เครื่องคิดเลข ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทอง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น การซื้อ ขาย เช่า ผ่อน กู้เงินลงทุน ล้วนเป็นการทำธุระกรรมทางการเงินซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของบุคคลโดยทั่วไป จะเป็น นักการเงิน นักเรียน นิศิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการ ข้าราชการ นักธุระกิจ พ่อค้า และ ประชาชน ทุกคนต่างจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ต้องสามารถคำนวณ วิเคราะห์ระบบการเงิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับเป็นทางเลือกในการตัดสินใจ และจัดการกับระบบการเงินของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไทยดีมี ทีม มองเห็นความสำคัญจึงพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นเครื่องคำนวณวิเคราะห์ทางการเงิน หรือจะเรียกว่า เครื่องคิดเลข ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทอง ๆ เครื่องคิดเลขนี้จะช่วยท่าน คำนวณทางการเงินเกี่ยวกับ การซื้อสินค้าระบบเงินผ่อนที่จะต้องจ่ายเป็นงวดแบบระบบเงินผ่อน (Installment) การซื้อรถ หรือเครื่องจักรกลโดยการแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ แบบระบบเช่า (Leasing) หรือการซื้อบ้านและที่ดินโดยการแบ่งจ่ายเเป็นงวดรายเดือนแบบระบบเช่าซื้อ (Hire Purchase) หรือซื้อบ้านแล้วนำไปจำนองกู้เงินจากธนาคารแล้วจ่ายทุก ๆ เดือนแบบระบบเงินกู้ (Loan)
ความสามารถของเครื่องคำนวณวิเคราะห์ระบบการเงิน (Financial Calculator)
- สามารถคำนวณหายอดหนี้ทั้งหมด ยอดเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด
- สามารถคำนวณหาเงินต้น อัตราดอกเบี้ย อายุสัญญา โดยการกำหนดค่าจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ฯลฯ
- สามารถคำนวณได้ทั้งแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) หรือแบบอัตราดอกเบี้ยจริง/ลอยตัว (Effective Rate)
- การจ่ายเงินค่างวดแบบต้นงวด (In Advance) หรือปลายงวด (In Arreas) รวมทั้งการจ่ายค่างวดล่วงหน้า (Prepaid)
- กำหนดเงินดาวน์ (Deposit) มูลค่าซื้อคืน (Purchase Option) อายุสัญญา อายุทางบัญชี ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
ความหมายของศัพท์เทคนิคทางที่ใช้ในการคำนวณวิเคราะห์ทางการเงิน
- เงินต้น (Principal) หมายถึง ยอดเงินกู้/เช่า/เช่าซื้อ/เงินผ่อน คิดคำนวณได้จาก มูลค่าสินพรัพย์ เงินดาวน์ หรือ มูลค่าซื้อคืน
- เงินดาวน์ (Deposit) หมายถึง เงินที่จ่ายไปก้อนหนึ่งตาม % ของมูลค่าสินพรัพย์ เช่น 20 % ของราคาบ้าน
- มูลค่าซื้อคืน (Purchase Option) หมายถึง เงินที่จ่ายซื้อสินพรัพย์คืนเมื่อผ่อนเงินหมดตามอายุสัญญาเช่า (Leasing) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะคิดจากมูลค่าซากของสินทรัพย์ เช่น การซื้อรถเทรคเตอร์แล้วผ่อน แบบเช่า มีอายุสัญญา 3 ปี ดังนั้นราคามูลค่าซากเท่ากับ มูลค่าราคารถเทรคเตอร์หักด้วยค่าเสื่อมทั้งหมดใน 3 ปี (อายุสัญญา) หรือถ้าอายุสัญญา 2 ปี ก็จะทำการหักด้วยค่าเสื่อมทั้งหมดใน 2 ปี
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed หรือ Flat Rate) คือ การคำนวณโดยใช้อัตราดอกเบี้ยที่จะผ่อนไปคำนวณหายอดหนี้ทั้งหมด (Total outstanding) แล้วหารด้วยจำนวนงวดที่จะผ่อนก็จะได้เป็นยอดเงินผ่อนแต่ละงวด
- อัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) คือ วิธีการคิดดอกเบี้ยโดยใช้อัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาในการผ่อนชำระแต่ละงวดมาคำนวณหายอดหนี้ทั้งหมด (Total outstanding) แล้วหารด้วยจำนวนงวดที่จะผ่อนก็จะได้เป็นยอดเงินผ่อนแต่ละงวด ค่าของอัตราดอกเบี้ยนี้จะเป็นค่าของอัตราผลตอบแทนในการลงทุนนั้นเอง หรืออัตราดอกเบี้ยจริง ค่าของอัตราดอกเบี้ยนี้จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) ดังนั้นในการพิจราณาอัตราดอกเบี้ยในการทำธุระกรรมทางการเงินควรจะพิจราณาเปรียบเทียบการคิดอัตราดอกเบี้ยชนิดเดียวกัน คือจะต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย Effective Rate กับ Effective rate หรือ Flat Rate กับ Flat Rate และให้คิดพิจราณาอยู่เสมอว่า อัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) นั้นจะสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) เช่น ท่านซื้อสินค้าเงินผ่อนที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 10 % ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) ที่เป็นอัตราผลตอบแทนในการลงทุนประมาณ 19 %
