พระศิวะ
|
พรแห่งศิวะ แม้จะเป็นมหาเทพที่ขึ้นชื่อลือชาว่าทรงประทานพรให้ใคร ๆง่ายดายนักหนา แต่ถึงอย่างไร ก่อนที่จะทรงประทานพรให้ผู้ใด พระศิวะจะทรงพินิจพิจารณาดูให้ถ่องแท้ก่อนเสมอ เมื่อเห็นว่าดีงามจริงแท้ก็จะประทานพรให้บุคคลผู้นั้นโดยไม่มีเงื่อนไขว่าจะเป็นนักพรต โยคี ฤษี ดาบส ชาวบ้านธรรมดา เทพเทวะหรือแม้แต่สรรพสัตว์ สรรพอสูรทั้งหลายทั้งปวง แต่ดูเหมือนว่าในบางครั้งบางครา พรพระศิวะก็มักจะกลับกลายเป็นเรื่องเป็นราวโกลาหลมิใช่น้อย เป็นต้นว่าในคราหนึ่ง พฤกาสูร ยักษ์ตนหนึ่งนั้นได้เฝ้าบำเพ็ญภาวนา อยู่ในศีลในธรรมสม่ำเสมอเป็นเวลานานปี และการบำเพ็ญพรตนั้นก็พลีแด่พระศิวะมหาเทพ พฤกาสูรนี้มิใช่อสูรธรรมดาๆแต่เป็นถึงโอรสของพระกัศยปะเทพผู้ใหญ่องค์หนึ่งของสรวงสวรรค์เลยทีเดียว เมื่อเวลานานนับปีผ่านไป พระศิวะ ณ เขาไกรลาสทรงเห็นว่าอสูรตนนี้สรรเสริญบูชาพระองค์อย่างแน่วแน่ และบำเพ็ญตบะแก่กล้าไม่มีว่อกแว่กเหลวไหลแม้แต่น้อย พระองค์จึงเสด็จลงมาประทานพรให้ โดยพรนั้นก็คือให้พฤกาสูรนั้นมีมืออันเป็นเพลิงกรด หากมือแตะบนศีรษะผู้ใด ผู้นั้นจะถึงแก่มอดม้วยมรณาเพราะถูกฤทธิ์เดชเพลิงกรดจากมือของพฤกาสูรเผาไหม้ให้เป็นจุลไปในทันทีไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นเทพหรือผู้มีอิทธิฤทธิ์เพียงใดก็ตาม เมื่อพฤกาสูรได้พรแล้วก็แสนจะดีอกดีใจนัก แทนที่จะไปลองของดีกับผู้อื่น กลับคิดวิปริตกำริบ คิดจะลองของกับมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ พฤกาสูรทูลพระศิวะว่า อยากรู้ว่าพรนี้มีผลจริงแท้ประการใดใคร่ขอวางมือลงบนพระเศียรของพระศิวะสักหน่อยเถิด จะได้เกิดผลให้ได้ประจักษ์ พระศิวะถึงกับตกพระทัย ไฉนอสูรตนนี้จึงพิเรนทร์เช่นนั้น แต่พรของพระองค์นั้นศักดิ์สิทธิ์นัก ให้ไปแล้วจะลบล้างก็มิอาจกระทำได้ เมื่อจะถูกทดสอบเช่นนั้น พระศิวะก็ทรงกลับหลังหันแล้ววิ่งหนีทันที พฤกาสูรผู้เคยเป็นยักษ์แสนดี บัดนี้กลายเป็นยักษ์ลามปรามพยายามวิ่งไล่ตามจะเอามือแตะเศียรพระศิวะให้ได้ เหตุโกลาหลนี้บังเอิญล่วงรู้ถึงพระนารายณ์หรือพระวิษณุมหาเทพผู้เป็นเสมือนผู้พิทักษ์อาณาจักรสวรรค์ พระนารายณ์จึงทรงแปลงกายเป็นชายหนุ่มธรรมดามายืนขวางพฤกาสูรแล้วก็เอ่ยถามว่าจะวิ่งไล่จับใครกันหรือ พฤกาสูรก็ตอบตรง ๆว่า ตามหาพระศิวะเพื่อทดสอบพร พระนารายณ์ในร่างมานพน้อยรูปงามจึงแสร้งว่า จะตามหาพระศิวะทำไม อยากรู้ว่าพรนั้นสัมฤทธิ์ผลจริงแท้แค่ไหนก็ไม่ต้องไปแตะพระเศียรของพระศิวะหรอก ก็ลองเอามือแตะหัวตัวเองก็คงจะได้รู้แล้วว่าพรจะบังเกิดผลเป็นจริงแท้แค่ไหนอย่างไร พฤกาสูรคงฉลาดน้อยไปสักหน่อย