช้ความร้อนของเตานั่นแหละครับในการให้ความร้อนแก่ท่อ
อุ่นน้ำมัน (Chamber) เพื่อเปลี่ยนน้ำมันให้กลายเป็นไอน้ำมันฉีดพ่นออกมาติดไฟ และแน่นอนไอน้ำมัน
จะผสมกับอากาศได้ดีกว่าอันทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์โดยจะสังเกตุได้จากเปลวไฟของเตาฟู่จะ
เปลี่ยนจากสีส้มและมีควันในตอนเริ่มจุดไปเป็นสีฟ้าที่ไม่มีควัน ด้วยหลักการใช้ความร้อนของหัวเตาเป็น
ตัวสร้างแรงดันน้ำมันนี้ทำให้แรงดันน้ำมันในถังจะมีอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเราดับเตาหรือน้ำมันในถัง
หมดล่ะครับ ไม่จำเป็นต้องจุดตัวล่อหรือปั้มลมให้เหนื่อยแรงอีก(เว้นแต่ต้องการจะจุดเตาใหม่ หรือ
เตารั่ว..อิ อิ)
เตาน้ำมันเบนซิน"ท่านพ่อ"
เตาน้ำมันเบนซินที่ผมมีไว้ครอบครองตัวแรกนี้ได้มาโดยไม่ได้ลงทุนซื้อแต่ประการใดหากแต่แอบจิ๊กของ
พ่อมาใช้และปัจจุบันก็กลายสภาพเป็นมรดกจากพ่อ เตา"ท่านพ่อ"นี้ถือได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกของเตาสนาม
น้ำมันเบนซินเลยก็ว่าได้ครับ และเจ้าเตาตัวนี้เกือบสร้างวีรกรรมให้กับพี่สาวผมในการร่วมเป็นจำเลยเผา
เต็นท์บนภูกระดึงเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพราะเข้าไปทำกับข้าวในเต็นท์ ผมเองก็เพียรใช้เตานี้ทำกับข้าวหลาย
หนแต่ก็ไม่เคยสำเร็จเนื่องจากเตานี้จะดับได้ง่ายมากเมื่อโดนลม...นี่เองที่คงเป็นเหตุผลให้พี่สาวผมเข้า
ไปทำกับข้าวในเต็นท์.... แถมเวลาไฟดับไปแล้วเตาก็ยังคงพ่นฝอยเจ้าน้ำมันออกมาไม่ยอมหยุด (ดังนั้น
เวลาใช้เตานี้ควรอยู่ห่างจากเปลวไฟแหล่งอื่น) ทางแก้ก็ต้องเปิดฝาถังน้ำมัน(ซึ่งร้อน!!) นะครับ เรียกว่า
ใช้เตา "รุ่นพ่อ"ตัวนี้ถ้าไม่ระวังก็เป็นได้นิ้วพองแน่นอน
|