Mainmenu
ประวัติศาสตร์ไทย
ประวัติผู้จัดทำ
ประวัติครอบครัว
การศึกษา
ความประทับใจ
กลับหน้าหลัก

       เมื่อสิ้นแผ่นดินพ่อขุนรามคำแหง  กรุงสุโขทัยเริ่มอ่อนกำลังลงพระมหาธรรมราชาที่1
พระยาลิไทยผู้ปกครองสุโขทัยอยู่ในช่วงประมาณปีพ.ศ. 1890-1913 จึงได้นำพุทธศาสนา
เข้ามาฟื้นฟูการปกครอง หลังจากสมัยของพระองค์แล้วอาณาจักรสุโขทัยเริ่มอ่อนแอลงอย่าง
แท้จริงพอๆกับที่แว่นแคว้นอื่นเข้มแข็งขึ้นล้านนาขยายอำนวจลงมาจนถึงลุ่มแม่น้ำยมน่านแคว้น
ละโว้อโยธยาเข้มแข็งขึ้นจากการร่วมตัวกับสุพรรณภูมิที่ครองอำนาจอยู่เหนือลุ่มแม่น้ำท่าจีนจน
ในที่สุดก็ก่อตั้ง กรุงศรีอยุธยาขึ้นสำเร็จใน ปีพ.ศ.1893 หลังจากนั้นไม่นานอาณาจักรสุโขทัยก
็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา


