ไวรัสทำงานอย่างไร ?

อินเตอร์เน็ตก็เหมือนกับทุก ๆ ที่บนโลกนี้ ซึ่งไม่ได้มีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับทุกคนที่ไปเยือนเสมอไป ถ้าคุณทำการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ต มันก็มีโอกาส ( ซึ่งแม้จะน้อยมากก็ตาม ) ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจะติดไวรัสได้

ไวรัสเป็นโปรแกรมที่สร้างผลร้ายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ มันสามารถทำความเสียหายให้เกิดขึ้นได้หลายอย่าง อาทิเช่น มันสามารถลบไฟล์ข้อมูล ลบโปรแกรม หรืออาจจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพบในฮาร์ดดิสก็ของคุณได้ แต่ไวรัสบางชนิดอาจไม่ทำความเสียหายให้กับคอมพิวเตอร์ โดยมันอาจจะแค่ก่อความรำคาญโดยส่งข้อความมาที่จอภาพของคุณเท่านั้น แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณพบว่ามีไวรัสอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณก็ควรจะต้องหาวิธีการที่จะกำจัดมันออกไปให้ได้

ขณะที่คุณอาจจะติดไวรัสโดยการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ตมาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ แต่อินเตอร์เน็ตไม่ใช่แหล่งเดียวที่คอมพิวเตอร์จะติดไวรัสได้ ไวรัสอาจจะแพร่เข้าคอมพิวเตอร์ได้ในทางอื่น ๆ เช่น จากการให้บริการแบบออนไลน์ ระบบ bulletin board system หรือ BBS ระบบ LAN และแม้กระทั่งซอฟต์แวร์ที่เพิ่งแกะกล่องจากร้านขาย

คำว่าไวรัส ( computer virus ) เป็นคำที่ใช้กันทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะหมายความรวมถึงโปรแกรมหลาย ๆ แบบ โดยทั่วไปนั้นไวรัสจะเกาะติดไปกับไฟล์โปรแกรมหรือไฟล์ข้อมูล ติดไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ บันทึกตัวเองลงในฮาร์ดดิสก์ แล้วทำลายข้อมูล ฮาร์ดดิสก์ หรือไฟล์ของคุณได้ ปกติไวรัสจะทำลายคอมพิวเตอร์ของคุณสี่ส่วนด้วยกัน คือ ไฟล์เก็บโปรแกรม ( executable file ) ระบบไดเร็คทอรีของไฟล์ซึ่งจะชี้ไปยังตำแหน่งของไฟล์ทั้งหมดของคอมพิวเตอร์คุณ ( ซึ่งถ้าส่วนนี้เสียไปคอมพิวเตอร์ก็จะไม่ทำงาน ) ข้อมูลส่วนที่ใช้ในการบูตระบบหรือเริ่มต้นทำงานเมื่อเปิดเครื่อง และพื้นที่โปรแกรมระบบ ( system program ) ของคอมพิวเตอร์ ระยะหนึ่งเราเคยเชื่อกันว่าไฟล์ข้อมูลจะไม่ติดไวรัส แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีผู้สร้างไวรัสที่สามารถติดไปยังไฟล์ข้อมูลได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ไวรัสบางตัวสามารถติดในชุดคำสั่งหรือมาโคร ( macro ) ของโปรแกรม word หรือ Excel for Windows ของไมโครซอฟต์ และมันจะทำงานก็ต่อเมื่อมาโครนี้ถูกเรียกใช้งาน หรือมีการเปิดไฟล์ในลักษณะซึ่งอาจมีผลให้มาโครนั้น ๆ ทำงานโดยอัตโนมัติ

Trojan horses ( ม้าไม้กรุงทรอย เป็นชื่อที่มาจากตำนานกรีกโบราณว่าด้วยสงครามกรุงทรอย ) เป็นอีกลักษณะหนึ่งของโปรแกรมจำพวกก่อปัญหานี้ ซึ่งจะซ่อนตัวเองโดยแสดงตัวว่าเป็นโปรแกรมปกติที่จะช่วยทำงานให้คุณ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันจะทำลายข้อมูลฮาร์ดดิสก์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมหนึ่งอาจจะชวนให้เข้าใจว่าเป็นโปรแกรมคำนวณทางด้านการเงิน แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อโปรแกรมนี้ถูกเปิดใช้ มันจะลบไฟล์ทุกไฟล์ในฮาร์ดดิสก์ที่มีนามสกุล .DOC เป็นต้น โปรแกรมในลักษณะนี้เรียกได้ว่าเป็นเป็น Trojan horse

Worms เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้แพร่เข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์ก เช่นอินเตอร์เน็ต ได้ Worms จะเดินทางจากระบบเน็ตเวิร์กหนึ่งไปยังอีกเน็ตเวิร์ก แล้วทำการแพร่ตัวเองออกเป็นหลาย ๆ ชุดในทุก ๆ ที่ที่มันไปถึง Worms ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือตัวที่เรียกว่า Internet Worms ซึ่งถูกปล่อยออกไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 1988 และได้ทำการแพร่ตัวเองไปตามโฮสต์ต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งในที่สุดก็ทำให้อินเตอร์เน็ตมีปัญหาถึงขนาดต้องหยุดการทำงานไปเลยชั่วเวลาหนึ่ง

