:: ท. เที่ยว ::

» ซำบายดี…ลาว
» ของฟรีที่ สมุย
» จดหมายเหตุกรุงศรี ฯ
:: บ. บันทึก
:: ล. ลิงค์
:: ก. เกสบุค
:: ม. เอวเมว
:: ฮ. โฮม

เสาร์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2546

ตี 5 ผมลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟัน แล้วรีบขับรถไปหลังมอ เพื่อซื้อขนมมาทิ้งไว้บนโต๊ะ เผื่อว่าเพื่อนตื่นมาจะหิว และทิ้ง โน้ต ไว้บนโต๊ะให้เอ๋ รูมเมทผู้ขันอาสา รับภาระเลี้ยงดูปูเสื่อแทนผม และอีกใบสำหรับโนริโอะ “ To..Norio I am sorry to leave you alone today. I have to go back home for hours for my passport. I will come back soon, around midday to 2 p.m. My friend, A, will take you for breakfast. If you have any problem, please call me. Sama P.S Snacks are on the desk. เป็นเช้าที่เร่งรีบและเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ผมโทรศัพท์กลับบ้านเพื่อนัดแนะให้ทางนั้นฝาก passport มากับน้า เพื่อที่จะประหยัดเวลาการเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่งบนรถผมถือโอกาสนอนเอาแรง การรอคอยอะไรสักอย่างมันเป็นความทุกข์ที่ผมเหลืออดมาก ผมรอ รอ และรอ รอจนระบบขับถ่ายในร่างกายปั่นป่วน จำเป็นต้องหาที่ขับออก วัดคือสถานที่ดับทุกข์ที่ดีที่สุดเสมอ เมื่อใดเมื่อไม่มีทางออกจกหันหน้าเข้าวัด แล้วจะมีทางออกดี ๆ ให้กับคุณ พอดีกับน้า ผมมา และดูท่าว่าผมจะทันเวลารถเที่ยว 4 โมงเช้าพอดี และอีก 2 ชั่วโมงครึ่งก็คือการนอนบนรถอีกเหมือนเดิม เอ๋ โทรมาเช็คว่าถึงไหนแล้ว เพราะเจ้าตัวเริ่มหิวเหลือเกิน หากเป็นเรื่องกิน เอ๋ ไม่เคยลืมหรอกและยิ่งเป็นของฟรียิ่งแล้วใหญ่ ผมบอกเอาไว้ว่าจะพาไปกิน ปลาเผาส้มตำ โดยผมเป็นเจ้าภาพเอง บ่ายโมงหลังจากผมกลับถึงมหาลัยก็ได้ เฮโลกันไปร้านปลาเผาร้านประจำ มีแขกเพิ่มอีกรา คือ น้อย ไม่เป็นไรวันนี้ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณก็แล้วกันนะ อาหารอร่อยและดูท่าทาง โนริโอะ เพื่อนผมจะอร่อยด้วยเพราะว่า ซัดเอา ๆ ยังกะไม่เคยกินมาก่อนเลย กระทั่งผักกับน้ำจิ้มก็หมด คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมว่ากินเหลือเป็นการเสียมารยาท เห็นจะเป็นจริงอย่างที่ว่า “ Oishi desu ka?” ผมทดลองภาษากับแก และได้รับการพยักหน้าหงึก ๆ เพราะว่าเจ้าตัวไม่อาจคายผักออกจากปากแล้วมาตอบ โออิชิ เดสสึ ได้ เห็นสภาพการกินแล้วก็น่าตกใจ เพราะทั้งเหงื่อทั้งน้ำตา ไหลออกมา แต่ก็ยังไม่ยอมที่จะเลิกจิ้มผักกับน้ำจิ้ม จนทุกอย่างหมดเกลี้ยงนั่นล่ะ จึงได้พากันหยุด เมื่อเทียบความสามารถในการกินแล้ว เอ๋ คงจะแพ้ โนริโอะ แหง ๆ อนิจจาไม่เคยเห็นญี่ปุ่นกินข้าวมาก่อน ไอ้ผมก็นึกว่าจะกินน้อย กินพองาม ….. เมื่อหายร้อนหายเผ็ดกันแล้ว