- การจ่ายเงินค่างวดแบบต้นงวด (In Advance) การจ่ายเงินงวด ณ วันที่ที่มีผลทางสัญญา เช่น สัญญามีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2543 วันที่จะต้องจ่ายค่างวดที่ 1 คือวันที่ 1 มกราคม 2543 และวันที่ 1 ของเดือนถัดไปสำหรับงวดที่ 2
- การจ่ายเงินค่างวดแบบปลายงวด (In Arreas) การจ่ายเงินงวด ณ วันที่สุดท้ายท้ายของงวดจ่าย เช่น สัญญามีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2543 วันที่จะต้องจ่ายค่างวดที่ 1 คือวันที่ 31 มกราคม 2543 และทุกวันที่สิ้นเดือนของงวดถัดไป
- การจ่ายค่างวดล่วงหน้า (Prepaid) เช่น ต้องจ่ายค่างวดล่วงหน้า 1 งวด ผู้กู้หรือผู้ผ่อนจะต้องจ่ายค่างวด 1 งวดก่อน ณ วันที่ที่สัญญามีผลบังคับใช้
- มูลค่าทรัพย์สิน (Asset Value) คือมูลค่าทรัพย์สินที่ซื้อ/เช่า/เช่าซื้อ
- อายุสัญญา (Term) คือจำนวนงวดที่จะต้องผ่อน//เช่า/เช่าซื้อ
- อายุทางบัญชี (Account Term) คือจำนวนปีที่ใช้คิดค่าเสื่อมของทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ เครื่องจักรกล ฯลฯ
- ค่าเสื่อม (Depreciate) คือค่าเสื่อมของทรัพย์สินแต่ละงวด ซึ่งใช้คิดคำนวณในการผ่อนแบบ (Leasing) ซึ่งระบบนี้ใช้วิธีคิดค่าเสื่อมแบบ Sum of the Year Digit
- ค่าปรับเศษ (Adjust Value) เป็นค่าปรับเศษในการคำนวณ เช่น ค่าปรับเศษมีค่า เท่ากับ 1 หมายถึงปรับค่าเศษสตางต์ที่น้อยกว่า 1 บาท เป็น 1 บาท หรือถ้าค่าปรับเศษมีค่า เท่ากับ 0.50 หมายถึงให้ระบบปรับค่าเศษสตางต์ที่น้อยกว่า จาก 1 - 49 สตางต์ เป็น 0.50 บาท เป็นต้น
การใช้เครื่องคำนวณวิเคราะห์ระบบการเงิน (Financial Calculator)
การคำนวณระบบเงินกู้ (Loan) เป้นการคำนวณหาเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้น
- อัตราออกเบี้ย
- จำนวนงวดที่ผ่อน
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด เพื่อคิดดอกเบี้ยตามระเวลาที่ค้างเงินต้นอยู่ เช่น 1 เดือน ถ้าผ่อนรายเดือน
การคำนวณระบบเงินผ่อน (Installment) คำนวณหาเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้นของยอดเงินผ่อน
- เงินดาวน์
- อัตราออกเบี้ย
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- จำนวนงวดที่ผ่อน (อายุสัญญา)
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี
การคำนวณระบบเช่าซื้อ (Hire Purchase) คำนวณหาเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้นของยอดเช่าซื้อ
- เงินดาวน์
- อัตราออกเบี้ย
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- จำนวนงวดที่ผ่อน (อายุสัญญา)
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี
การคำนวณระบบเช่า (Leasing) คำนวณหาเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้นของยอดเช่า
- มูลค่าซื้อคืน
- อัตราออกเบี้ย
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- จำนวนงวดที่ผ่อน (อายุสัญญา)
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี
การคำนวณอัตราดอกเบี้ย (Interest) ใช้ประโยชน์ในการคำนวณหาอัตราดอกเบี้ย ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้น (เช่า/เช่าซื้อ/กู้/เงินผ่อน )
- มูลค่าซื้อคืน/เงินดาวน์
- เงินที่ต้องจ่ายแต่ละงวด
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- จำนวนงวดที่ผ่อน (อายุสัญญา)
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี
การคำนวณหาอายุสัญญา (Term) ใช้ประโยชน์ในการคำนวณหาอายุสัญญาหรือจำนวนงวดที่จะต้องผ่อน ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- เงินต้น (เช่า/เช่าซื้อ/กู้/เงินผ่อน)
- มูลค่าซื้อคืน/เงินดาวน์
- เงินที่ต้องจ่ายแต่ละงวด
- อัตราออกเบี้ย
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี
การคำนวณหาเงินต้น (Principal) ใช้ประโยชน์ในการคำนวณหาเงินต้น (เช่า/เช่าซื้อ/กู้/เงินผ่อน)
ยอดเงินที่เป็นส่วนเงินต้น และยอดเงินที่เป็นดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด รวมทั้งยอดหนี้คงเหลือแต่ละงวดซึ่งเป็นผลที่ได้จากยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดหักด้วยส่วนเงินต้นที่จ่ายแต่ละงวด โดยการกำหนด
- มูลค่าซื้อคืน/เงินดาวน์
- เงินที่ต้องจ่ายแต่ละงวด
- อัตราออกเบี้ย
- คิดดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยจริง (Effective Rate) หรือแบบคงที่ (Fixed Rate)
- กำหนดวิธีการจ่ายแบบปลายงวด หรือต้นงวด
- จำนวนเงินงวดที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเช่น จ่ายล่วงหน้าไป 1 งวด
- จำนวนงวดที่ผ่อน (อายุสัญญา)
- ระยะเวลาจ่ายเงินต่องวด (เดือน/วัน)
- อายุทางบัญชี