อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๕๑. หนังสือพารวย

คุณสถาพร เหมวงศ์ อยู่แถวบางบอน ทำธุรกิจบ้านจัดสรร ย่านเดอะมอลล์บางแค เล่าว่า

ตามปกติวิสัย ตนเองเป็นคนชอบทำบุญ ไม่ว่าวัดไหน ถ้าได้รับทราบข่าวบุญ วัดไหนที่ไหนไปหมด แต่สำหรับวัดพระธรรมกาย ก็ยั้งๆ ไว้ก่อน ยังไม่พร้อม ที่จะมาสร้างบุญที่วัดนี้เลย ทั้งๆ ที่ก็มีเพื่อนๆ หลายคน มาชวนสร้างพระ ที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งตนได้ทราบข่าวลือต่างๆ ตอนนั้น ก็ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน จนกระทั่งปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นช่วงทุ่มสุดฤทธิ์ปิดเจดีย์ เพื่อนหลายคน ก็มาชวนสร้างพระ ซึ่งตนก็ยังลังเลอยู่

 และวันหนึ่งก็มีรุ่นพี่ของคุณสถาพร ชื่อคุณวรรณพร ดีเสมอ เป็นรุ่นพี่ที่ตนเคารพนับถือมากอยู่ท่านหนึ่ง ได้อุตส่าห์มาเยี่ยม เพื่อแจ้งข่าวบุญนี้ ถึงบริษัทของตน ทั้งที่พี่เขาก็มีงานมาก กว่าจะปลีกเวลามาได้ ต้องจัดสรรเวลาอย่างยิ่งยวด พอพบกันพี่เขาก็ชวนสร้างพระ เพราะเห็นว่า สนิทกัน และหวังดีต่อคุณสถาพร ที่จะได้ทำมหากุศลอันยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะพลาดโอกาสอันสำคัญ

คุณสถาพรก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะเกรงใจพี่คนนี้มาก สักองค์หนึ่งก็แล้วกันครับ ก่อนลากลับ พี่ก็มอบหนังสือ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ พร้อม เทปธรรมะให้ 

วันนั้นปิดบริษัท กำลังจะกลับบ้าน ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กับบริษัทของตน ปกติจะเก็บเอกสารทุกอย่าง รวบรวมไว้ในลิ้นชักหมด จะไม่หยิบเข้าไปใน บ้าน แต่วันนั้น ไม่รู้เป็นอย่างไร เหมือนมีอะไรมาดลใจ จึงหยิบเอกสาร ที่พี่วรรณพรมอบไว้ให้ เอาเข้าไปในบ้านด้วย

กลับถึงบ้านบอกภรรยาชื่อณัฐนุชว่า วันนี้พี่วรรณพรเขามาบอกบุญสร้างพระ พอทราบว่าเป็นวัดพระธรรมกาย ภรรยาก็ปฏิเสธทันที ซึ่ง คุณสถาพรบอกว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะ คุณสถาพรและภรรยา ไม่เคยมาวัดเลย ได้ยินแต่ข่าวลือต่างๆ ที่ว่าวัดไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้

พอรู้ว่า ภรรยาไม่เห็นด้วย คุณสถาพรก็ไม่ได้พูดแสดงความคิดเห็น แต่ยื่นหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ให้ดู พอภรรยาเห็นหนังสือ และหยิบหนังสือขึ้นมา ก็อุทานทันทีว่า อุ๊ย! หนังสืออะไร มีพลังด้วย ภรรยาจึงรีบอ่านอย่างใจจดใจจ่อ ส่วนคุณสถาพรเอง รีบนำหนังสือ พระมหาสิริราชธาตุ อีกเล่มหนึ่ง มาตั้งนะโมฯ ๓ จบแล้วจึงเริ่มอ่าน 

เมื่ออ่านแล้วจึงลองอธิษฐาน ว่า ถ้าพระมหาสิริราชธาตุศักดิ์สิทธิ์จริง พรุ่งนี้ก่อน ๓ โมงเย็น ก็ขอให้ ดลใจลูกค้าของผม ที่ชื่อคุณเบล์ ที่ยัง ไม่ยอมทำสัญญา เกี่ยวกับเรื่องการขอเช่าสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ ที่คุณสถาพรดูแลอยู่ มีค่าเช่าเดือนละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท และเงินประกันอีก ๖๐๐,๐๐๐ บาท ก็ขอให้ช่วยไปดลใจเขา มารับหลักการด้วยเถิด เพราะก่อนหน้านี้ เขาปฏิเสธไปแล้ว 

