หลายคนบอกว่าฉันเป็นคนมีพรสวรรค์ เปล่าเลย........ฉันทำมันบ่อยต่างหาก มีไม่กี่คนที่เก่งมาตั้งแต่เกิด และฉันเองก็ไม่ได้ถูกจัดไว้ในประเภทนั้น ตั้งแต่เกิด(เมื่อปีพ.ศ. 2512 ที่จังหวัดเลย ) คุณตาเคยเปรยว่าฉันทำอะไรพิเรนอยู่เสมอ คุณแม่ก็พยักหน้า... นั่นมันเรื่องเล็ก เพราะตอนที่ฉันโตโดยห่างไกลสายตาผู้ใหญ่ ฉันมีเรื่องพิเรนอีกไม่อั้น ครั้งยังเล็กๆ ฉันและน้องสาวทั้งสาม มักจะเล่นเป็นนั่นเป็นนี่กันอยู่เสมอ แต่มันก็เป็นการเล่นที่ไม่เคยอยู่บนเวทีเลย คุณครูสอนการแสดงของฉันคือโทรทัศน์ ทุกเย็นฉันกับน้องๆจะอยู่หน้าจอด้วยชุดนักเรียน ดูซามูไรพ่อลูกอ่อนที่มีเพลงดาบอันเยือกเย็น จากนั้นก็ฝึกซ้อมเพลงดาบ ขณะอาบน้ำต้องออกกำลัง ด้วยการฝึกกำลังภายในและพลังลมปราณด้วยการชกน้ำในตุ่มให้แตกกระจาย และจบลงด้วยการแตกกระเจิงจากพลังลมปากของแม่ |
ฉันเคยวิ่งแบบสโลว์โมชั่น อย่างอัศวินคอมพิวเตอร์ หรือ สาวน้อยมหัศจรรย์ ซึ่งภายหลังการเคลื่อนไหวของฉันในยามนั้น มันก็คือนิยามของคำว่ามูพเม้นท์ในปัจจุบันนี้เอง ( ซึ่งฉันต้องมาจัดระบบใหม่เกือบทั้งหมด ) ฉันฝึกฝนกายและใจควบคู่กันไป ฝึกหัดสะกดจิตตัวเอง ว่ามีอำนาจควบคุมธรรมชาติได้อย่างไอซิสผู้ยิ่งใหญ่ คิดค้นอาวุธเอาไว้ต่อกรกับฝ่ายอธรรม ให้กับหุ่นยนต์กันดัม และจุล ซึ่งพวกเค้าไม่เคยรู้ว่า สิ่งที่ฉันคิดค้นมันร้ายกาจกว่าที่เห็นอยู่ในจอนั่นนัก ฉันหัดปั่นจักรยานปล่อยมือ เพื่อจะได้แปลงกายขับมอเตอร์ไซด์ปราบเหล่าวายร้ายได้อย่างไอ้มดแดง ไม่มีเทคนิคตัดต่อหรือมุมกล้อง ฉันทำได้จริงๆ ฉันพยายามหัดลืมตา และหายใจในน้ำ ว่ายด้วยท่าเดียวกับมนุษย์มัจฉา ไม่มีใครบอกฉันว่ามันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งฉันเองก็เชื่อว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น นานพอควรฉันถึงเข้าใจคำว่า บทบาทสมมุติ มันแค่บทบาสมมุติ อีกอย่าง การเล่นตุ๊กตากระดาษอย่างเด็กผู้หญิง เอาผ้ามาพันตัวแล้วบอกว่าเป็นชุดราตรี ฉันล้วนเคยทำมาแล้วทั้งนั้น ( เห็นมั้ย ฉันเข้าใจคำว่าบทบาทสมมุติแล้ว ) |
เมื่อฉันเล่นละครคนเดียว |
2 |
เมื่อฉันเล่นละครคนเดียว |
แบ่งปันประสบการณ์ การเรียนรู้จากศิลปะการแสดง |
บทเกริ่นนำ |
![]() |
จำนวนผู้เยี่ยมชม |
![]() |