Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : May |1| |2| |3| |4| |5|, 2003


May 1, 2003 ... Part |1| |2|

First day of this trip ... drive a car 889 Km. long from Bangkok to Phuket.

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2546 เป็นวันแรกของการเดินทาง ผมตื่นนอนประมาณ 6 โมงเช้าเนื่องจากต้องออกเดินทางกันเร็วหน่อยเพราะกลัวไปถึงค่ำ พอตื่นมาก็ดื่มกาแฟที่แม่ชงให้ ซึ่งส่วนใหญ่ตอนเช้าผมจะไม่ค่อยทานอะไรนอกจากกาแฟแก้วเดียว หลังจากนั้นจึงช่วยกันขนข้าวขนของที่เตรียมไว้เมื่อคืนไปใส่ในรถ โดยมีรถคู่ใจคือ HONDA CITY 1.5 EXI คันนี้เป็นยานพาหนะที่จะพาเราไปล่องใต้สู่ภูเก็ตดินแดนที่ได้ชื่อว่าไข่มุกแห่งอันดามัน

ก่อนออกเดินทางก็ตรวจเช็ครถซะก่อน ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำมันเครื่อง , ระดับน้ำในหม้อน้ำและในถังพัก , น้ำมันเบรค , น้ำกลั่นในแบตฯ (เพื่อนๆที่เดินทางไกลๆก็ทำอย่างที่ผมทำด้วยนะครับ) ซึ่งตรวจเช็คจนแน่ใจแล้วก็ได้ฤกษ์เดินทางกัน ผมขับออกจากบ้านประมาณ 7.00 น.

 
 
   
       
ขับรถขึ้นทางด่วนบางนาและเลี้ยวซ้ายไปออกดาวคะนอง สักพักก็จะเจอสะพานพระราม 9 หรือที่เราเรียกกันว่าสะพานแขวน (ซึ่งตามหลักวิศวกรรมแล้วมันเป็นสะพานขึง) โดยรวมแล้วการจราจรยังไม่ติด ถนนค่อนข้างโล่ง
 
 
 
พอขับไปได้สักพักถึงสมุทรสาคร ฝนฟ้าไม่เป็นใจเริ่มตกเทลงมาทำให้ถนนที่เริ่มมีรถติดพลอยติดสลับหยุดนิ่งไปด้วยโดยผมต้องลดความเร็วรถลงมาเพื่อความปลอดภัย ใบปัดน้ำฝนใช้อยู่ที่จังหวะ 2 ยังคิดอยู่ใจว่าไปถึงภูเก็ตไม่รู้ฝนจะตกทั้งวันหรือเปล่า
 
         
     
ฝนตกได้ไม่นานพอเข้าสมุทรสงครามฝนเริ่มหยุดแล้วอากาศแจ่มใส พอถึงปากท่อเลี้ยวซ้ายเข้าเขาย้อยรถจะเริ่มติดมากอีกช่วงหนึ่ง และจะติดมากที่สุดในช่วงตัวเมืองเพชรบุรี ว่าไปแล้วทางการน่าจะทำสะพานข้ามแยกต่างๆไปเลยนะครับ ซึ่งจะทำให้รถแต่ละคันไม่ต้องเสียเวลาไปกับการรอสัญญาณไฟเขียวตามแยกต่างๆ พอออกจากตัวเมืองได้ ถนนช่วงเพชรบุรี-หัวหิน ก็จะโล่งและวิว 2 ข้างทางจะสวยดังในภาพครับ
     
           
       
 
เวลาประมาณ 11 โมงก็จะเข้าเขตจังหวัดชุมพรซึ่งถือเป็นจังหวัดด่านจังหวัดแรกในการล่องสู่ภาคใต้ โดยจะมีป้ายบอก "ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดชุมพร...ประตูสู่ภาคใต้" พร้อมกับรูปแหล่งท่องเที่ยว 3 รูปขนาดใหญ่พาดผ่านถนน 3 เลน
           
               
     
ประมาณครึ่งชม.ก็ถึงแยกถนนเพชรเกษม(สาย 4) กับถนนตัดใหม่ไปสุราษฎร์ธานี(สาย 41) เราเลือกที่จะเดินทางไปสาย 41 เพราะถนนดีกว่าและโค้งไม่เยอะเหมือนสาย 4 เดิมที่ผ่านจังหวัดระนองทำให้ทุ่นเวลาเดินทางไปเยอะเหมือนกันครับ ดังเราจากป้ายเราจึงขับรถตรงไป
     
 
 
ระหว่างทางเห็นองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งอยู่แต่ไกลจึงถ่ายเก็บไว้
 
               
     
อันนี้เห็นรถร่วมเส้นทางซึ่งเป็นรถรับส่งคนดูจากป้ายทะเบียนแล้วคงจะไปภูเก็ตเหมือนกัน มีรูปร่างแปลกๆคือโชว์โล่งให้เห็นช่วงล่างไม่ว่าจะเป็นคัสซี เหล็กที่ใช้ดามตัวถัง แหนบ ฯลฯ สงสัยไม่มีเงินซ่อมต่อเลยมาวิ่งหารายได้ซะก่อน
 
 
พอนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงตรงก็ได้เวลาทานข้าวมื้อกลางวันพร้อมกับเติมน้ำมันรถเต็มถัง ซึ่งขับมาได้ 500 กว่ากิโลเมตร เราใช้เวลาทานข้าวแค่ครึ่งชม.ก็เดินทางต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลา

 

           
               
     
พอเข้าเขตจังหวัดพังงาฝนก็เริ่มตกมาอีกโดยจะไม่หนักมาก แต่ก็ทำให้ผมต้องขับช้าๆเหมือนกัน
     
       
     
 
หลังจากนั้นฝนก็หายตก เส้นทางช่วงพังงาจะเป็นเลนสวนรถไม่เยอะและสภาพภูมิประเทศสวยงามมากครับ จากภาพจะเห็นถนนโล่งพอสมควร
           
               
     
อีกภาพหนึ่งที่ข้างทางจะปลูกต้นยางพาราเป็นแนวยาวพอควร แลดูสวยงาม
     
           
       
 
บรรยากาศตอนช่วงบ่าย 3 ครึ่ง ณ ถนนใกล้อ่าวพังงาจะเห็นขุนเขากับเมฆหมอกตั้งอยู่ข้างหน้า
           
               
     
ในที่สุดเราก็มาถึงสะพานเทพกระษัตรีซึ่งเป็นสะพานฝั่งขาเข้าจังหวัดภูเก็ตเชื่อมต่อระหว่างผืนแผ่นดินใหญ่คือจังหวัดพังงากับเกาะซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศคือจังหวัดภูเก็ตนั่นเอง
     
           
             
     
มองออกไปจากสะพานเราจะเห็นทะเลสีฟ้าสวยฝั่งอันดามันครั้งแรกหลังจากเดินทางกันมาเกือบ 9 ชั่วโมง
             
    Continue to Part 2