Scandisk ตรวจหาสิ่งผิดปกติ ชำรุดเสียหาย และซ่อมแซม
เทคนิคการแก้ Err Msg: ScanDisk Has Restarted 10 Times Because Windows...
ถ้าหากต้องการ Defrag / Scandisk ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ค้างที่ 10 %
1. ถ้าหากใช้โปรแกรม Screen Save ให้ปิดโปรแกรมดังกล่าวก่อน
2. คลิกเมาส์ขวาบน Desktop เพื่อเลือก Properties Display หลังจากนั้นให้เข้าไปที่ Screen Saver กำหนดให้เป็น "None" เพื่อไม่ให้มันทำงาน
ดูที่ด้านขวาของ Taskbar จะมี Icon ต่างปรากฎอยู่ ซึ่งแสดงว่ามีโปรแกรมรันอยู่ ให้ชี้เมาส์ที่ตำแหน่งดังกล่าวแล้วคลิกเมาส์ขวา เพื่อปิดโปรแกรมดังกล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม อ่านเอกสาร ScanDisk and Defrag Secrets
หลังจากกำจัดขยะหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ "ตรวจหาสิ่งผิดปกติ ตรวจหาความชำรุดเสียหาย และถ้าหากเป็นไปได้ ซ่อมแซมความเสียหายนั้นให้คืนสู่สภาพปกติ"
ประเด็นนี้ ผมว่า "Makesense" เหมือนการทำความสะอาดบ้านเรือนปกติ คือ หลังจากที่เราทำความสะอาด กำจัดขยะไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คงต้องตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ว่ามีความเสียหายอะไรบ้าง ถ้าหากเป็นไปได้ก็ซ่อมแซมความเสียหายนั้นเสียให้คืนสู่สภาพที่ปกติ
ควรมีการ Scandisk หรือไม่ ถ้ามีจะบ่อยขนาดไหน? ถ้าหากไม่มีการ Scandisk เมื่อจะ Defrag อาจจะเกิดความผิดพลาดในการ Defrag บางครั้งโปรแกรมสำหรับการ Defrag จะไม่ยอมทำงานเลย เพราะเมื่อโปรแกรมทำงาน จะมีการตรวจสอบส่วนต่างๆของไฟล์ข้อมูลแต่ละไฟล์ ว่ามีความต่อเนื่อง มีบางส่วนสูญหายหรือไม่ ถ้าหากมีมากๆ ก็จะทำให้โปรแกรมส่วนการ Defrag ไม่ทำงานอีกต่อไป แนะนำให้มีการ Scandisk ทุกๆ เดือน เพราะเวลา 1 เดือนจะมีไฟล์ต่างๆ ถูกอ่านและเขียนในฮาร์ดดิสก์อย่างมากมาย
สำหรับวินโดวส์ 95/98/ ME ฟังก์ชันการ "ScanDisk" นั้น ยังคงมีควบคู่มา และมีความฉลาดมากขึ้น การ Scandisk คือ การตรวจหาความผิดพลาดประเภทต่างๆในฮาร์ดดิสก์ สอดคล้องกับบทความที่เรือนคอมฯเคยเสนอตั้งแต่สมัยที่ยังใช้ chkdsk.exe ,scandisk.exe ที่เป็น Application สำหรับ DOS เลยทีเดียว
Scandisk บนวินโดวส์ได้รับการพัฒนามากกว่าดอสตรงที่หน้าตาของโปรแกรมดูจะใช้งานได้ง่ายมากขึ้น และมีฟังก์ชันต่างๆให้เลือกมากขึ้น
การ Scandisk จะมีโหมดการสแกนของโหมดให้เลือก คือ Standard ซึ่งจะมีการกวาดจับความผิดพลาดเฉพาะพื้นที่เก็บไฟล์และโฟลเดอร์ วิธีการนี้แนะนำสำหรับกรณีมีเวลาน้อย แต่ต้องการทราบสถานะความผิดปกติของฮาร์ดดิสก์ ปัญหาที่ใช้ Stadard Mode แก้ไขได้คือ ปัญหาพวก Cross Link , Lost Cluster
โหมดสแกนแบบ Through จะเป็นการสแกนเพิ่มมาจาก Standard คือ มีการตรวจพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ทั้งหมด เพื่อดูว่ามี Bad Sector หรือไม่ ถ้าหากมี Bad Sector จะมีการ Mark เพื่อป้องกันไม่ให้วินโดวส์ใช้งาน นอกจากนี้ในการเลือก "Option" เพื่อเติม ผู้ใช้ยังสามารถเลือกได้อีกว่า การสแกนพื้นที่นั้น จะให้มีการสแกนเฉพาะพื้นที่ที่มีข้อมูล หรือสแกนพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้งการเลือกไม่ให้ "ทดสอบการเขียน" และเลือกไม่ให้ "แก้ไข Bad Sector ของพื้นที่ที่จัดเก็บ Hidden file" ส่วนออปชั่นนี้ ถ้าหากจะใช้งานควรใช้ในกรณีที่ฮาร์ดดิสก์ใกล้พังเต็มที่แล้ว คือ ให้มีส่วนถูกกระทบกระเทือนน้อยสุด จะแก้ไขอะไรก็ต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว (จริงๆแล้วไม่ต้องขนาดนี้หรอก)
ส่วน Advance ของฟังก์ชันการ Scandisk ซึ่งจะใช้ในการดำเนินการกับทั้งโหมด Standard และโหมด Through คือ ให้กำหนดให้แสดง "สรุปรายงาน" เมื่อสิ้นสุดหรือไม่ กรณีทีไฟล์ที่กลายเป็นขยะไปแล้ว จะให้ลบทิ้งเลย หรือพยายามค้นหาส่วนประกอบที่ถูกต้องแล้วนำมาประกอบใหม่ กรณีไฟล์ที่มีการ Crosslink จะให้ทำอย่างไร รวมถึงกรณีของชื่อไฟล์จะให้ทำอย่างไร สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ให้ปล่อยตัวเลือกเหล่านี้ให้เป็นไปตามที่โปรแกรมกำหนดไว้จะดีกว่า
|