คุณสมบูรณ์ วัจนรัตน์ อายุ ๓๖ ปี เป็นหัวหน้าคนงานบริษัททีแมน เข้าวัดครั้งแรกวันตอกเสาเข็มสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ต้นสุดท้าย เล่าเรื่องเกี่ยวกับอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุที่พบว่า
เรื่องแรก คุณสมบูรณ์ได้ทราบข่าวการสร้างพระที่แกนกลาง รู้สึกต้องการทำบุญมาก จึงอธิษฐานจิต ขอให้นายจ้างออกปาก ให้ยืมเงิน ทำบุญ โดยไม่ต้องให้เธอพูดขอยืม
อธิษฐานวันอาทิตย์ตอนเย็น เย็นวันรุ่งขึ้น ได้เห็นพระมหาสิริราชธาตุองค์จริงของผู้อื่น ยิ่งปรารถนาจะได้มาก ต่อมานายจ้างชวนให้ทำบุญ และออกปากก่อนจริงๆ ว่า ถ้าไม่มีจะให้ยืม จึงได้ทำบุญสมใจ และยังชวนพี่สาวสร้างด้วยอีก ๑ องค์
อาทิตย์ต้นเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับพระของขวัญ ซึ่งมีธาตุคำแก้วมณีแทบทั้งองค์ สัปดาห์ถัดมา วันพุธตอนกลางคืนประมาณ ๕ ทุ่ม หลานชายโทรศัพท์มาขอยืมเงินหนึ่งหมื่นไปเสียค่าเทอม วันศุกร์หลานที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ ซึ่งพ่อของเด็กตายไปแล้ว และคุณสมบูรณ์รับปากว่าจะช่วยส่งเรียน พอหลานขอยืมค่าเล่าเรียน ก็จนปัญญา รู้สึกกลุ้มใจ นอนไม่หลับ จึงนั่งสมาธิอยู่ที่หน้าโทรศัพท์ ไม่ได้ไปที่ห้องพระ นึกอธิษฐานขอให้พระมหาสิริราชธาตุช่วยด้วย จะทำอย่างไรดี
ประมาณเที่ยงคืน รู้สึกเหมือนมีคนมาสะกิดบอกว่า เงินอยู่ตรงตู้นะ ให้ดูตรงตู้ ตกใจลืมตาขึ้นมาขนลุกหมด ใครมาพูด นั่งสมาธิต่อ ไม่ได้ ไม่กล้านั่งแล้ว จึงลุกไปที่ตู้ ก็พบเงินจริงๆ เป็นเงินที่สามีจะต้องเก็บส่งบริษัท บังเอิญผู้รับไปต่างประเทศ ต้องเก็บเงินไว้ส่ง ตอนเขากลับมา อีกหนึ่งสัปดาห์ จึงนำไปให้หลานก่อน และสามารถหาเงินมาใช้คืนได้ทัน
เรื่องที่สอง ลูกสาวคนโตของคุณสมบูรณ์ เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระยะนั้นเหมือนคนมีเคราะห์กรรมตามทัน ตกรถเมล์ หัวเข่าถลอก ยังไม่ทันหายดีก็ถูกสุนัขที่มหาวิทยาลัยกัด นายจ้างของคุณสมบูรณ์แนะนำว่าควรทำบุญสร้างพระให้ลูกจะได้หมดเคราะห์ คุณสมบูรณ์ จึงยืมเงินนายจ้างสร้างพระให้ลูกสาว ๑ องค์
เรื่องที่สาม ที่ทำงานของคุณสมบูรณ์มีการเล่นแชร์ คุณสมบูรณ์จะต้องส่งแชร์ในเดือนนั้นเป็นจำนวนมาก แต่มีเงินไม่พอ ยังขาดอยู่อีก ๖ พันบาทเศษ เหลือเวลาอีก ๒ วัน กังวลใจว่าจะหาเงินที่ไหนมาหมุนทัน จึงใช้วิธีทำสมาธิอธิษฐานจิตขอพรพระมหาสิริราชธาตุอยู่ตลอดทั้ง ๒ วัน เช้าวันครบกำหนดนอนไม่หลับตั้งแต่ตี ๓ จึงลุกขึ้นมานั่งสมาธิขอพรอีก ลูกไม่รู้จะพึ่งทางไหนแล้วเจ้าค่ะ ช่วยลูกด้วย และนั่งสมาธิไปกระทั่ง ถึงเช้า
เวลาเช้าก่อนไปทำงาน ได้ไปหาพี่สาว ยังไม่ทันเอ่ยปากขอความช่วยเหลืออะไร พี่สาวพูดว่า เออ มีเด็กที่บ้านพี่เอาเงินมาฝากพี่ไว้ ๖ พันบาท สิ้นเดือนจึงจะขอคืน พี่ไม่อยากเก็บของเขาไว้ เดี๋ยวอดใจไม่ได้ ใช้เงินเขาหมด เธอเก็บไว้ให้แทนพี่หน่อยนะ สิ้นเดือนค่อยเอามาคืน ได้แก้ปัญหา อย่างน่าอัศจรรย์ จำนวนเงินก็พอดีกันได้อย่างน่าประหลาด
เรื่องที่สี่ เป็นเรื่องจำเป็นต้องใช้เงินเสียค่าเล่าเรียนให้ลูกสาวถึง ๘ พันบาท แต่ยังหาไม่ได้ มีเวลาเพียง ๓ วัน จึงสวดมนต์อธิษฐาน ทำสมาธิ ขอพรจาก พระมหาสิริราชธาตุเหมือนเช่นเคย คราวนี้นึกถึงหลานชา ยคนที่พ่อของเขาตายไปแล้ว เพราะเคยให้หลานยืมเงิน ไปเสียค่าเทอม ๒ หมื่นบาท และไม่ได้คิดเอาคืน แต่อย่างใด แต่ทราบว่า หลานทำเรื่องขอกู้เงิน จากมหาวิทยาลัยไว้ ไม่ทราบว่ากู้ได้แล้วหรือยัง ถ้าได้แล้ว ก็อยากให้ หลานใช้คืนมาบ้าง จะได้นำเงินไปเสียค่าเทอม ให้ลูกสาว ทำสมาธิอธิษฐานขอพร จากองค์พระไป ใจก็นึกถึงหลาน ขอให้หลานได้เงินมาคืน ในเวลานี้ (วันเสาร์) วันจันทร์จะต้องนำไปเสียค่าเทอมให้ลูก
วันอาทิตย์ เวลาประมาณ ๓ ทุ่ม หลานชายก็โทรศัพท์มาหาจริงๆ บอกว่า ได้รับเงินยืมแล้ว เสียค่าเทอมใหม่ของตนเองไปด้วย จึงเหลือเงิน คืนให้ ๑ หมื่น ๓ พันบาทก่อน แต่ฝากเงินไว้ที่บ้านคุณย่า ให้ไปรับด้วย คุณสมบูรณ์มั่นใจว่า พระมหาสิริราชธาตุ ช่วยเหลืออย่างแน่นอน ทุกวันนี้ ยังหมั่นสวดสรรเสริญ ทำสมาธิอยู่เป็นประจำ ถึงแม้ว่า ยังไม่มีเรื่องเดือดร้อนจำเป็น กระทันหันอะไร ถ้าหากมีก็มั่นใจว่า พระคงช่วยเหลือ เหมือนที่ผ่านมา