แต่แล้วพอวันรุ่งขึ้น ก็ทำงานตามปกติ พอบ่าย ๓ โมง ก็มีโทรศัพท์เข้ามาปรากฏว่า เป็นคุณเบล์ และได้คุยโทรศัพท์กับคุณสถาพรว่า อยากมา คุยด้วยอีกครั้ง พอเขามา ก็ตกลงทำสัญญาเช่ากันทันที อย่างง่ายดาย ซึ่งคุณสถาพรก็ รู้สึกแปลกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ เขาเคยปฏิเสธ การเช่า ไปแล้ว แต่อยู่ๆ เขาก็รับหลักการ และก็ตกลง ตามที่คุณสถาพรเสนอ 

ซึ่งคุณสถาพรก็ได้ค่าเช่าที่ตั้งใจคือ ๓๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน และ เงินประกันอีก ๖๐๐,๐๐๐ บาท เหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงทำให้คุณสถาพรเชื่อ ในอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

ส่วนภรรยาของคุณสถาพรก็แอบอธิษฐานเช่นกัน เพราะรู้สึกเขิน ที่ตอนแรกรู้สึกต่อต้าน เนื่องจากบ้านที่คุณสถาพรและภรรยาพักอยู่นั้น ก็ ได้เปิดเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งอยู่บริเวณแมคโครบางบอน ภรรยาจึงขอว่า พรุ่งนี้ ลูกขอเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาท เพื่อจะนำไปสร้างพระ ซึ่งภรรยาได้กล่าวในภายหลังว่า ในตอนนั้น ไม่รู้จะอธิษฐานอย่างไร ก็อธิษฐานแบบกำหนดวันไปเลย

รุ่งเช้าก็เปิดร้าน ในช่วงเช้าถึงเที่ยงได้เงินมาเพียง ๑๗,๐๐๐ บาท ภรรยาคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้คงไม่ได้แน่ เพราะสถิติทุกวันที่ผ่านมา จะมีการ ขายที่ได้เงินสดเข้าก็ช่วงเช้านี้แหละ ส่วนช่วงบ่าย ลูกค้าก็จะน้อย และบางรายก็จะซื้อแบบขอเครดิตด้วย

ภรรยาคุณสถาพรไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็ตัดสินใจขึ้นไปห้องพระ นั่งสมาธิ และอธิษฐานขออีกรอบ ว่าขอให้ได้เงินสดอย่างน้อยสัก ๕๐,๐๐๐ บาท เถอะ ลูกจะได้นำเงิน ไปสร้างพระ หลังจากนั้นก็มาขายของต่อ 

ซึ่งช่วงบ่าย ภรรยาก็บอกว่าเป็น ที่น่าแปลก ลูกค้าไม่รู้มาจากไหน ขายได้ตลอด และขายได้เงินสดด้วย ตกเย็นปิดร้าน ปรากฏว่า วันนั้น นับเงินได้เงินสด ๕ หมื่นเศษ ตามที่ตนเองตั้งใจอย่างอัศจรรย์ และในตอนกลางคืน ก็มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแต่นัดว่า อีก ๒ วัน จะนำเงินมาให้ เกิดจู่ๆ ก็เกิดเปลี่ยนใจ นำมาจ่ายให้เลย คืนนั้นนับเงินรวมกันได้ทั้งหมด ๑ แสนเศษ

ซึ่งในวันนั้น ทำให้ภรรยาของคุณสถาพร เกิดความปีติ และศรัทธาในอานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุมาก และในวันอาทิตย์ ก็เดินทางมาทำ บุญกันทั้งครอบครัว 

พอก้าวแรกที่ถึงวัดก็บอกกับตัวเองเลยว่า นี่แหละวัดในอุดมคติ สะอาด เป็นระเบียบ มีวินัย มาถึงแล้ว สบายกายสบายใจ วันนั้น สร้างพระ ภายนอก ๖ องค์ พระแกนกลาง ๑ องค์ 

