หลังจากสอบชุดวิชาครู
พ.ม. ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
และดำรงตำแหน่งติดต่อกันมาถึง ๑๐ ปี มีบทบาททางด้านการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์
โดยพยายามเชื่อมโยงความรู้ทางธรรมให้เข้ากับปัญหาสังคมร่วมสมัย
ในทางด้านการบริหารเคยดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์
ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๖ และลาออกจากตำแหน่งบริหารหลังจากนั้นในสามปีต่อมา
โดยทุ่มเทเวลาและกำลังกายให้กับงานด้านวิชาการ มีผลงานเป็นหนังสือและบทความจำนวนมาก
ทั้งร่วมเสวนาและสัมมนาทางวิชาการ กับนักวิชาการและปัญญาชนร่วมสมัยอย่างสม่ำเสมอ
หนังสือ "พุทธธรรม" ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำเอกของวงการพุทธศาสนา
ได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
จากมหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ๑๐ กว่าแห่ง และได้รับรางวัล
"การศึกษาเพื่อสันติภาพ" จากยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗
ซึ่งท่านได้มอบเงินรางวัลทั้งหมดให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งกองทุนการศึกษาพระธรรมปิฎกเพื่อสันติภาพ
และตีพิมพ์ผลงานหนังสือออกมาอย่างแพร่หลาย
พระ
ป.อ. ปยุตโต ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นตามลำดับ เป็นพระเทพเวที และพระธรรมปิฎก
ซึ่งเป็นนามที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดญานเวศกวัน
ตำบลบางระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และดูแลสำนักสงฆ์สายใจธรรม
บนเทือกเขาสำโรงดงยาง ตำบลหนองแหน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
|