Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : May |1| |2| |3| |4| |5|, 2003


May 3, 2003 ... Part |1| |2| |3|

Third day ... travel to Phang-nga bay,see Ping Kan and James Bond island.

     

วันนี้เราต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่เวลาประมาณ 6.30 น.เนื่องจากทัวร์ที่เราจองไปทัวร์อ่าวพังงานั้นนัดมารับเราที่ล็อบบี้โรงแรมประมาณ 7.30 น. ซึ่งเราก็ลงมารอก่อนเวลา สักพักรถตู้ก็มาจอดรับเราและไปรับคนอื่นๆอีก 3 ที่ หนึ่งในนั้นเป็นคนไทย 1 คู่ซึ่งตอนหลังเราก็รู้จักกับเขา เป็นคนกรุงเทพเหมือนกันแต่เปลี่ยนทัวร์ฮ่องกงมาภูเก็ตแทนเนื่องจากพิษโรคซาร์ รถตู้มาจอดที่ปั๊มเชลล์เพื่อเปลี่ยนรถไปขึ้นรถบัสต่อไป ในรถบัสมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติคละเคล้ากันไปดังนั้นจึงต้องมีไกด์ทัวร์คอยอธิบายตลอดทาง โดยรถจะข้ามสะพานสารสินไปฝั่งพังงาและเริ่มแวะที่วัดสุวรรณคูหาเป็นที่แรกประมาณ 15 นาที

 
                 
             
วัดนี้ผมไม่ค่อยรู้ประวัติเท่าไรครับ แต่คร่าวๆเป็นวัดที่เก่าแก่พอสมควร ภายในมีถ้ำ และมีลิงปีนป่ายตามต้นไม้ทั้งภายในและภายนอกถ้ำ
   
     
   
ในภาพมีแม่ลิงและลูกลิงปีนป่ายกันขวักไขว่หน้าถ้ำสุวรรณคูหา
     
                 
           
เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำซึ่งคนไทยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแต่คนต่างชาติต้องเสีย 10 บาท ก็จะพบพระนอนประดิษฐานให้คนกราบไหว้
 
           
                 
       
ลึกเข้าไปภายในถ้ำจะมีป้ายบอกทางไปถ้ำแจ้งและถ้ำมืดซึ่งเราก็ลองเดินไปดูก็มืดจริงๆครับ
       
                   
             
หลังจากนั้นเราก็ตรงดิ่งไปอ่าวพังงากัน รถบัสจอดที่ท่าเรือทุกคนลงไปรับเสื้อชูชีพที่ร้านตามที่ไกด์บอกไว้ ใส่เสื้อชูชีพเสร็จทุกคนก็เดินไปยืนรอกันที่สะพานเพื่อรอเรือหางยาวมาเทียบท่าต่อไป    
             
                   
             
   

น้องซีพร้อมลงเรือแล้วค่ะ !

ทัวร์เราจะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มโดยจะลงเรือหางยาว 2 ลำ จัดไปจัดมาลงตัวที่ลำแรกเป็นคนไทยทั้งหมดส่วนอีกลำเป็นคนต่างชาติ

             
                 
           
  ลงเรือแล้วทางคนดูแลจะคอยบอกให้พวกเรานั่งแยกกันทางซ้ายและขวาเพื่อเป็นการบาลานซ์เรือไม่ให้โคลงเคลงเวลาแล่น โดยหนึ่งแถวนั่ง 2 คน ในรูปแถวด้านหน้าเราเป็นพ่อแม่พาลูกสาวคนเล็กมาล่องอ่าวด้วย
           
               
           
   
เรือค่อยๆออกตัวจากท่าอย่างช้าๆ มีกลุ่มเรือหางยาวด้วยกันแล่นออกตามคิวหลายลำ สองข้างทางเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์มีไม้โกงกางขึ้นอยู่ตลอดตามลำน้ำ บริเวณนี้จึงต้องแล่นเรือด้วยความเร็วที่ไม่มากนัก

 

           
                   
             
  แล่นมาได้สักครู่ก็จะต้องลอดถ้ำเพื่อผ่านไปยังลำน้ำใหญ่ต่อไป  
             
                   
           
   
บรรยากาศภายในถ้ำที่ไม่ค่อยมีแสง ด้านบนมีหินย้อยสวยงามเต็มไปหมด
           
                   
             
  มาถึงตอนนี้เรือสามารถเร่งความเร็วได้ น้ำสีเขียวไม่มีคลื่นเนื่องจากเป็นอ่าว ทางขวามือจะมีเขารูปทรงเหมือนช้างจึงได้ชื่อว่า"เขาช้าง"  
             
                   
             
   
ส่วนตรงหน้าเราจะเป็น"เขาหมาจู" เพราะรูปทรงเหมือนหมาจูนั่นเอง
             
                   
             
 
เรือแล่นผ่านเกาะปันหยีซึ่งเป็นที่อยู่ของชุมชนมุสลิม
 
             
               
             
       
เราผ่านเรือลำหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเรือที่มีห้องพักอยู่ด้านล่างและห้องอาหารอยู่ด้านบนลอยลำอยู่นิ่งๆหน้าเกาะปันหยี