คุณลัดดาวรรณ ลาภอนันต์นพคุณ อยู่เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เล่าว่า
เธอเคยเข้าวัดครั้งแรกเมื่อสมัยเรียนมัธยม แล้วหลังจากนั้น ไม่ได้มาตั้งหลายปี จนช่วงหลังที่ทางวัดได้มีการทำ บุญใหญ่มีการสร้าง พระประจำตัว ประดิษฐาน ณ มหาธรรมกายเจดีย์ ครอบครัวของเธอ ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ก็ได้มาร่วมสร้าง พระธรรมกายประจำตัว กันทั้ง ครอบครัว
คุณลัดดาวรรณมีบุตร ๒ คน คือ ด.ญ.วราภรณ์ แก้วมณี หรือน้องแนน และ ด.ญ.กนกรัชต์ แก้วมณี หรือน้องนุก น้องนุก ปัจจุบันมีอายุ ๒ ขวบ ๘ เดือน เป็นเด็กที่ชอบสวดมนต์ และนั่งสมาธิ คุณลัดดาวรรณกล่าวว่า เวลาเธอสวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ หรือเปิดเทปสวด สรรเสริญนั้น พอน้องนุกได้ยิน ก็จะวิ่งมานั่งสมาธิด้วย และจากนั้น ก็จะวิ่งไปเล่นซุกซน ตามประสาเด็กต่อ
บางครั้งน้องนุกก็คว้าหนังสือสวดมนต์ มาชวนเธอไปสวดมนต์ ซึ่งเธอก็ต้องทิ้งงานที่กำลังทำอยู่ เพื่อไปสวดมนต์กับลูก น้องนุก ก็จะสวด อยู่สักพักหนึ่ง ก็จะหนีไปเล่นต่อ และปล่อยให้เธอสวดมนต์ อยู่คนเดียวจนจบ ซึ่งคุณลัดดาวรรณกล่าวว่า
น้องนุกมักจะพบอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ เป็นประจำ ซึ่งส่งผลให้เธอและครอบครัว ศรัทธา และเชื่อมั่นในอานุภาพของ พระรัตนตรัย เป็นอย่างมาก
เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๑ พี่สาวและน้องสาวของเธอ ได้ไปรับพระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นกรอบทองพญานาค จากการสร้าง พระแกนกลาง จารึกชื่อ พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วันนั้น น้องนุกป่วยนอนอยู่ในห้องที่บ้าน ประมาณ ๔ โมงเย็น น้องนุกตื่นขึ้นมา ก็นอนลืมตามองเพดานห้อง ในลักษณะนิ่งค้าง เหมือนเด็กช็อค เธอตกใจมาก คิดว่าอาการหนัก เพราะเวลาน้องนุกไม่สบาย ทีไร อาการจะหนักทุกครั้ง มักจะหอบจนหน้าซีด
เธอจึงถามว่า นุกเป็นอะไร น้องนุกตอบว่า แม่เห็นไหม พระเต็มห้องเลย พร้อมกับชี้ไปรอบ ๆ ห้อง เธอจึงนำภาพ พระมหาสิริราชธาตุ และภาพพระธรรมกายประจำตัว มาให้ดูแล้วถามว่า เป็นพระแบบไหน? น้องนุกก็ชี้ไปที่ภาพ พระมหาสิริราชธาตุ แล้วกล่าวว่า พระอย่างนี้ เต็มห้องเลย
ซึ่งคุณลัดดาวรรณกล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกนะคะ เพราะขณะนั้น พี่สาวและน้องสาวของดิฉัน ยังเดินทางมาไม่ถึงบ้าน แต่พระมหาสิริ ราชธาตุ ได้เดินทางมาถึงก่อน น้องนุกซึ่งเป็นเด็กในขณะนั้น อายุแค่ ๒ ขวบกว่า ได้เห็นก่อนใครในบ้านเลย
คุณลัดดาวรรณ กล่าวว่า น้องนุกนั้นจะฝันถึงพระเป็นประจำ ซึ่งเมื่อฝันแล้ว น้องนุกก็จะมาเล่าให้เธอฟังเป็นประจำ เช่น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง น้องนุกได้ฝันเห็นพระมหาสิริราชธาตุ มาหา และพูดคุยด้วย โดยตื่นเช้าขึ้นมา น้องนุกได้ชี้ไปที่ภาพ พระมหาสิริราชธาตุ แล้วพูดว่า พระพูดได้ พระพูดได้ พระมาพูดกับน้องนุกเมื่อคืน
เมื่อเธอพาน้องนุก มาวัดพระธรรมกาย ในขณะที่รถกำลังแล่นเข้าเขตวัด น้องนุกก็ได้ลุกขึ้นมา แล้วบอกว่า นี่ไงวัดพระธรรมกาย มีพระ พูดได้ ทั้งๆ ที่เธอก็เคยพาน้องนุกไปวัดแถวบ้าน ก็ไม่เคยเห็นน้องนุก พูดอะไรแบบนี้เลย และเมื่อมาในบริเวณวัด น้องนุกก็ไปวิ่งเล่น แต่แล้ว บังเอิญพลาด พลัดตกลงมา จากเครื่องเล่นหัวโน และเมื่อกลับมาที่บ้าน คืนนั้น น้องนุกก็มีอาการไข้และก็หลับไป
ตื่นเช้ามาน้องนุกก็มาเล่าให้ฟัง โดยชี้ไปที่ภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่เธอได้บูชาไว้ แล้วบอกว่า พระองค์นี้ไง เมื่อคืนมาหาหนู แล้ว บอกว่า ให้หายไวๆ นะ แล้วมาที่วัดอีกนะ หลังจากนั้นอ าการของน้องนุก ก็หายอย่างรวดเร็ว
ความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยอีกเรื่องคือ น้องนุก เป็นโรคประจำตัวอยู่ คือ โรคหอบหืด เวลาเป็นขึ้นมา จะมีอาการหนักมาก หอบจน หน้าซีด นอนซมอยู่กับที่ เวลาไปหาคุณหมอ คุณหมอจะพ่นยาบ้าง เอาเครื่องมาดูดเสมหะให้บ้าง เป็นแต่ละครั้งกว่าจะหาย กินเวลาเป็น สัปดาห์ แล้วเป็นประจำ แทบทุกเดือน จนเธอกลุ้มใจมาก
ตั้งแต่เธอได้สร้างพระประจำตัว ประดิษฐาน ภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ จารึกชื่อของน้องนุก อาการของน้องนุกก็ดีขึ้น อย่างอัศจรรย์ สุขภาพร่างกายของน้องนุก ก็ดีขึ้นมาก ไม่เป็นเหมือนครั้งก่อนๆ เวลาเป็นขึ้นมา เธอก็อธิษฐานต่อ พระมหาสิริราชธาตุ ทำน้ำมนต์ให้ดื่ม อาการ ก็จะทุเลาลง อย่างรวดเร็ว ซึ่งเธอบอกว่า เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมือดูดเสมหะแล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเชื่อมั่นและศรัทธา ในอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุมาก และหมั่นสวดสรรเสริญ และระลึก นึกถึงคุณ อันไม่มีประมาณของ พระรัตนตรัย อยู่เป็นประจำ
[สารบัญ] [๒๘๒] [๒๘๓] [๒๘๔] [๒๘๕] [๒๘๖] [๒๘๗]
[๒๘๘] [๒๘๙] [๒๙๐] [๒๙๑] [๓๐๐] [๓๐๑] [๓๐๒]
[๓๐๓] [๓๐๔]