หมอบรรลุชี้ชัดแล้ว
ใครกินยาเกินขนาด |
หลังจากมีข่าวอัปยศที่สุดในชีวิตที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข
แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อยู่ในกระทรวงนี้แล้ว
ก็ยังอดจะอับอายด้วยไม่ได้
ที่คนที่ได้ชื่อว่า
เป็นผู้ช่วยเหลือคน
ผู้ที่ทำงานอย่างเสียสละ
จะประพฤติตนไม่ต่างกับ เชื้อโรค
หรือเซลล์มะเร็งที่คอยกัดกินเงินงบประมาณของคนทั่วประเทศที่มีจุดประสงค์
นำไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้
ทั้งที่ตนเองก็ได้รับเงินของประชาชนเป็นเงินเดือนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ยิ่งอดสูมากขึ้น
เมื่อคนที่ได้ชื่อว่าเป็นมันสมองของประเทศ
สอบเอนทรานซ์เข้ามาอย่างยากเย็น
ซึ่งควรจะมีความภูมิใจและหยิ่งในศักดิ์ศรีของตน
กลับสมคบร่วมมือกับพวกนักการเมืองโกงชาติ
มาแทะเล็มบ้านตัวเองให้ยิ่งพัง
ทั้ง ๆ
ที่รู้ว่าพวกนักการเมืองไร้สมองเหล่านี้
ไม่เคยมีวิสัยทัศน์หรือคิดอะไรไปเกินกว่าการโกงกินและหาเงินสะสมเพื่อตัวเองและเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป
หาใช่การเข้ามาพัฒนาหรือวางแผนการสาธารณสุขอย่างใดไม่
มาวันนี้
คณะกรรมการสอบสวนความผิด
ที่มีท่านอาจารย์บรรลุ
เปาบุ้นจิ้นแห่งสาธารณสุขเป็นประธาน
ได้ประกาศผลสรุปแล้ว
ว่ามีนักการเมืองผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการ
2 คน สมคบกับข้าราชการระดับ 9 สองคน
(คือผู้ช่วยปลัดกระทรวงคนหนึ่ง
กับ
ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขภูมิภาค)
เป็นตัวการในการบังคับให้แต่ละจังหวัด
จัดซื้อยาจากบริษัทยาผี
ในราคาแพง (บางอย่างแพงกว่าปกติถึง
10 เท่า)
จริงหรือ
ที่ผู้ใกล้ชิดรัฐมนตรีสามารถทำการขนาดนี้ได้
โดยที่รัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น
และจริงหรือ ที่ข้าราชการระดับ 9
ทำการจัดสรรงบได้โดยตรง
โดยที่ระดับ 10 และ 11 ที่เกี่ยวข้อง
จะไม่ทราบเรื่อง
ทางออกที่ดีที่สุด
ตามความเห็นของผมเอง
ซึ่งน่าจะตรงกับความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ
คือการออกมารับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้อง
โดยการลาออกจากตำแหน่งของตนเองทั้งหมด
มาเลเซียยกเลิกแลกเปลี่ยนริงกิตในตลาดต่างประเทศ/ปลดอันวาร์
อิบราฮิม/ละตินอเมริกาแย่แล้ว |
ดร.มหาเธร์
นายกรัฐมนตรี สั่งปลดอันวาร์
อิบราฮิม รองนายกรัฐมนตรี,
รัฐมนตรีคลัง
และรองประธานพรรคอัมโน
พร้อมกับรักษาการแทนรัฐมนตรีคลังไปก่อน
หลังจากประกาศนโยบายการเงินครั้งสำคัญ
อันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ในการกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ
โดยการยกเลิกอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิตแบบลอยตัว
และประกาศให้ผู้ถือเงินริงกิตในต่างประเทศ
นำมาแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐ
ในอัตรา 3.8 ริงกิตต่อดอลลาร์
(อัตราแลกเปลี่ยนก่อนประกาศอยู่ที่
4.22 ริงกิตต่อดอลลาร์)
ภายในเดือนกันยายนนี้
หลังจากนั้น
ริงกิตในต่างประเทศจะไม่มีค่าอีกต่อไป
ซึ่งเท่ากับเป็นการกำหนดนโยบาย
"ปิดประเทศ" ทางเศรษฐกิจ
และคาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะไม่กลับไปลงทุนในมาเลเซียอีกต่อไป
ผลพวงจากพิษเศรษฐกิจเอเชีย,
ญี่ปุ่น และรัสเซีย
ทำให้ละตินอเมริกาเกิดความระส่ำระสายแล้ว
เมื่อวานนี้ (4 กย.)
ประเทศโคลัมเบียประกาศลดค่าเงินกลาย
ๆ
โดยขยายการเปลี่ยนแปลงค่าเงินให้กว้างขึ้นได้ถึงร้อยละ
23
ทำให้เกิดความปั่นป่วนในกลุ่มละตินอเมริกาไปทั่ว
นอกจากนี้
บริษัทจัดอันดับชื่อดัง มูดี้ส์
และ S & P
ได้ประกาศจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในเวเนซุเอลา,
บราซิล อีก เป็นผลให้ขณะนี้
สหรัฐอเมริกา เริ่มตัวสั่น
เพราะภัยเศรษฐกิจกำลังจะลามไปถึงหน้าประตูบ้านแล้ว
ถ้าเกิดวิกฤตการณ์ในละตินอเมริกาจริง
คาดว่าจะสะเทือนถึงอเมริกาแน่นอน
เพราะตลาดละตินอเมริกา
คิดเป็นร้อยละ 20
ของตลาดส่งออกรวมของสหรัฐ
และอาจทำให้ GDP
ของสหรัฐลดลงได้ถึงร้อยละ 5-7 ในปี
2542
ความวิตกครั้งนี้
ทำให้นายโรเบิร์ต รูบิน
รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมิเชล
กองเดซูส์ กรรมการอำนวยการ IMF
ต้องบินด่วนเพื่อเปิดประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ
ละตินอเมริกา เป็นการฉุกเฉิน
เพื่อทำการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ตลาดหุ้นฮ่องกงทรุดหนัก
ดัชนีฮั่งเส็งลดลงต่ำสุดถึง 600
จุดหรือเกือบร้อยละ 8
เพียงวันเดียว
เพราะนักลงทุนคาดว่ารัฐบาลฮ่องกง
อาจไม่สามารถสู้กับนักเก็งกำไรระดับโลกอย่าง
จอร์จ โซรอส
ในการปกป้องค่าเงินได้
คาดว่ารัฐบาลปักกิ่งอาจจะต้องลดค่าเงินหยวนอย่างช้า
ต้นปีหน้า
และยกเลิกการผูกค่าเงินฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤตการเงินในเอเชียระลอกใหม่ |