หนทางที่ดีที่สุดในการป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากไวรัส ก็คือการใช้ซอฟต์แวร์ต่อต้านไวรัส ( anti-virus ) ซึ่งก็มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น scanner ซึ่งจะตรวจสอบดูว่าในเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นมีไฟล์ใดที่ติดโปรแกรมไวรัสบ้าง ขณะที่โปรแกรมประเภท eradication จะทำการกำจัดไวรัสออกไปจากฮาร์ดดิสก์ของคุณเลย ซึ่งบางครั้งโปรแกรมประเภทนี้ก็สามารถกำจัดไวรัสโดยไม่ต้องลบโปรแกรมหรือไฟล์ที่ติดไวรัสนั้นทิ้ง แต่บางครั้งก็จำเป็นต้องลบไฟล์ที่ติดไวรัสทิ้งไปด้วย แล้วแต่กรณี นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่เรียกว่า incoulators ซึ่งจะคอยป้องกันไม่ให้โปรแกรมที่ติดไวรัสสามารถทำงานได้ ซึ่งจะหยุดยั้งไม่ให้ไวรัสสร้างตัวเองเพิ่มเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย

คอมพิวเตอร์ติดไวรัสได้อย่างไร ?

เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณสามารถติดไวรัสจากอินเตอร์เน็ตได้ถ้าคุณดาวน์โหลดโปรแกรมหรือไฟล์ต่าง ๆ มายังคอมพิวเตอร์ของคุณ ไวรัสถูกเขียนขึ้นมาเฉพาะสำหรับคอมพิวเตอร์ในแต่ละประเภท เช่นเครื่องพีซี หรือแมคอินทอช ทั้งนี้เนื่องมาจากไฟล์ที่มันจะแพร่ไปติดนั้นจะรันได้บนคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ๆ ได้เท่านั้น เมื่อก่อนนี้คนเชื่อกันว่าไวรัสสามารถติดต่อได้แค่ไฟล์โปรแกรมเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้มีผู้พบว่ามีไวรัสบางชนิดที่สามารถติดต่อไปยังไฟล์ข้อมูลได้ด้วย ( แต่ก็จะต้องเป็นไฟล์ข้อมูลชนิดที่มีโปรแกรมแฝงอยู่ คือมีชุดคำสั่ง เช่นมาโครต่าง ๆ ให้เรียกทำงานได้ ไม่ใช่เป็นข้อความหรือตัวเลขล้วน ๆ )

1. ไวรัสจะซ่อนตัวอยู่ในโปรแกรมปกติ ซึ่งมันจะอยู่เฉย ๆ จนกว่าคุณจะเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัสนี้มารัน ไวรัสก็จะทำงานทันที บางครั้งสิ่งแรกที่มันทำก็คือแพร่เชื้อไปยังโปรแกรมอื่น ๆ บนฮาร์ดดิสก์ของคุณ โดยการทำสำเนาตัวเองเข้าไปแทรกในไฟล์ต่าง ๆ เหล่านัน

2. ไวรัสบางชนิดจะใส่ข้อความที่เรียกว่า v-markers หรือ virus markers ไว้ภายในโปรแกรมที่ติดเชื้อ ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของไวรัส ไวรัสแต่ละตัวจะมี v-markers เฉพาะของตนเอง ถ้าไวรัสตัวหนึ่งพบ markers เหล่านี้ในโปรแกรมอื่น มันก็จะรู้ว่าโปรแกรมนั้นได้ติดเชื้อไปแล้ว จึงไม่ต้องแพร่เชื้อซ้ำ และหากมันพบว่าทุก ๆ ไฟล์ติดเชื้อหมดแล้ว เมื่อถึงจุดนี้ก็อาจจะเป็นการส่งสัญญาณให้ไวรัสเริ่มทำลายคอมพิวเตอร์และข้อมูลต่าง ๆ

3. ไวรัสสามารถทำลายไฟล์โปรแกรมหรือไฟล์ข้อมูล ซึ่งจะทำให้มันทำงานได้เพียงบางส่วน หรือทำงานไม่ได้เลย หรือจะก่อให้เกิดความเสียหายถ้าเรียกโปรแกรมนั้นมารัน ไวรัสสามารถที่จะทำลายไฟล์ทุก ๆ ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงไฟล์ของระบบซึ่งคอมพิวเตอร์ต้องใช้ในการเริ่มทำงาน หรืออาจสร้างความเสียหายในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย

4. Scanner เป็นโปรแกรมที่ใช้ตรวจสอบไวรัสและคอยเตือนว่ามีไวรัสอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ มันทำงานได้หลายวิธี วิธีหนึ่งก็คือ ตรวจดูไฟล์โปรแกรมว่ามี virus markers อยู่หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการบ่งบอกว่ามีไวรัสติดอยู่ อีกวิธีหนึ่งก็คือ ตรวจสอบดูว่าขนาดของไฟล์ของโปรแกรมว่าเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และยังมีโปรแกรมต่อต้านไวรัสบางชนิดที่จะทำงานอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณตลอดเวลา เพื่อตรวจสอบว่ามีไวรัสอยู่ในโปรแกรมหรือเปล่าก่อนที่จะเรียกโปรแกรมนั้นมารัน

5. โปรแกรมประเภท eradication จะกำจัดไวรัสออกไปจากซอฟต์แวร์เลย บางครั้งมันสามารถกำจัดไวรัสได้โดยไม่จำเป็นต้องทำลายไฟล์ที่ติดเชื้อนั้น แต่ในบางครั้งก็อาจจะต้องทำลายไฟล์ที่ติดเชื้อนั้นไปพร้อม ๆ กับไวรัสด้วย

7 มีนาคม 2541




[ home ] [ menu ] [ Internet ]