ยาแก้แพ้จะไปปกป้องที่จุดเป้าหมายที่ สารแพ้ Histamine จะไปออกฤทธิ์ ทำให้ Histamine ที่ถูกปล่อยออกมาไม่เกิดผล คล้ายๆกับการไปล็อคกุญแจไว้ที่ประตู ทำให้ Histamine ไม่สามารถเข้าบ้านได้

ดังนั้นการใช้ยาแก้แพ้ให้ได้ผลดีที่สุด จะต้องให้ยาเพื่อป้องกันตั้งแต่ยังไม่มี การปล่อย Histamine ออกมาจาก Mast Cell

	เมื่อพิจารณาแล้ว ถ้ายานี้มีผลดังที่กล่าวก็ย่อมจะดีไม่น้อย คงจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆเกิดขึ้น แต่ความจริงไม่ได้เป็นไปอย่างทฤษฎีที่ควรจะเป็น กล่าวคือ ท่านคงจะพบว่า ผลข้างเคียงที่สำคัญคือ
	ง่วงนอน เนื่องจากยาสามารถผ่านเข้าสู่สมองได้
	ปากแห้ง คอแห้ง น้ำมูกเสมหะเหนียวขึ้น ท้องผูก เหล่านี้เป็นผลจากการที่ยามีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่เรียกทางยาว่า Anti-Cholinergic Effect ( ผมจะขอยังไม่กล่าวละเอียด ณ ที่นี้ ขอฝากไว้ก่อนครับ )

คือยาแก้แพ้ที่มีใช้กันมานาน ได้ผลดี แต่ก็มีผลข้างเคียงอย่างที่กล่าวข้างบนมาก

ยากลุ่มนี้ได้แก่ 

• ข้อเสียอีกประการหนึ่งที่สำคัญของกลุ่มแรกคือ ต้องทานยาบ่อย ประมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน จึงจะควบคุมอาการได้ตลอดทั้งวัน

ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจากยารุ่นแรก โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ 

1. ลดการง่วงนอน ลดการซึมผ่านของตัวยาเข้าสู่สมอง
2. ลดผลที่เป็น Anti-Cholinergic ซึ่งทำให้ปากคอแห้ง น้ำมูกน้ำลายเสมหะเหนียว ท้องผูก
3. ทานยาน้อยครั้งลง เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้ยา ส่วนใหญ่จะทานยาวันละ 1-2 ครั้ง เท่านั้น

ยากลุ่มนี้ได้แก่ 

อย่างไรก็ตาม ยากลุ่มนี้เป็นยาใหม่ การศึกษาความปลอดภัยในการใช้มีมากพอสมควรแต่ก็ยังไม่สมบูรณ์นัก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ Astemizole (ซึ่งเป็นตัวแรกของยารุ่นใหม่) และ Terfenadine ปัจจุบันเลิกจำหน่ายในบางประเทศแล้ว เนื่องจากยามี Drug Interaction (ปฏิกิริยากับยาที่ใช้ร่วมกัน) กับยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อราบางตัว ทำให้เกิดพิษต่อร่างกายขึ้น

• ยาที่มีคุณสมบัติคล้ายยาแก้แพ้ได้แก่ Ketotifen , Oxatomide , Cromolyn Sodium
• ยาที่ใช้กับการแพ้รุนแรง คือ ยากลุ่ม Steroid ได้แก่ Prednisolone , Dexametasone , Betamethasone , etc.
• ยาลดบวมภายในโพรงจมูก ได้แก่ Pseudoephedrine , Phenylephrine , Phenylpropanolamine

ถ้าท่านชอบ web  นี้ 
ท่านที่ต้องการสอบถาม เสนอแนะ เชิญครับ mailto:vichiena@yahoo.com
ขอขอบคุณ Geocities.com ที่ให้พื้นที่ฟรีสำหรับการจัดทำ Web Site นี้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่สำคัญ discoveryhealth | mediconsult | mayohealth | medscape.com | healthylives | สมาคมแพทย์โรคผิวหนัง USA | fda.gov | my.yahoo.com