Wine Station
Wine Station
Main Page | Wine Test 01 | Wine Test 02 | Wine Test 03 | Wine Test 04 | Wine Test 05 | Wine Test 06 | Wine Test 07 | Wine Test 08

ไวน์โลกเก่า...กับไวน์โลกใหม่
ถิ่นไวน์โลกเก่า-Old World Wine

ถิ่นไวน์โลกเก่า.. ประเทศใน ถิ่นไวน์โลกเก่า ที่เป็นแหล่งปลูกองุ่นทำไวน์ มีดังต่อไปนี้

ฝรั่งเศส รู้จักปลูกองุ่นทำไวน์ก่อนยุคอาณาจักรโรมัน เป็นถิ่นไวน์ที่สำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนถือเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว ถิ่นไวน์ที่สำคัญคือแคว้น Bordeaux ได้ชื่อว่าเป็นราชาไวน์แห่งโลก และแคว้น Burgundy ก็ถือว่าเป็นราชินีแห่งไวน์ โดยมีแคว้น Cote du Rhone แคว้น Alsace และแคว้น Champagne ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

อิตาลี ถือเป็นถิ่นไวน์อีกแห่งที่รู้จักทำไวน์มาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะกรุงโรมสร้างเสร็จในปี 732 ก่อน ค.ศ. ก็พบว่าชาวโรมันเก่งในการทำไวน์มานานแล้ว ปัจจุบันอิตาลีมี 20 แคว้นที่ทำไวน์ออกมามากมาย จนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีประชากร 58 ล้านคนอยู่ในวัยทำงาน 32 ล้าน ในจำนวนี้ 5 ล้านคนล้วนทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องไวน์ทั้งสิ้นจนงบประมาณของประเทศ 11 % มาจากภาษีไวน์ ถิ่นไวน์สำคัญคือ แคว้นเพียดมองต์ (Piedmont) ถือเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีแคว้น Tuscany เป็น อันดับสอง ส่วนไวน์ที่เป็นตัวเอกได้แก่แคว้น Veneto แคว้น Trentino Alto Adige แคว้น Friuli แคว้น Lombardy แคว้น Emilia Romagna แคว้น Umbria แคว้น Latium แคว้น Apulia และเกาะ Sardinia เป็นต้น

เยอรมนี..เป็นถิ่นไวน์โบราณที่ไวน์มีชื่อเสียงในเรื่องกลิ่น เพราะไวน์ทุกขวดล้วนมีกลิ่นสุดยอด รสชาติยอดเยี่ยมทั้งสิ้น ถิ่นไวน์ 11 เขต 11 แคว้น ล้วนชุมนุมกันอยู่สองฝั่ง แม่น้ำ Rhein และ Mosel

สเปน... แผ่นดินแห่งกระทิงดุ สาวเซ็กซี่ ชายหน้าเข้ม เป็นประเทศที่ผลิตไวน์ได้มากเป็นอันดับสามของโลก รองลงมาจากอิตาลีและฝรั่งเศสก็คือสเปน ชาวสเปนรู้จักทำไวน์มาทุกครัวเรือนหลายพันปีแล้ว ถิ่นไวน์ก็ไม่ซับซ้อนนัก ยอดไวน์ที่ต้องการของชาวโลกคือ จากเขต Penedes เขต Rioja เขต Mavarra เขต Ribera del Fuero เขต La mancha เขต Valencia และเขต Ardalusia

โปรตุเกส.. โด่งดังที่สุดคือ การผลิตไวน์ตระกูล Port ยอดไวน์ที่เก็บได้ร้อยปี นอกจากนั้นยังผลิตไวน์แดง ไวน์ขาว และโรเซ่ ประเภท Still Wines ได้ดีไม่แพ้ถิ่นไวน์ใดในยุโรป

สำหรับถิ่นไวน์อื่น ๆ เช่น ฮังการี ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ กรีก บัลแกเรีย ประเทศในแถบบอลข่านและยุโรปตะวันออกทั้งหมด ต่างถือเป็นถิ่นไวน์โลกเก่าทั้งสิ้น

