|
ชรัณ
เป็นเด็กที่เกิดจากความไม่รับผิดชอบของพ่อแม่ที่
อายุยังน้อยจึงทำให้เป็นคนเศร้าซึม
พูดน้อย แต่เป็นมีคุณธรรม
มีความรับผิดชอบ
มีความดีงามพอๆกับรูปร่างหน้าตาที่งดงาม
ของเขา
เขาเติบโตมาท่ามกลางความว้าเหว่
แม้เขาจะมีบิดามารดาแต่บิดาของเขาไม่เอาใจใส่
เขารู้แต่เพียงว่าบิดาของเขาอยู่ในฐานะผัวเช่าของผู้หญิงแก่คราวแม่
ข่าวคราวของบิดา
เขาเกรียวกราวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ในฐานะนายแบบหนุ่มที่เฟื่องฟุ้งที่สุด
ของเมืองไทย ชรัณรู้ประวัติของพ่อและแม่จากปากของยายพ่วง
คนแก่ของแม่ที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เล็ก
แต่น้อย
ยายพ่วงเคยทำงานอยู่ในบ้านของคุณหญิงรสมัย
และเล่าให้ฟังว่าพ่อเคยเป็นเด็ก
ที่คุณหญิงรสมัยเลี้ยงมาอย่างลูกหลาน |
ต่อมาท่านขุนตายพ่อก็ขยับฐานะของตนเองด้วยการใช้ร่างกายและความหล่อเหลาของตน
ส่วนแม่ก็เป็นเด็กในบ้าน
และที่เขาเกิดมาได้ก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบตามประสาวัยรุ่นที่อยากลองเรื่องเพศรส
ไม่ได้เกิดจากความรักแม้แต่น้อย
ชรัณ
จึงขาดความศรัทธาในตัวพ่อแม่และไม่เคยมีความอบอุ่น
แม้พ่อของเขาจะให้ค่าเลี้ยงดู
เขาอยู่กับแม่
แม่ก็ต้องหากินตัวเป็นเกลียว
วันๆแทบจะไม่ได้เห็นหน้าค่าตาแม่
ความรู้สึกอบอุ่นที่เขาควรจะได้รับจากพ่อแม่
เขากลับได้รับจากลุงเหิม
คนสวนข้างบ้าน
หลังจากพฎาแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
ชรัณต้องเข้าไปอยู่ในความดูแลของพ่อ
และย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของรมดีภรรยาใหม่ของพ่อ
ส่วนบ้านหลังเดิมนั้นชรัณให้เช่า
เขามาอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยความอึดอัดใจ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความประหลาดในใจเขานั่นคือ
เกลียวไหม
ซึ่งเป็นหลานสาวของรมดี
แต่เขาก็ได้รับการดูถูกเหยียดหยามและเสียดสีจากเกลียวไหมเธอด่าทอว่าพ่อของเขาเป็นแมงดาเป็นผู้ชายขายตัว
ในครั้งแรกเขาโกรธและเกลียดเธอ
แต่ลุงเหิมพูดจาเตือนสติให้เห็นใจคนไร้ที่พึ่งอย่างเกลียวไหม
พ่อของชรัณวางแผนมอมเหล้าชรัณในวันที่รมดีไปเชียงใหม่
และได้โอกาสที่เกลียวไหมเมามาย
ทั้งคู่จึงได้เสียกันด้วยความเมามายไม่ได้สติ
แต่ในความรู้สึกนั้นยังมีความอ่อนหวานซ่อนอยู่เพราะมันมาจากความรู้สึกลึกๆของชรัณ
แอนดริวได้พูดถึงบทของชรัณให้ฟังว่า
ไม่เคยเล่นบทชีวิตที่รันทดอย่างนี้มาก่อนเลย
ดูมันหดหู่จังเลย
ต้องใช้อารมณ์เยอะ
เป็นบทชีวิตเต็มๆ
เล่นตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงโตและมีลูก
ความจริงเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการ
มันก็ท้าทายความสามารถของผมว่าจะทำได้แค่ไหน
แต่ยากจังเลย
ถึงจะยากผมก็จะพยายามเต็มที่ครับ
เรื่องนี้เล่นกับผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์
