อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๒๑๕. งูหดหัว

คุณสุมาลี ประกอบธัญญะศิริ ทำงานเป็นอาจารย์อยู่ในโรงเรียนชุมชนประดู่ยืน อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เล่าว่า เข้ามาทำบุญที่ วัดพระธรรมกาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ ช่วงเวลาทางวัด มีการทำบุญสร้างองค์พระ ที่แกนกลาง มหาธรรมกายเจดีย์ มีน้องสาว เป็นผู้นำบุญให้ชื่อ แพทย์หญิง พัชรา ชาติอุดมพันธ์ แพทย์ระดับ ๘ หัวหน้ากลุ่มงาน เวชกรรมสังคม โรงพยาบาลอุทัยธานี

น้องสาวซึ่งเข้าวัดมานาน เป็นผู้ชักชวนผู้คน ทำบุญสร้างองค์พระ เมื่อน้องให้ดูพระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุ ของตัวเขาเอง และ ชวน พี่สาวทำบุญสร้างบ้างนั้น คุณสุมาลีเห็นแล้ว แม้จะรู้สึกว่า ต้องทำบุญด้วย เงินจำนวนมาก ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็รู้สึกรัก พระมหา สิริราชธาตุ ท่านมาก รู้สึกว่าท่านคือ พระประจำตัวของเรา เราต้องเคยเป็นเจ้าขององค์พระ อย่างนี้แน่นอน จึงทำบุญสร้างองค์พระบ้าง ซึ่งวันนั้น เป็นวันสุดท้าย ในการปิดแกนกลางพอดี

เมื่อได้พระของขวัญมาแล้ว ทุกคนในบ้านรู้สึกอบอุ่นใจมาก เหมือนมีญาติผู้ใหญ่ ที่สนิทมากคอยเป็นที่พึ่ง และดูแลครอบครัวของเธอ อยู่ตลอดเวลา ทุกคนในบ้านร่วมกัน สร้างพระแกนกลาง ครบทุกคน และพยายาม สวดบทสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ อยู่เสมอๆ

คุณสุมาลีเองได้สอนให้นักเรียนนั่งสมาธิ และให้สวดสรรเสริญพระ-มหาสิริราชธาตุด้วย ซึ่งเด็กๆ ชอบกันมาก คุณสุมาลีได้พบ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุมาดังนี้

วันหนึ่งเป็นเวลาเย็น หลังจากเลิกเรียนแล้ว คุณสุมาลีและสามี ไปรับประทานอาหารกับเพื่อน ตนเองรู้สึกไม่เป็นสุขใจ ทำให้อยาก จะไปดูเสื้อผ้าของสามี ซึ่งเตรียมไว้ใช้ใส่ซ้อมกีฬา ในตอนเช้าวันพรุ่งนี้ พอกลับมาถึงบ้านราว ๔ ทุ่ม จึงรีบไปเปิดตู้เสื้อผ้า พอเปิดออกมา สิ่งที่เห็นอยู่ต่อหน้าคือ งูเห่าตัวโต พันอยู่ที่ไม้แขวนเสื้อ ซึ่งเป็นตัวที่สามี จะใส่วันพรุ่งนี้พอดี 

ใบหน้าของคุณสุมาลี อยู่ห่างจากหัวงูไม่ถึง ๑ ศอก งูจ้องมองมาทำท่าจะฉกกัด แล้ว สักครู่ก็นิ่งเฉย และค่อยๆ หมอบหัวลง ไม่ทำท่า จะฉกเหมือนเมื่อครู่ แล้วยังค่อยถอยตัว หนีลงไปอยู่ในเสื้อ คุณสุมาลีตกใจสุดขีด งูมาอยู่ในตู้ ซึ่งปิดสนิทได้อย่างไร ร้องเรียกสามี เสียงดังลั่น ช่วยกัน เขี่ยเสื้อผ้าออกจนหมดตู้ งูก็ตกลงมาที่พื้นตู้ นอนนิ่งอยู่  ไม่มีอาการทำท่า จะทำร้ายแต่อย่างใด

เหตุการณ์นี้แปลกมาก เพราะโดยธรรมชาติของงูเห่า หากเห็นอะไร เคลื่อนไหวตรงหน้า ด้วยความตกใจ มันจะรีบฉกกัดทันที แต่นี่กลับ นิ่งเฉย มองแล้วรีบหดหัวกลับ ทำให้คุณสุมาลีคิดว่า ต้องเป็นอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ แน่นอน

เริ่มตั้งแต่ท่านดลใจให้รู้สึกอยากเตรียมเสื้อให้สามี ทำให้มีโอกาสพบงูเสียก่อน ถ้าทิ้งไว้ถึงตอนเช้า ให้สามีมาหยิบเอง อาจจะถูกงูฉก เอาได้ เพราะไปจับถูกตัวของมัน แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ ทำไมงูแสดงท่าทาง เหมือนกลับเห็นอะไร บางอย่าง รีบหดตัวหนี