หลังจากที่ได้สร้างองค์พระแล้ว คุณสถาพรกล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกอบอุ่นขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพราะปัจจุบัน เราจะสวดมนต์พร้อมๆ กัน ทั้ง ครอบครัว และนึกถึงบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทำมา และถ้าวันไหน ผมทำงานกลับมาดึก ผมก็ไม่เคยที่จะขาด การสวดมนต์เลย แม้แต่วันเดียว และ ปัจจุบัน คุณสถาพรก็สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ วันละ ๓ รอบไม่เคยขาด

คุณสถาพรทำธุรกิจบ้านจัดสรรด้วย ซึ่งตั้งชื่อบ้านจัดสรรตามชื่อภรรยาคือ ณัฐนุช แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจไม่ดี โครงการที่เปิดมา ก็ยังไม่มีใคร มาซื้อเลย แต่ภายหลังจากที่ทำบุญ สร้างพระธรรมกาย ประจำตัว และที่เคยพบอานุภาพบุญด้วยตัวเอง จึงมีความเชื่อมั่น จึงนั่งสมาธิ และ นึกถึงบุญที่ตนได้สร้างพระมา และอธิษฐานจิตว่า ภายใน ๗ วันนี้ ขอให้ลูกขายบ้านได้สักหลังหนึ่งเถอะ

หลังจากที่อธิษฐาน ๓ วันก็มีโทรศัพท์ติดต่อ โดยภรรยาของคุณสถาพรเป็นคนรับสาย และก็ได้คุยรายละเอียด เกี่ยวกับเรื่องบ้าน จากนั้น เขาก็มาคุยที่ ออฟฟิศ เขาบอกว่า ูหลายที่แล้วสวยกว่าของคุณ ดีกว่าของคุณ แต่ไม่รู้ชอบได้ยังไง แพงก็แพง แต่มีความรู้สึกว่า อยากได้ วันรุ่งขึ้น เขาก็นำเงินมาวาง เขาจ่ายเงินล่วงหน้าทันที ๙๙,๙๙๙ บาท และต่อมาก็จ่ายเงินจำนวนทั้งสิ้น ๕ ล้านบาท

คุณสถาพรกล่าวอย่างมั่นใจว่า เรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์ของ พระมหาสิริราชธาตุ และคงเป็นบุญกุศล ที่ตนเองทำมา ทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เป็นอัศจรรย์ ล่าสุดเมื่อช่วงวันวิสาขบูชา ก็ได้ร่วมบุญบูชาธรรมหลวงพ่อ อีกหนึ่งแสนบาท ธุรกิจผม ไม่รู้เป็นอย่างไร ผมยิ่งทำบุญที่นี่ ก็ยิ่งมีความสุขใจสบายใจ คงเป็นเพราะกระแสบุญหล่อเลี้ยงกระมัง

นี่ก็เป็นอีกรายหนึ่งที่เชื่อข่าว กระทั่งตอนแรก ไม่คิดจะทำบุญสร้างพระ ที่วัดพระธรรมกาย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเสียหลายปี จนกระทั่งเดือน ตุลาคม พ.ศ ๒๕๔๑ ทางวัดจะปิดรับการทำบุญ สร้างพระภายนอกเจดีย์ เพื่อนรุ่นพี่ที่นับถือกันมา ปลีกเวลามาชวนให้ทำบุญ เกรง คุณสถาพร จะพลาดโอกาสทำบุญใหญ่ 

คุณสถาพรรู้สึกเกรงใจคนมาชวนเต็มที จึงรับปากอย่างเสียไม่ได้ว่า สักองค์หนึ่งก็แล้วกันครับ

การรับปากทำบุญ ในสภาพดังกล่าว กุศลจิตมีกำลังน้อยมาก เพราะขาดปีติโสมนัส ไม่ดีใจที่จะได้กระทำ มีแต่อุเบกขาเวทนา คือรู้สึกเฉยๆ ขาดสติปัญญา ที่จะรู้ว่า ทำบุญสร้างองค์พระ เพื่อวัตถุประสงค์อะไร แถมยังไม่ได้ตั้งใจกระทำบุญนั้น ด้วยตนเอง ต้อง รอจนมีคนที่ตนเคารพ เกรงใจมากๆ มาชวนชี้นำ เป็นสะสังขาริกัง ไม่ใช่อะสังขาริกัง อานิสงส์จึงยิ่งน้อยลงไปอีก