ผมถือว่าผมโชคดีที่จะได้ประสบการณ์ที่ดี
ไม้เมือง
เป็นละครสะท้อนสังคมอีกเรื่องหนึ่งแม้จะมีฐานะร่ำรวยสักเพียงไหน
แต่เงินก็ไม่สามารถให้ความสุขและความอบอุ่นกับคนที่เรารักได้เสมอไป
ซึ่งบริษัท ทีวีซีน
จำกัดได้นำบทประพันธ์ของ โสภาค
สุวรรณ
มาสร้างเป็นละครโทรทัศน์โดย
เอกลิขิต กำกับการแสดงโดย
สุประวัติ ปัทมสูต
ออกอากาศทางช่อง 3
---------
บทสัมภาษณ์จากชีวิตดารา----------
แอนดริว
เกร็กสัน รับบท "ชรัณ"
แอนดริว : "ที่ผ่าน
ๆ มา
บทส่วนใหญ่ที่ได้รับจะเป็นแนววัยรุ่นสนุกสนาน
เป็นตัวของตัวเอง แต่พอ "ไม้เมือง"
ก็เลยเป็นละครเรื่องแรกของผมที่รับบทหนักแล้วซีเรียสมาก
คือ
ผมต้องเป็นเด็กที่ชีวิตมีปัญหา
แต่พื้นฐานจิตใจดี ก็ยากครับ
ผมอ่านหนังสือเรื่องนี้จบสองรอบ
เพื่อเตรียมตัวลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่อง
เรียกว่าทำการบ้านหนัก
ใช้เวลาในการเตรียมตัวนานกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา
ฉะนั้น
ถือได้ว่าเรื่องนี้ยังใหม่มากทั้งคาแรกเตอร์
ผู้ร่วมงาน และพ่ออี๊ด สุประวัติ
ผู้กำกับก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานด้วยครับ"
ประทับใจอะไรในตัวละครตัวนี้
แอนดริว : "ที่โดนใจเป็นพิเศษสำหรับผมคือตัว
ชรัณ ในเรื่องนี้
จะมีตั้งแต่ช่วงเด็กจนโต
เป็นหนุ่ม
ก็คือช่วงของผมและเรื่อยมาถึงช่วงที่มีลูก
ที่มีลูกเพราะพ่อวางแผน
แกล้งผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อแก้แค้น
ก็เลยมีลูกตั้งแต่วัยรุ่นอยู่
ซึ่งพอผมอ่านบทถึงตอนนี้รู้สึกอินมาก
คือสลดใจตอนที่ต้องทำหน้าที่พ่อคนเดียว
ต้องเป็นคนเลี้ยงดูลูกเองตั้งแต่เกิด
เพราะ"เกลียวไหม"
เกลียดเราสองพ่อลูกมาก
จึงทิ้งให้ ผมเลี้ยงเอง ก็สนุกดี
เป็นอีกอารมณ์หนึ่ง
และที่สำคัญผมได้มีโอกาสสัมผัสกับเด็กแรกเกิดในตู้อบของโรงพยาบาลจริง
ๆ ในเรื่อง
ลูกผมคลอดออกมาก่อนกำหนดจึงไม่แข็งแรง
ด้วยความรักลูกจึงขอหมอเข้าไปนั่งอยู่กับลูกและจับมือไว้ตลอด
ซึ่งวันที่ถ่ายฉากนี้ทางโรงพยาบาลเขามีเด็กแรกเกิดที่ร่างกายไม่แข็งแรงนอนในตู้อบจริง
ๆ
อยู่แล้วคุณแม่ของเด็กเขาอนุญาตให้ถ่ายได้
แต่ห้ามใช้ไฟ
และให้ผมได้เข้าไปอยู่ในห้องได้คนเดียว
ก็ต้องฆ่าเชื้อสวมชุดของที่นั่น
ซึ่งความรู้สึกของผม
ขณะที่นั่งจับมือเด็กมันตื้นตันนะครับ
เหมือนเขาเต็มใจด้วย
คือเด็กนอนลืมตาแป๋วไม่ดิ้น
ไม่กลัวผม นอนนิ่งให้ผมจับ
ก็มีขยับแข้ง ขยับขา
ฉากนี้ถ่ายทำนานเหมือนกัน
เพราะต้องใช้ภาพหลายมุม
ผมรู้สึกดีและผูกพันกับเด็กครับ"
พอได้ทำงานกับพ่ออี๊ด
(ผู้กำกับ) แล้วเป็นอย่างไรบ้าง
แอนดริว : "โอ้โห !
พ่ออี๊ดใจดีมากครับ
เป็นผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำ
แล้วสอนผมเกี่ยวกับอารมณ์ต่างๆในเรื่องนี้
ก็ไม่หนักใจอะไรถึงจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานกับพ่ออี๊ด
ผมก็เลยสบายใจครับ" |