แพทย์หญิงผู้เป็นน้องสาวอธิบายว่า ได้ไปถามผู้รู้มาแล้ว ได้รับคำอธิบายว่า งูไม่คิดสู้หรือทำร้าย เพราะเรามีพญานาคอยู่ที่ตัวเรา คือ นาคเทวา ที่รักษาองค์ พระมหาสิริราชธาตุอยู่ทุกองค์ งูเป็นแค่ลูกน้องของพญานาค จะสู้กันได้อย่างไร คุณสุมาลีฟังน้องสาว อธิบายแล้ว รู้สึก เห็นด้วย 

นึกทบทวนดูถึงความฝันของตนเองก่อนหน้านี้ ที่เคยฝันว่ามีพญานาค ๘ ตัวนอนขดสงบนิ่งอยู่รอบๆ บ้านหลังเก่า ทำอาการเหมือน คอยคุ้มครองรักษา และครอบครัวของคุณสุมาลี ก็สร้างพระแกนกลางถึง ๘ องค์ ปกติแล้ว คุณสุมาลีเคยฝันเห็นแต่งู ไม่เคยเห็นพญานาค แต่เมื่อ ทำบุญสร้างองค์พระแล้ว มาฝันเห็นพญานาค จึงทำให้เชื่อมั่นว่า มีนาคเทวารักษาองค์พระ ตามองค์พระมาอยู่ด้วยแน่นอน

หินที่นำมาทำเป็นพระมหาสิริราชธาตุนั้น เราทราบกันดีว่า เป็นหินที่มีนาคเทวาดูแลรักษาอยู่ ใครที่ไม่เห็นคุณค่าขององค์พระ ไม่เคารพ บูชาให้สมควร ในฐานะที่เป็นตัวแทนขอ งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระก็จะหายไปไม่อยู่ด้วย เทวดาเองก็ไม่อยู่ด้วย ไม่คอยช่วยเหลือ คุ้มครอง ตักเตือน ให้เราสร้างความดี ให้เป็นบุญกุศล

บ้านคุณสุมาลีสร้างองค์พระแกนกลางถึง ๘ องค์ เท่ากับมีนาคเทวามาดูแลรักษาถึง ๘ ตน นาคเทวานั้น ท่านย่อมให้เจ้าของเห็น เป็น นาคจริงๆ อย่างที่คุณสุมาลีฝัน หรืออีกท่านที่อยู่ทางภาคอีสาน ฝันเห็นเป็นงูตัวอ้วนใหญ่มาก ๒ ตัว บางรายก็เห็นเป็นคน มีทั้งที่เห็นด้วย ตาเนื้อ และที่ฝันเห็น แต่งตัวเหมือนคนธรรมดา บางทีก็ใส่เสื้อกล้ามสีขาว นั่นแสดงว่า เป็นนาคเทวาที่แปลงตัวแล้ว

นาคเทวาเหล่านี้มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถบันดาล อะไรๆ ด้วยฤทธิ์ได้ บังเอิญ พวกที่อยู่กับ พระมหาสิริราชธาตุ เป็นนาคที่มีศีล จึงชอบ เห็นเจ้าของ สร้างบุญกุศล ตนเองจะได้อนุโมทนา พลอยได้ส่วนบุญ ส่วนนาคเทวาที่ไม่ได้ถือศีล ย่อมมีอารมณ์ดุร้าย สามารถทำอันตราย ภัยพิบัติ ให้ผู้ที่ตนไม่พอใจได้ ถึงสิ้นชีวิต เมื่อทำไปแล้ว ย่อมเป็นบาปกรรม เพิ่มแก่ตนเอง ส่วนเดรัจฉานนาค มีฤทธิ์เหมือนงูใหญ่ทั่วไป แต่ไม่มี มากเหมือน นาคเทวา แปลงกายไม่ได้ 

งูเห่าตัวนี้อาจจะเลื้อยไล่จับหนูกินเข้าไปในบ้าน เห็นตู้มืดๆ จึงเข้าไปอยู่ พอมีคนมาปิดตู้ ก็ออกไม่ได้ โชคดีที่ไม่ถูกขังไว้นาน อาจหิวโซ จะกลายเป็นดุยิ่งขึ้น เลนส์ตาของสัตว์เดรัจฉาน มีความละเอียดมากกว่า ตาของมนุษย์ สามารถเห็นได้ดีกว่า เช่น สุนัขมองเห็น กายละเอียด ของมนุษย์ได้ งูคงเห็นพญานาค ที่ดูแลองค์พระ จึงแสดงอาการสยบหลบตัว ไม่ใช่เป็นเพราะองค์พระ มีกรอบเป็นรูปพญานาค แม้พระมหา สิริราชธาตุรุ่นอื่น เช่นพระคะแนน สุด สุด พระดูดทรัพย์ พระพิชิตมาร ล้วนแต่เป็นเนื้อธาตุ ที่มีนาคเทวา ดูแลรักษาทั้งสิ้น งูทุกชนิดจึงเกรงกลัว


[สารบัญ] [๒๐๒] [๒๐๓] [๒๐๔] [๒๐๕] [๒๐๖] [๒๐๗] [๒๐๘] [๒๐๙] [๒๑๐]
[๒๑๑] [๒๑๒] [๒๑๓] [๒๑๔] [๒๑๕] [๒๑๖] [๒๑๗] [๒๑๘]