ถิ่นไวน์โลกใหม่-New World Wine

ถิ่นไวน์โลกใหม่... ดินแดนร่วมสมัยและเริ่มจะเป็นสุดยอดแห่งไวน์ มีดังนี้

แคลิฟอร์เนีย สหรัฐผลิตไวน์ได้มากเป็นอันดับหกของโลก โดยมีรัฐแคลิฟอร์เนียทำไวน์ได้ถึง 96 % ของประเทศ เขตทำไวน์สำคัญของรัฐนี้ก็คือ เขตNapa County เขต Mendocino และเขต Sonoma County โดยเฉพาะเขต Napa County ถือว่าเป็นสุดยอด ซึ่งเขตนี้ยังแบ่งเขตย่อยออกไปอีก 4 เขต โดยมีเขตย่อยชื่อ Napa Valley ถือเป็นเขตไวน์ระดับสุดยอดมากมาย

ชิลี ประเทศนี้ มีไวน์ตั้งแต่ปี 1535 แต่ไวน์เพิ่งจะมามีชื่อเสียงจริงๆ ในปลายศตวรรษที่ 19 ถิ่นไวน์ของประเทศนี้แบ่งเป็นสามภาคคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีภาคกลางซึ่งเป็นถิ่นลุ่มแม่น้ำ Maipo ถือเป็นถิ่นไวน์ที่มีคุณภาพมากที่สุด

ออสเตรเลีย ไวน์ออสซี่ผงาดขึ้นมาอย่างไม่ธรรมดา เป็นคลื่นลูกใหม่ แม้ทั้ง 7 รัฐ จะผลิตไวน์ได้ถ้วนทั่ว แต่ที่เป็นดาวเด่นจริงๆ ได้แก่ รัฐนิเซาท์เวลส์ มีเขต Hunter Valley ที่ถือว่าสุดยอด ส่วนรัฐวิคตอเรีย มีเขต Yarra Valley เป็นดาวเด่น รัฐเซาท์ออสเตรเลีย มีเขต Coonawarra เขต Adelaide Hills เขต Adelaide Plains และเขต Barrossa Valley เป็นดินแดนแห่งไวน์ของประเทศนี้

เซาท์แอฟริกา ไวน์จากประเทศนี้กำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยชาวดัชต์เป็นผู้จุดประกายไวน์ขวดแรก กำเนิดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1659 คือยี่ห้อ Groot Constantia จนทุกวันนี้ผ่านไปเกือบ 400 ปี ไวน์ยี่ห้อนี้ก็ยังมีชื่อเสียงไม่ถดถอย เขตไวน์แอฟริกาใต้มี 12 เขต แต่ที่เป็นสุดยอด คือไวน์จากเขต Constantia เขต Paarl เขต Stellenbosch เขต Franshhock และเขต Robetson

ความแตกต่างระหว่างไวน์โลกเก่าและไวน์โลกใหม่

ความแตกต่าง.. ระหว่างไวน์โลกเก่าและไวน์โลกใหม่

กระบวนการผลิต ไวน์โลกเก่า ยึดอยู่กับหลักการ Tradition จนเป็นประเพณีที่จีรังยั่งยืน มีการทำไวน์ด้วยวิธีการเก่าๆ สไตล์ของไวน์แบบเดิมๆ ถิ่นไวน์แห่งไหนเคยทำไวน์แบบใดก็ทำแบบเก่าซ้ำๆ ซากๆ มาจนชั่วลูกหลาน ไวน์โลกใหม่ มีลักษณะ Innovation ใช้กรรมวิธีผลิตไวน์แบบใหม่ ไม่ติดยึดอยู่กับอะไร มีการเปลี่ยนแปลงอยูเสมอ อะไรที่ทำง่ายขายคล่อง ตลาดกำลังเรียกร้องต้องการ ผู้ทำไวน์โลกใหม่ก็จะรีบผลิตออกมาสนองใจคนดื่มไวน์ ดังนั้นไวน์องุ่นแต่ละแห่งจึงมีการปลูกองุ่นหลายพันธุ์ และผลิตไวน์ออกมาเกือบทุกชนิดครบวงจร