แต่ก็ยังนับว่า มีโชคดีอยู่ ที่ได้รับหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ไปถึง ๒ เล่ม จากเพื่อนผู้นั้นก่อนลากลับ

คุณสถาพรและภรรยา คงจะมีบุญมาไม่น้อย เพราะพอภรรยารับหนังสือจากสามี ถึงกับออกอุทานว่า อุ๊ย! หนังสืออะไรมีพลังด้วย

หนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ผู้ดำริในการจัดทำ มีวัตถุประสงค์อยู่  ๒ ประการ คือ ประการแรก เพื่อรวบรวมข้อมูลความจริง ที่เกิดขึ้นจาก อานุภาพขององค์พระไว้ เป็นหลักฐาน ให้คนรุ่นหลังอ่านทราบแล้ว จะได้รู้สึกชื่นใจ มีปีติโสมนัสในคุณของพระรัตนตรัย ที่ผู้กระทำความดี มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง บุญกุศลก็จะตามคุ้มครองปกป้องรักษา และจะได้มีกำลังใจ และแนวทางในการทำความดี เพิ่มขึ้น

เหมือนที่ยุคนี้ เราอ่านความศักดิ์สิทธิ์ของพระของขวัญ ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสร้าง พระสมเด็จที่หลวงพ่อโตวัดระฆังสร้าง ฯลฯ แล้วรู้สึก เลื่อมใส ศรัทธา พลอยให้เต็มใจศึกษา พระพุทธศาสนาไปโดยปริยาย

ประการที่สอง เพื่อเป็นหนังสือเพื่อการสร้างบารมี ติดตามหาเจ้าของบุญสร้างองค์พระประดิษฐานไว้ ณ มหาธรรมกายเจดีย์ ให้เป็น ปูชนียสถาน ผู้ใดมาเคารพสักการะ ย่อมเกิดมหากุศลจิต ระลึกถึงพระรัตนตรัย เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา พาให้คิดปฏิบัติตาม พระธรรมคำสั่งสอน เหมือนสืบอายุ บวรพระพุทธศาสนา ไปในตัว

เมื่อวัตถุประสงค์ของการสร้างหนังสือ มีอย่างน้อย ๒ ประการ ดังกล่าว ทำให้หนังสือนั้น ทรงความศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นในตัว เจ้าของบุญ อยู่ที่ใด บุญญานุภาพของเจ้าของ ย่อมดึงดูดไปให้ได้พบ ได้อ่าน และทำให้เกิดศรัทธา ได้ทำบุญเพิ่มเติมใหม่ ในภพชาตินี้

มีตัวอย่างที่เล่ากันมาแล้ว คนที่เชื่อสื่อโจมตีวัด ได้รับหนังสือแล้ว รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ขยำทิ้งลงในถังขยะข้างถนน เจ้าของบุญคนหนึ่ง นำขยะไปทิ้ง เห็นหนังสือเข้า เอามาคลี่อ่าน จึงได้ทราบข่าวบุญ ทำให้มีโอกาสสร้างองค์พระกันทั้งบ้าน เกือบ ๑๐ องค์เป็นต้น

คุณสถาพรและภรรยาอ่านหนังสืออานุภาพแล้ว ศรัทธาเกิดขึ้นเปี่ยมล้น ทำบุญด้วยความเต็มใจ มีปัญญาในการทำบุญ จึงมีผลไพศาล อธิษฐานสิ่งใด ก็สำเร็จทั้ง ๒ คน เป็นอัศจรรย์  ได้ทำบุญสร้างองค์พระเพิ่มเติม อีกหลายองค์ ยืนยันว่า ทำบุญแล้ว ครอบครัวอบอุ่น การทำมาหากิน ราบรื่น ในปัจจุบันทันตาเห็น


[สารบัญ] [๓๔๘] [๓๔๙] [๓๕๐] [๓๕๑] [๓๕๒] [๓๕๓] [๓๕๔]