เมื่อฟังแล้วก็เห็นฟ้องด้วยกับคำพูดหลอกล่อของพระนารายณ์ในที่สุด พฤกาสูรคงจะฉลาดน้อยไปสักหน่อย เมื่อฟังแล้วก็เห็นฟ้องด้วยกับคำพูดหลอกล่อของพระนารายณ์ ในที่สุด พฤกาสูรจึงเมือแตะลงบนหัวของตัวเอง บัดดลนั้น พรพระศิวะก็สัมฤทธิ์ผล เพลิงกรดจากมือของพฤกาสูรก็ลุกโซนเผาไหม้พฤกาสูรจนมอดม้วยมรณาไปในบัดนั่นเอง พระศิวะทรงถอนพระทัยโล่งอก แล้วทรงให้สัจจะว่าวันหน้าวันหลังจะช่วยพระนารายณ์เป็นการตอบแทนบ้าง คนผู้นั้นก็คือ หนุมาน นั่นเอง ! ซึ่งน้อยคนนักที่จะทราบว่า หนุมาน คือ พระศิวะส่วนใหญ่พวกเราจะทราบกันดีว่าพระนารายณ์ทรงอวตารไปถึง 10 ปางด้วยกัน แท้จริงนั้น พระศิวะก็เคยอวตารไปเพื่อเฉพาะกิจเช่นกัน นอกจากเรื่องของพฤกาสูรแล้ว พรของพระศิวะที่เคยประทานให้ "ตรีปุรำ"ยักษ์ระดับเจ้าครองนครนั้นก็ได้เกิดเรื่องราวสะเทือนสวรรค์ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะพรนั้นคือให้ตรีปุรำ เป็นอมตะ ใครผู้ใดก็มีอาจฆ่าให้ตายได้ ต่อมาตรีปุรำกำเริบเสิบสาน กลายเป็นยักษ์อัตรพาลเกะกะระราน แม้กระทั่งเทพเทวะทั้งปวงจนปั่นป่วนเดือดร้อนกันไปทั่ว พระศิวะทรงปราบด้วยองค์เอง แต่ก็มิอาจสังหารได้ เพราะตรีปุรำมีพรวิเศษจากพระองค์เองเป็นเกราะป้องกัน ตรีปุรำยังมีศิวลึงค์ศักดิ์สิทธิ์ของพระศิวะคุ้มกายไว้อีกด้วย พระนารายณ์จึงทรงคิดหาอุบายช่วยพระศิวะ พระนารายณ์ทรงแปลงกายเป็นนักบวชผู้ทรงศีล ไปขอบิณฑบาตศึวลึงค์จากตรีปุรำ ยักษ์ตรีปุรำนั้นก็ถวายให้ด้วยดี เพราะเดิมในใจก็เป็นยักษ์ที่มุ่งในศีลในธรรมมาก่อน เมื่อตรีปุรำไร้ศิวลึงค์ พระศิวะก็ทรงกล้องแก้วส่องมาต้องกายของตรีปุรำจนเกิดเพลิงลุกไหม้เผาตรีปุรำมอดเป็นจุลไปได้ในที่สุด ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เด่นดังไม่แพ้กัน นั่นก็คือเรื่องของนนทุก ยักษ์ชั้นผู้น้อยที่ถูกเทพเทวะข่มเหงบ่อย
ๆจนเจ็บช้ำน้ำใจนัก พระศิวะจึงประทานพรวิเศษให้นนทุกมีนิ้วเพชร ถ้าชี้ไปยังผู้ใด
ผู้นั้นก็จะด่าวดิ้นสิ้นใจตายทันที ต่อมานนทุกได้ใจ ใช้นิ้วเพชรเที่ยวได้ชี้ใครๆจนตายสิ้น
เป็นที่เดือดร้อนกันทั่วสวรรค์ พระนารายณ์จึงรับอาสามาจัดการ ทรงอวตารเป็นนางเทพอัปสรผู้งดงามล้ำเลิศ
มาหลอกล่อให้นนทุกร่ายระบำรำฟ้อนตามนางในหลากหลายท่วงท่าลีลา ด้วยเหตุฉะนี้นนทุกจึงไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ผู้โด่งดังเป็นคู่ปรับของพระนารายณ์ในกาลต่อมา เรื่องวุ่น เช่นนี้ก็มีที่มาจากพรของพระศิวะนั่นเอง แต่พรวิเศษที่ทรงประทานให้แก่คนดี ๆก็มีมากมาย ใครที่มีความอดทน เป็นคนดี และศรัทธาในการบูชาพระองค์อย่างมุ่งมั่น จะได้รับการประทานพรวิเศษจากพระองค์เสมอไป
|