ยุคกรุงศรีอยุธยา

        เมืองอันยิ่งใหญ่เข้มแข็งนี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำชึ่งกว้างใหญ่กว่าแม่น้ำเซนถึง  3 เท่า
ในแม่น้ำมีเรือสำเภาใหญ่จากฝรั่งเศส  อังกฤษ  ฮอลันดา จีนและญี่ปุ่นมาจอดทอดสมอลอยลำอยู่ 
 บ้านทุกหลังนั้นสร้างด้วยไม้ตั้งอยู่บนเสาสูงลำครองอันเปี่ยมด้วยสายน้ำใหลผ่านมองดูเหมือง
ถนนสุดลูกหูลูกตาพ้นจากหมู่บ้านออกไปเป็นทุ่งนากว้างใหญ่สุดขอบฟ้าหลังทิวไม้ออกไปจะเห็น
หลังคาโบสถ์ชึ่งดูระยิบระยับสรับกับเจดีย์น้อยใหญ่อีกมาก บาทหลวงเดอซัวซี  นักบวชชาวฝรั่ง
เศสนิกายเยชูอิท  ผู้ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้เดินทางมากับตณะทูตของเชอวา
เลีย  เดอโชมองท์ใน ปี พ.ศ.2228 ได้บรรณยายความงามของกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างน่าประทับใจ
ตามตำนานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์     กล่าวว่าพระเจ้าอู่ทองเป็นผู่สร้างกรุงศรีอยุธยาขึ้น
เจ้าอู่ทองทรงเป็นกษัตริย์ครองเมืองอู่ทองอยู่ที่สุพรรณบุรีต่อมาเกิดโรคห่าระบาทขึ้นก็ทรงอพยพ
ผู้คนมาสร้างเมืองใหม่ที่ตำบลหนองโสนแล้วขนานนามพระนครแห่งใหม่นี้ว่า  "กรุงเทพมหานคร
ทวารวดีศรีอยุธยามหาดิลภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ราชธานีนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม  กรุงศรีอยุธยา  
      การสถาปนากรุงศรีอยุธยา : กรุงศรีอยุธยาก่อกำเนิดขึ้นเป็นราชธานีในปีพ.ศ1893 มีหลัก
ฐาน
ว่าก่อนที่พระเจ้าอูทองจะสร้างเมืองขึ้นที่ตำบลหนองโสนบริเวณนี้เคยมีคนอาศัยอยู่ก่อนแล้วมีวัด
ที่สำคัญอยู่หลายวัดโดยเฉพาะที่วัดพนัญเชิงวัดที่ประดิษฐาน  หลวงพ่อโต  พระพุทธรูปปูนปั้นขนาด
ใหญ่แบบอู่ทอง อโยธยาศรีรามเทพนคร  ปรากฏชื่อเป็นเมืองแฝดละโว้อโยธยามาตั้งแต่ช่วงราวปี พ.ศ.
ี1700เป็นตั้นมารัชสมัยของพระองค์นับได้ว่าเป็นยุดของการก่อร่างสร้างเมืองและว่างรูปแบบการปก
ครองขึ้นใหม่สมเด็จพระรามาธิบดีที่1ครองราชได้เพียง19ปีก็ได้เส็ดจสวรรคตกรุ่งศรีอยุธยาได้กลาย
เป็นเวทีแห่งการแยกชิงอำนาจระหว่าง2ราชวงค์
คือ ละโว้-อโยธยาและราขวงค์สุพรรณภูมิ สมเด็จพระ
ราเมศวร โอรสของพระรามาธิบดีที่1ขึ้นครองราชสืบต่อจากพระราชบิดาได้ไม่ทันไรขุนหลวงพระงั่ง
จากราชวงค์สุพรรณภูมิผู่มีศักเป็นอาก็แย่งชิงอำนาจได้สำเร็จ     การแย่งชิงอำนาจผลัดกันขึ้นเป็นใหญ
่ระหว่างสองราชวงค์นี้อยุ่ถึง  40 ปี จนสมเด็จพระนครอินทร์ชึ่งเป็นใหญ่ทางสุพรรณภูมิและสำพันธ
์แน่นแฟ้นอยู่กับสุโขทัย แย่งชิงอำนาจคืนมาได้สำเร็จ
      ยุครุ่งโรจน์กอ่นสงคราม : หลังราชการเจ้าสามพระยาแล้ว กรุงศรีอยุธยาก็เข้าสู่ยุค สมเด็จ
พระบรมไตรโลกนาก 
ชึ้งเป็นช่วงเวลาที่อาณาเขตได้แผ่ขยายออกไปกว้างขวางมีการติดต่อค้าขาย
กับบ้านเมืองภายนอกรวมทั้งมีการปฏิรูปการปกครองบ้านเมืองขึ้นนอกจากนี้ก็ยังได้สร้างระบบศักดินา
ขึ้นอันเป็นการให้กรรมสิทธิ์ถือที่มาได้มากน้อยตามยศในเวลานั้นเองกรุงศรีอยุธยาที่เจริญมาได้ถึงร้อย
ปีก็กลายเป็นเมืองที่งดงามและมีระเบียบแบบแผน   พระราชวังใหม่ได้ก่อสร้างขึ้นอย่างใหญ่โตกว้าง
ขวางส่วนที่เป็นราชวังไม้เดิมกลายเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์  วัดคู่เมืองที่สำคัญตลอดรัชกาลอันยาว
นานของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและสมเด็จพระรามาธิบดีที่2กรุงศรีอยุธยาได้เจริญรุ่งเรืองอย่าง
ต่อเนืองอยู่น านถึง  81ปี
      สงครามไทยกับพม่า;    ประวิศาสตร์หน้าใหม่ อันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งความคับเข็ญ
ยุ่งเหนิงนี้  เริมต้นด้วยการมาถึงของมาถึงของชาติตะวัตกพร้อมกับการรุกรานจากพม่ากรุงศรีอยุธยา
เป็นใหญ่ขึ้น ในขณะที่พม่าเองในยุคของพระเจ้าตะเบงชะเวตี้กำลังแผ่อิทธิลงมาจนยืดเมืองมอญ
ที่หงสาวดีได้สำเร็จ    อยุธยากับพม่าก็เผชิญหน้ากันขึ้น หลังจากพระเจ้าไชยราชาธิราชเสด็จสวรรคต
เพราะถูกปลงพระชนพม่าสบโอกาสยกทัพผ่านด้านเจดีย์ 3องค์เข้ามาปิดล้อมกรุงศรีอยุธยา



   


Page => 1: 2 : 3 : 4 : 5