ชื่อยี่ห้อของไวน์ ไวนโลกเก่า นอกเหนือจากแคว้น Bordeaux ที่ใช่ชื่อ Chateau มาตั้งชื่อเป็นยี่ห้อไวน์อย่างจำเพาะแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อตำบล หมู่บ้าน และแคว้นมาตั้งชื่อไวน์ เช่นยี่ห้อ Vose Romagnaee ยี่ห้อ Chambertin ยี่ห้อ Musigny Clos la Roche ยี่ห้อ Barbaresco ยี่ห้อ Barolo ยี่ห้อ Gattinara และยี่ห้อ Chianti ล้วนเป้นชื่อตำบล หมู่บ้านโดยมีผู้ผลิตใช้ชื่อยี่ห้อเหล่านี้เป็นสิบๆ รายดังนั้นใครจะดื่มไวน์แต่ละยี่ห้อต้องศึกษามาล่วงหน้าว่าอันไหนผลิตได้ดีกว่า นอกจากนั้นไวน์โลกเก่าบางถิ่นก็นำชื่อพันธุ์องุ่นมาตั้งเป็นชื่อยี่ห้อไวน์เช่น ยี่ห้อ Nebbiolo ยี่ห้อ Barbera ยี่ห้อ Dolcetto ซึ่งเป็นไวน์อิตาเลียน ยี่ห้อ Retsina ซึ่งเป็นไวน์กรีกเป็นต้น โดยมีบริษัทไวน์ผลิตเมรัยภายใต้ยี่ห้อต่างๆ เหล่านี้แต่ละยี่ห้อ อย่างมากมาย ดังนั้นใครจะซื้อไวน์โลกเก่าเหล่านี้จึงต้องศึกษามาก่อนล่วงหน้าเช่นกัน ส่วนไวน์โลกใหม่ ฉลากไวน์อ่านง่ายเข้าใจทันที โดยไวน์ยี่ห้อหนึ่งก็มีเพียงเจ้าของคนเดียว และมักจะตั้งตามชื่อไร่องุ่น หรือเจ้าของไวน์ โดยไม่มีไวน์ของคนอื่นมีชื่อซ้ำ แถมในฉลากยังบ่งบอกทำมาจากองุ่นอะไรผสมด้วยองุ่นชนิดไหน บางขวดยังมีฉลากหลังบอกเวลาที่ไวน์สุก (Peak) วิธีการดื่ม และต้องเปิดให้หายใจกี่นาที สรุปแล้ว ไวน์โลกเก่าเป็นจอมลี้ลับ ไวน์โลกใหม่เป็นจอมเปิดเผย

เป้าหมายของการผลิต ผู้ผลิตไวน์โลกเก่า มีปรัชญาอันล้ำลึกหนักแน่น มุ่งมั่นที่จะผลิตไวน์ให้มีกลิ่นรสออกมาอย่างซับซ้อน มีกลิ่นรสระดับ Terroir ให้ได้ ใครจะดื่มไวน์โลกเก่าให้เปรมสุขจะต้องเป็นมืออาชีพแห่งการดื่มไวน์ จะค้นพบกลิ่นรสอันหลากหลายได้ถ้วนครบ เหมือนกับฝึกเพลงคลาสสิก ไม่ผิดเพี้ยน ส่วนไวน์โลกใหม่ มุ่งมั่นผลิตไวน์ให้ถูกปากผู้ดื่ม โดยเน้นความหอมของกลิ่นผลไม้นอกจากนั้นยังเน้น กลิ่นโอ๊ค กลิ่นวนิลลาเพราะกลิ่นเหล่านี้คนดื่มไวน์มือใหม่หัดดื่ม ชิมปุ๊ปเป็นชอบปั๊ป

กลิ่นรสของไวน์ ดังได้กล่าวไว้ เป้าหมายของผู้ผลิตไวน์โลกเก่า เน้นความซับซ้อนนอกจากมีกลิ่นผลไม้ กลิ่นผัก กลิ่นหญ้า ยังมีกลิ่นหนังสัตว์ กลิ่นกล่องซิการ์ กลิ่นไม้อื่นๆ กลิ่นดิน กลิ่นหิน กลิ่นลึกๆ ของสารอาหารจากใต้ดิน คนที่ไม่ใช่นักดื่มไวน์จริงๆ อาจค้นหาไม่พบความสุนทรีและไม่ติดใจไวน์โลกเก่าง่ายๆ ผิดกับไวน์โลกใหม่ อุดมด้วยรสหอมของผลไม้ ใครดื่มปุ๊ปเป็นพึงพอใจทันที

องุ่นทำไวน์.. ไวน์โลกเก่าจะปลูกองุ่นพันธุ์อะไร ในเขตใด แห่งไหน จะถูกกำหนดไว้ค่อนข้างตายตัว จนองุ่นพันธุ์นั้นๆ คุ้นเคยกับดินและอากาศ เฉพาะถิ่น จึงให้ผลผลิตอย่างมีคุณภาพเต็มที่มานับได้หลายสิบศตวรรษแล้ว ส่วนไวน์โลกใหม่ต่างเสาะแสวงหากำไรจากการค้าไวน์สูงสุดทำไวน์เพื่อเม็ดเงิน ดังนั้นไวน์แต่ละเขตแต่ละไร่จึงปลูกองุ่นสารพัดพันธุ์ โดยขยายพันธุ์องุ่นดังมาจากยกุโรปดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่ บริษัทไวน์แต่ละยี่ห้อจะผลิตไวน์ ออกมาสารพัดชนิด เพราะไม่มีกรอบอะไรมาตีขวางกั้น