ก็ตกลงกันว่าจะเข้าเมืองไปเดินเล่นกัน และอยากถ่ายสติกเกอร์ไว้เป็นที่ระลึกด้วย ก็เห็นโนริโอะโชว์ให้ดูแล้ว คิดว่าแกคงอยากจะมีเพิ่ม เราก็เลยพาไปเดินห้าง ฆ่าเวลา “ Fairy Kid Contest “ ประจวบเหมาะเหลือเกิน ลากตัวโนริโอะไปยืนดูเด็กแสดงอะไร ต่อมิอะไร ก็สนุกและตลกไปอีกแบบนึง เป็นการฆ่าเวลาด้วยวัฒนธรรมไทย หลังจากเริ่มมีอาการเบื่อแล้วก็ได้ถ่ายสติกเกอร์ สมใจอยาก พอใจกันแล้วก็ออกจากห้าง แยกทางกับเอ๋และน้อยที่ตรงนั้น ผมพา โนริโอะ เดินไปเรื่อย อยากพาไปดูตลาดสดและแกก็อยากดูด้วย ตลาดเรากับตลาดเขาต้องแตกต่างกันแน่ ๆ อยากรู้ว่าคนเมืองไหนอยู่กินกันอย่างไร ต้องไปดูที่ตลาด ที่ ๆ วิถีชีวิตผู้คนหลากหลาย นั่นปลาดุก นั่นผัก นั่นผลไม้ และนั่นก็กบ เขียด และ นี่คือ Ant’s Egg (ไข่มดแดง) ไข่มดแดงคงเป็นสิ่งอัศจรรย์ของโลก ที่ชาวญี่ปุ่นไม่รู้ว่ามันกินได้ แชะ ๆ …. ขอถ่ายรูปหน่อยนะป้า …เจ้าของกระจาดไข่มดแดงวัย 50 ยิ้มให้ และเชื้อเชิญให้เราถ่ายรูป เหล่าไข่สีขาวนวลที่กองอยู่ในกระจาด นอกจกนั้นก็ยังเชื้อเชิญให้ลองชิมดู เอ้า ๆๆ…ชิมเลย ๆ นี่ ๆ อันนี้สุกแล้ว โนริโอะก็ลงมือ ทันที หยิบ ๆ แล้วยัดเข้าปาก บอกว่า ไม่ค่อยเท่าไหร่ อันสุกนี้มันกว่า ก็เลยอุดหนุนป้าแกไป 10 บาท ตลาด ดูไป ๆ ก็มีชีวิตชีวาดีนะ ผมเองก็ชอบเดินเล่นในตลาดสดอยู่แล้ว เหม็น ๆ คาว ๆ บ้างก็ไม่ว่ากัน โนริโอะอยากจะลองกิน ต้มเส้นร้านข้าง ๆ ตึกในตลาด ผมก็เลยพานั่งแหมะลงแล้วสั่งมาให้แก 1 ถ้วย ซดฮวบบบ…. แบบไม่มีตะเกียบ แล้วก็ยกถ้วยซดอีกอย่างเอร็ดอร่อย ผมมองแล้วให้กลืนน้ำลายเอื้อก ๆ จ่ายเงินแล้วก็พาเดินต่อไปในตลาด ดูเหมือนว่าเพื่อนผมจ จะให้ความสนใจกับอะไรที่สด ๆ เป็นพิเศษ ยังกะว่าที่บ้านไม่เคยเห็นยังไงยังงั้น หรือไม่มันก็อาจจะมีเชื้อปอบอยู่ก็ได้ ดูเหมือนว่าการพาโนริโอะ ทัวร์ตลาดเหมือนกะว่าเป็นการเปิดตัว F4 เพราะแม่ค้าแม่ขายจะชวนคุย และเซ้าซี้ให้ผมคอยแปลไทยเป็นอังกฤษ ตลอด บอกแกหน่อยว่า ป้ามีลูกสาวสวยนะ…. เป็นคำขอร้องจากป้า ขายปลาช่อน และปลาดุก หลังจากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในตลาด ผมสังเกตเหล่าแม่ค้าสมัครเล่น ที่วางของขายตามริมฟุตบาทจะมีอัทยาศัยดีกว่าแม่ค้ามืออาชีพแถว ๆ เขียงหมู หรือร้านของทะเลเป็นไหน ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรายหรอกนะ เดินเล่นในตลาดจนเย็นและปวดขา เราพากันโดขึ้นรถ 2 แถวกลับเข้ามหาลัย ดูท่าโนริโอะคงจะเหนื่อยเพราะเห็นหลับบนรถ หัวโยกไปโยกมา เกือบจะฟาดกะราวเหล็ก เหน็ดเหนื่อยใช่เล่นเหมือนกันนะกับหารเดินเล่น ตกเย็นก็พาไปกินข้าวที่ร้าน กังสดาล จัดการสั่ง ไก่มะนาวซอสครีมให้และผมห่อหมกทะเล บวกกับชาเขียวไข่มุกที่แกคงจะพอใจ และพาไปเล่นเนทต่อ
กลับไปหน้า...รวมวัน

วันที่ 3 ยัง ณ. ขอนแก่น