ปรัชญาแห่งการทำไวน์.. ผู้ผลิตไวน์โลกเก่าทำไวน์เพื่อศิลปะแม้จะเห็นไวน์โลกใหม่ร่ำรวยอย่างไร ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจหันมาผลิตไวน์แบบโลกใหม่ แต่กลับสร้างตำนานแห่งความอลังการในสไตล์เดิมๆ ของตนเองไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนไวน์โลกใหม่เป็นเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ มีการใช้สารเคมีเข้ามาช่วยและผลิตไวน์โดยปรัชญาทางการค้า

ผู้ผลิตไวน์ ไวน์โลกเก่าไม่ได้อาศัยชื่อเสียงของผู้ปรุงไวน์ หรือผลิตไวน์ แต่อาศัยชื่อเสียงของไร่องุ่นที่สั่งสมมายาวนานใครเป็นผู้ผลิตไวน์ มาอยู่ไร่นี้ก็ต้องมีหลักการเดิมๆ ทั้งสิ้น

การปรุงไวน์ ไวน์โลกเก่าทำไวน์โดยอาศัยคุณภาพขององุ้นล้วนๆ ไม่การปรุงแต่งเสริมรส เป็นไวน์ที่ยึดติดกลิ่นรสตามธรรมชาติ ไวน์โลกใหม่มีการปรุงแต่งเสริมรส ถ้าองุ่นมีน้ำตาลน้อยก็จะใช้น้ำเชื่อมเจือผสมเข้าช่วยไปกในขณะหมัก แถมยังมีการใช้ซัลเฟอร์เร่งการหมักแลรักษาความสดของไวน์อีกต่างหาก เปรียบไปแล้วเหมือนการปรุงแต่งให้ดีเกินธรรมชาติ

ฉลากไวน์ ฉลากไวน์โลกเก่าไม่ยอมบอกอะไรเลย ใครอยากรู้ความหมายต้องเรียนรู้ แม้แต่การระบุคุณภาพและเกรดชั้นของไวน์ ก็ล้วนเป็นเรื่องซับซ้อนทั้งสิ้น ฉลากไวน์โลกใหม่บอกทุกิส่งทุกอย่าง เข้าใจได้โดยง่าย

คุณสมบัติของไวน์ ไวน์โลกเก่าดื่มยากกว่า เพราะต้องรอให้สุกได้ที่ (Peak) จึงจะดื่มได้ครบถ้วนทุกกลิ่นรส ดังนั้นไวน์โลกเก่า จึงเป็นภาระให้แก่ผู้ซื้อ ต้องนำไปเก็บต่ออย่างทะนุถนอม แต่ไวน์โลกเก่าทั้งหลาย ก็มีอายุยืนยาวกกว่า ไวน์โลกใหม่อย่างเทียบไม่ติด ไวน์โลกใหม่ตรงข้ามกับไวน์เก่า บรรจุขวดก็เป็นอันเปิดดื่มได้เลย แต่กลิ่นรสไม่ซับซ้อนหลากหลายเหมือนไวน์โลกเก่า แถมยังเก็บไม่คงทนอีกต่างหาก สรุปแล้วไวน์โลกเก่าคือ Pure Art ส่วนไวน์โลกใหม่คือ Commercial Art

ราคา.. ไวน์โลกเก่ามีราคาแพงกว่ายี่ห้อที่เป็นศิลปกรรมชั้นเลิศ หรือเป็นของหายาก มีแต่เศรษฐีร่ำรวยเท่านั้นจึงจะซื้อมาชื่นชมได้ ไวน์โลกใหม่ราคาไม่มีประเภทที่มีราคาแพงมากๆ ไม่ต้องเสียเวลาในการการสะสม

เฌอแตม/Winestation


เนื่องจากผู้จัดทำมีภาระเรื่องเวลาและการเดินทาง การUpload ข้อมูลจึงขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาส แต่ข้อมูลจะมาจากทุกหนแห่งทั่วโลก แล้วแต่โอกาสจะอำนวย ในโลกของวิทยาการยุคนี้ปลายนิ้วและสมองคือความสำเร็จของชีวิต /Thanks for all pictures and details from many websites and books that suported this website